ดร.ปัญญาหาญลำยวงอธิบดีกรมพลศึกษาเป็นประธานในการแถลงข่าวการแข่งขันกีฬานักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนครั้งที่8 ประจำปี2562 ชิงถ้วยพระราชทานคะแนนรวมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีโดยมีพล.ต.ท.สมพงษ์ชิงดวงผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.), พล.ต.ต.วันชาติคำเครือคงรองผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนและดร.วินิตย์จันทร์มนตรีผู้อำนวยการสำนักการกีฬากรมพลศึกษาร่วมด้วยที่ห้องประชุมศุภชลาศัยสนามกีฬาแห่งชาติปทุมวันเมื่อวันที่3 เมษายน
การแข่งขันกีฬานักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนครั้งที่8 ประจำปี2562 จะจัดการแข่งขันช่วงวันที่27-30 เมษายนที่สนามกีฬาราชนิเวศน์กรีฑาสถานกองกำกับการ1 กองบังคับการฝึกพิเศษ(ค่ายพระรามหก) กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนอ.ชะอำจ.เพชรบุรีภายใต้คำขวัญ“ฮักแพงแบ่งปันสานสัมพันธ์สามัคคี” โดยมีการชิงชัย6 ชนิดกีฬาสากลคือกรีฑา, แชร์บอล, เซปักตะกร้อ, เปตอง, ฟุตบอล7 คนและวอลเลย์บอลรวมถึงกีฬาพื้นบ้านด้วยซึ่งจะแบ่งออกเป็น3 รุ่นอายุคือรุ่นอายุไม่เกิน10 ปี, รุ่นอายุไม่เกิน12 ปีและรุ่นไม่เกิน14 ปีทั้งนี้จะมีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน217 แห่งจาก4 ภาคทั่วประเทศเข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้นกว่า1,680 คน
ดร.ปัญญากล่าวว่ากรมพลศึกษาร่วมกับกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนจัดการแข่งขันกีฬานักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนครั้งที่8 ประจำปี2562 ชิงถ้วยพระราชทานคะแนนรวมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้เด็กนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์รักการเล่นกีฬารู้จักรักษาสุขภาพพลานามัยเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดี
“การแข่งขันกีฬานักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเป็นการเปิดโอกาสให้ครูและนักเรียนได้ร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรมภูมิปัญญาไทยการละเล่นรวมถึงการนำกิจกรรมนันทนาการไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุขอีกทั้งยังก่อให้เกิดความสามัคคีกลมเกลียวในหมู่คณะสำหรับในอนาคตก็หวังที่จะมีการต่อยอดการแข่งขันด้วยการเพิ่มชนิดกีฬาในการชิงชัยอีกด้วย” อธิบดีกรมพลศึกษากล่าว
พล.ต.ท.สมพงษ์กล่าวว่ากีฬานักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเริ่มจัดการแข่งขันครั้งแรกเมื่อปี2554 ซึ่งตชด.ได้ร่วมมือกับกรมพลศึกษาเพื่อจัดกิจกรรมให้กับเด็กนักเรียนใน217 โรงเรียนที่อยู่ตามชายขอบได้มีโอกาสแข่งขันกีฬาร่วมกันซึ่งนักเรียนกลุ่มนี้รอความหวังที่ได้หยิบยื่นให้เขาจนถึงปีนี้จัดการแข่งขันขึ้นเป็นครั้งที่8 แล้วซึ่งจะมีส่วนสำคัญที่ทำให้กลุ่มเด็กเหล่านี้ได้รู้สึกรักในแผ่นดินแม้ว่าบางคนจะยังไม่ได้รับสัญชาติก็ตามและได้มีโอกาสในการเล่นกีฬาเพื่อพัฒนาศักยภาพของตัวเอง
“การแข่งขันครั้งนี้จะช่วยเป็นการสร้างวินัยให้กับเด็กเรียนให้รู้จักแพ้–ชนะรวมทั้งการแข่งขันครั้งนี้อาจจะมีแมวมองมาดูนักกีฬาที่พอจะมีแววเพื่อดึงตัวไปพัฒนาต่อยอดเป็นนักกีฬาทีมชาติต่อไปในอนาคตได้ด้วย” ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนกล่าวปิดท้าย