การแข่งขันเทนนิสชิงแชมป์โลก ประเภททีมชาย “เดวิสคัพ” ปี 2019 กลุ่ม 2 โซนเอเชีย/โอเชียเนีย ระหว่าง ทีมชาติไทย กับ ทีมชาติฟิลิปปินส์ ได้มีพิธีเปิดการแข่งขันขึ้นที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ เมืองทองธานี เมื่อวันที่ 5 เมษายน โดยสถิติที่ผ่านมาเคยพบกัน 8 ครั้ง ผลัดกันแพ้-ชนะทีมละ 4 ครั้ง แต่ใน 2 ครั้งล่าสุดที่เจอกัน ทีมนักหวดไทยสามารถคว้าชัยรวด 2 นัด โดยในปี 2017 ทีมไทยชนะในบ้านด้วยสกอร์ 5-0 คู่ และปี 2018 ทีมไทยบุกเอาชนะได้ด้วยสกอร์ 4-1 คู่
การแข่งขันแมตช์นี้ คู่แรก ประเภทเดี่ยวสลับมือ“เน็ต” พลภูมิ โควาพิทักษ์เทศ นักหวดหนุ่มดาวรุ่งวัย 19 ปี และมือ 2 ของไทย หวดโค่นชนะ เจสัน ปาตรอมบอน นักหวดวัย 26 ปี มือ 1 ฟิลิปปินส์ และมือ 1,306 ของโลก 2-1 เซต 6-3, 2-6, 6-4 เก็บแต้มแรกให้ทีมไทยขึ้นนำก่อน 1-0 คู่
หลังการแข่งขัน พลภูมิ เปิดเผยว่า เกมนี้ถือว่าตีได้ค่อนข้างดี แต่ว่ามีบางช่วงที่สมาธิหลุด และความนิ่งในเกมยังไม่คงที่เท่าไหร่ แต่ว่าโดยรวมแล้วก็ถือโอเค ซึ่งในช่วงเซตสองยอมรับว่า ตื่นเต้น และกดดันตัวเองจนตีผิดพลาดไป แต่กัปตันทีม ร.ต.อ.ดนัย อุดมโชค ก็ได้แก้เกมให้เราจนกลับมาเล่นได้ดีในช่วงเซตสาม
“ยังมีจุดที่ต้องปรับเรื่องความนิ่งในเกม และยังขาดประสบการณ์ในการเล่นทีมชาติ ทำให้บางช็อตตีได้ไม่ดีเท่าไร แต่จากแมตช์นี้ทำให้มีความมั่นใจมากขึ้นกับการชนะได้ในแมตช์เดวิสคัพที่มีผลกับทีมไทย และเป็นการชนะมือ 1 เขาด้วย ทำให้สถานการณ์ทีมไทยค่อนข้างได้เปรียบ ส่วนแมตช์ต่อไปกับมือ 2 ฟิลิปปินส์ก็เห็นว่า เขาค่อนข้างตัวใหญ่ และเทอะทะ ซึ่งถ้าได้โอกาสลงสนามก็จะพยายามเล่นตามเกมตัวเอง เพราะเราสามารถเล่นได้กับทุกคนทุกสไตล์” พลภูมิ กล่าว
คู่ต่อมาประเภทเดี่ยวสลับมือ “จูเนียร์” วิชยา ตรงเจริญชัยกุล นักหวดหนุ่มมือ 1 ไทย วัย 23 ปี และมือ 488 ของโลก ชนะ อัลแบร์โต้ ลิม ดาวรุ่งวัย 19 ปี และมือ 2 ฟิลิปปินส์ 2-0 เซต 6-4,7-6(4) โดยแมตช์นี้วิชยาเสิร์ฟเอซมากถึง 11 ครั้ง และใช้เวลาการแข่งขันทั้งสิ้น 1 ชั่วโมง 20 นาที ทำให้ทีมไทยประเดิมวันแรกขึ้นนำทีมฟิลิปปินส์ 2-0 คู่ ซึ่งการแข่งขันวันที่สองในวันที่ 6 เมษายน เป็นประเภทคู่ และประเภทเดี่ยวชนมือ โดยทีมไทยต้องการชนะอีกเพียงคู่เดียวเท่านั้นก็จะคว้าชัยชนะเหนือทีมฟิลิปปินส์ทันที
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
หลังการแข่งขัน วิชยา กล่าวว่า พอใจที่เก็บแต้มให้ทีมได้ ทำให้อยู่ในสถานการณ์ที่ได้เปรียบขึ้นนำ 2-0 คู่ ขณะที่เกมนี้ในเซตสองอาจมีหลุดนิดหน่อยจนต้องเล่นที่ไทเบรก แต่ก็ยังสามารถคว้าชัยได้ ซึ่งโดยรวมก็รู้สึกพอใจ และก็รู้สไตล์การตีของคู่แข่งเขาอยู่แล้ว สำหรับแมตช์หน้าถ้าหากได้โอกาสลงสนามก็พอจะรู้สไตล์ของมือ 1 ฟิลิปปินส์อยู่แล้ว และค่อนข้างมั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะได้
ด้าน “กัปตันปิ๊ก” ร.ต.อ.ดนัย อุดมโชค กัปตันทีมเดวิสคัพไทย กล่าวว่า พอใจการแข่งขันวันแรกที่หวังไว้ลึกๆ อยู่แล้วว่าจะขึ้นนำก่อน 2-0 แต้ม และนักกีฬาก็ทำได้ตามเป้าหมาย สำหรับการแข่งขันวันที่สองนั้น มั่นใจว่า คู่แฝดไทย “ต้น” สนฉัตร และ “ต้อง” สรรค์ชัย รติวัฒน์ จะคว้าชัยช่วยให้ทีมไทยชนะขาด 3-0 ได้ เพราะทั้งคู่มีประสบการณ์เยอะพอสมควรอยู่แล้ว ถ้าร่างกายทั้งคู่ไม่มีปัญหาอะไรเชื่อมั่นว่าจะเก็บชัยชนะได้ไม่ยาก แต่ก็จะประมาทไม่ได้
กัปตันปิ๊กกล่าวอีกว่า ได้ให้นักกีฬาทุกคนเตรียมพร้อมเอาไว้สำหรับแมตช์ของตัวเอง ซึ่งหากทีมไทยชนะขาด 3-0 แล้วก็วางแผนเอาไว้ว่าอยากจะให้ “บูม” กษิดิศ สำเร็จ ดาวรุ่งวัย 18 ปี ลงไปแข่งขันหาประสบการณ์แทนวิชยา เพราะรายการนี้เป็นอีกหนึ่งเวทีที่สามารถสร้างประสบการณ์ให้กับน้องได้
