สกู๊ปพิเศษ : ‘รู้จัก-รู้ทัน’ ก่อนถึงเวลา ‘ซีเกมส์’ ดินแดนตากาล็อก

ฟิลิปปินส์ รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ด้วยขนาดเกมที่ใหญ่กว่าทุกครั้ง จัดแข่งขันถึง 56 ชนิดกีฬา รวม 523 อีเวนต์ ชนิดกีฬาและจำนวนเหรียญมากที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่การเตรียมการและความพร้อมในด้านต่างๆ ดูสวนทางกับความคาดหวังที่เจ้าภาพอยากจะให้มหกรรมกีฬาของชาวอาเซียนครั้งนี้ยิ่งใหญ่กว่าครั้งไหนๆ วันนี้ขอรวบรวมสิ่งที่ต้องรู้ก่อนซีเกมส์จะเปิดฉากกันก่อน

ที่ไหน เมื่อไร อย่างไร?
ฟิลิปปินส์กำหนดจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม ปีนี้ โดยเลือกนิว คลาร์ก ซิตี้ เมืองท่าที่เคยเป็นฐานทัพของสหรัฐอเมริกาในอดีต ปรับปรุงให้มีความทันสมัย และเป็นสังเวียนพิธีเปิดการแข่งขัน กรุงมะนิลา เมืองหลวงก็รับหน้าเสื่อในหลายชนิดกีฬา โดยให้เมืองใกลๆ มะนิลา คือ ซูบิค รับหน้าที่ไปอีกเมือง แบ่งเป็นกรุงมะนิลา 22 กีฬา, คลาร์ก 17 กีฬา และเมืองซูบิค 14 กีฬา

56 ชนิดกีฬาที่มีแข่งขัน ประกอบด้วย กรีฑา, ว่ายน้ำ, ยิงธนู, แบดมินตัน, เนตบอล, ซอฟต์บอล, บาสเกตบอล, บิลเลียด, โบว์ลิ่ง, มวยสากล, จักรยาน, ขี่ม้า, ฟันดาบ, ฟุตบอล, กอล์ฟ, ยิมนาสติก, ยูโด, ยูยิตสู, คาราเต้โด, เรือใบ, เซปักตะกร้อ, ยิงปืน, สควอช, เทควันโด, ไตรกีฬา, วอลเลย์บอล, ยกน้ำหนัก, มวยปล้ำ, คูราช, วูซู, อาร์นิส, แดนซ์สปอร์ต, มวย, หมากรุก, ฟุตซอล, ฮอกกี้น้ำแข็ง, สเก็ตน้ำแข็ง, ปัญจกีฬาสมัยใหม่, ปันจักสีลัต, เรือพาย, รักบี้ฟุตบอล 7 คน, วินด์เซิร์ฟ, ซอฟต์เทนนิส, เทเบิลเทนนิส, เทนนิส, เรือคยัค, ฮอกกี้ในร่ม, เปตอง, กีฬาโต้คลื่น, อีสปอร์ต, คิกบ๊อกซิ่ง, ลอนโบว์ล, แซมโบ้, สเกตบอร์ด, ฟลอร์บอล, โววีนั่ม, ฮอกกี้ใต้น้ำ และกีฬาผจญภัย

Advertisement

ปัญหาเรื่องงบประมาณ
จากความที่คิดใหญ่ ทำใหญ่ ทำให้งบประมาณที่เตรียมไว้สูงลิ่ว 7.5 พันล้านเปโซ(4.5 พันล้านบาท) สูงกว่างบจัดของหลายประเทศก่อนหน้านี้ไม่เห็นฝุ่น แต่ฟิลิปปินส์ก็ถือโอกาสเป็นการสร้างสาธารณูปโภค และปรับปรุงสนามต่างๆ ไปด้วยเลย เนื่องจากนิว คลาร์ก ซิตี้ จะต้องสร้างสนามขึ้นมาใหม่ทั้งหมด และสนามหลายแห่งในมะนิลาก็ทรุดโทรมมากแล้ว

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ ทำให้วุฒิสภาตัดงบจัดการแข่งขันครั้งนี้ลงเหลือ 5 พันล้านเปโซ(3 พันล้านบาท) ทำให้คณะกรรมการจัดการได้รับผลกระทบอย่างจัง และมีการร้องขอให้อนุมัติงบ 7.5 พันล้านเปโซกลับมาอีกครั้ง เพราะได้เดินหน้าแผนงานต่างๆ ไว้หมดแล้ว แต่ก็ยังไม่มีข่าวว่าจะเพิ่มให้แต่อย่างใด
เมื่อปัญหาเรื่องเงินเกิดขึ้น ก็มีข่าวว่าสหพันธ์ซีเกมส์จะริบสิทธิการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ เพราะกลัวเรื่องความไม่พร้อม ทำเอาคีย์แมนกีฬาของแดนตากาล็อกต้องออกมาแก้ข่าวกันยกใหญ่

งบหาย-มาตรฐานลด
เมื่อเงินเตรียมการถูกลดทอนลง สนามแข่งขันก็ต้องปรับเปลี่ยนไปตามจำนวนเงินที่มีในกระเป๋า หลายสนามในกรุงมะนิลายังไม่มีการยืนยันว่าจะแข่งที่ไหน สำหรับสนามในศูนย์การค้ามอลล์ ออฟ เอเชีย ที่จะจัดบาสเกตบอล และสนามสมาร์ท อาราเนต้า ที่จะจัดวอลเลย์บอล เจ้าของสนามขอถอนตัวจากการเป็นสนามแข่งขัน เนื่องจากไม่สามารถให้ใช้สนามได้ตามช่วงเวลาที่กำหนดได้จนเสร็จสิ้นการแข่งขัน จึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอีก ทั้งๆ ที่ได้ประสานงานล่วงหน้าตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปีที่แล้ว

Advertisement

สำหรับสนามใหม่นั้น บาสเกตบอลจะย้ายไปแข่งที่ฟิลออยล์ ฟลายอิ้ง เซ็นเตอร์ และวอลเลย์บอลจัดที่ฟิลสปอร์ตส อารีน่า ขณะที่ยิมนาสติกก็เปลี่ยนแปลงเช่นกัน จากเดิมที่ศูนย์ประชุมเอสเอ็มเอ็กซ์ ไปเป็นที่ริซาล เมโมเรียล โคลิเซียม ส่วนอีสปอร์ต ที่เดิมจัดที่โรงแรมแมร์ริออต ในกรุงมะนิลา กลับต้องยกเลิก และหาสถานที่ใหม่ เนื่องจากต้องใช้งบประมาณสูงเกินไปถ้าจะจัดที่โรงแรม และตอนนี้ยังไม่มีสถานที่ใหม่รองรับ

สำนักข่าวอินไควเรอร์ของฟิลิปปินส์นำเสนอข่าวว่า สนามบาสเกตบอลและวอลเลย์บอลในซีเกมส์ถูกลดความยิ่งใหญ่ลงไป เนื่องจากสนามเดิมที่กำหนดไว้ถือเป็นสนามกีฬาที่ดีที่สุดที่จะจัดกีฬาทั้งสองชนิดแล้ว แต่เมื่อย้ายสนามทำให้มาตรฐานของสนามลดลงไปมาก

นี่เป็นแค่สนามกีฬาหลักๆ เท่านั้น สนามอื่นๆ ก็อาจจะมีผลกระทบเช่นกัน

เจ้าภาพไม่หวังเจ้าทอง?
ฟิลิปปินส์ยืนยันว่าการแข่งขันครั้งนี้ไม่ได้มองถึงการเป็นเจ้าเหรียญทองเลย ริคกี้ วาร์กาส ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ถึงแม้ฟิลิปปินส์จะเป็นเจ้าภาพและก่อนหน้านี้การเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 23 เมื่อ 14 ปีที่แล้วก็เป็นเจ้าเหรียญทองมาได้ แต่ครั้งนี้ไม่ได้ตั้งเป้าเป็นเบอร์ 1 ของอาเซียนอย่างใด แต่อยากจะพัฒนาให้ขยับจากเดิมที่จบอันดับ 6 เมื่อครั้งที่แล้ว ให้มาเป็นอันดับ 3 ของตารางเหรียญรวมให้ได้เท่านั้น เพราะสิงคโปร์ เวียดนามและไทย ยังมีศักยภาพที่ดีกว่าฟิลิปปินส์ ทำให้ไม่สามารถหวังสูงถึงการเป็นเจ้าเหรียญทองได้

แต่เมื่อดูจากสิ่งที่ฟิลิปปินส์เคยทำไว้ในการเป็นเจ้าภาพครั้งที่แล้ว ต้องบอกว่าซีเกมส์กลายเป็น “ซีโกง” ได้เต็มปาก เนื่องจากทำทุกวิถีทางเพื่อการเป็นเจ้าเหรียญทอง และก็ทำได้สำเร็จ คว้าเหรียญทอง 112 เหรียญ ทิ้งห่างไทย อันดับ 2 ถึง25 เหรียญ

ถ้าดูจากการเลือกชนิดกีฬา และตัดอีเวนต์ที่ชาติยักษ์ใหญ่ในอาเซียนเป็นเจ้าของเหรียญทองอยู่ รวมทั้งงบประมาณที่ลงทุนไปมาหศาลขนาดนี้ บอกเลยว่า “เชื่อไม่ได้”

ไม่มีใครกล้าหวังถึงแชมป์
ด้วยความที่รู้ฤทธิ์ฟิลิปปินสืกันดีอยู่แล้ว ทำให้ชาติยักษ์ใหญ่ไม่กล้าหวังไปถึงเจ้าเหรียญทอง
เจฟรี งาดิริน ประธานฝ่ายเตรียมนักกีฬาทีมชาติมาเลเซีย เปิดเผยว่า มาเลเซียตั้งเป้าเอาไว้ที่ 93-96 เหรียญทอง และจบอันดับ 1-3 ในของตาราง

กาต็อต เดวา โบรโต้ เลขาธิการกระทรวงเยาวชนและกีฬาอินโดนีเซีย กล่าวว่า ฟิลิปปินส์ในฐานะเจ้าภาพจึงมีความได้เปรียบในเรื่องชนิดกีฬาเป็นปกติ นอกจากนั้นไม่ได้วางเป้าที่ซีเกมส์เป็นหลัก แต่เตรียมนักกีฬาเพื่อประสบความสำเร็จในโอลิมปิกเกมส์ 2020 ปีหน้า ที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นหลักเท่านั้น ซึ่งไม่คาดหวังการเป็นเจ้าเหรียญทองซีเกมส์แต่อย่างใด

เหวียน ง็อก เธียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยว เวียดนาม กล่าวว่า เวียดนามตั้งเป้าเอาไว้ที่ 65 เหรียญทอง ซึ่งจะดีพอทำให้จบอันดับ 3 ของซีเกมส์ได้ อย่างไรก็ตามไม่ได้มองไปถึงแชมป์ เพราะมีหลายอีเวนต์ที่เวียดนามเป็นแชมป์เก่าแต่ถูกเจ้าภาพตัดออกไป จึงตั้งเป้าเอาไว้เบอร์ 3 เท่านั้น

แม้แต่ไทยเองก็ยังยอมรับสภาพว่า ฟิลิปปินส์ที่ถ่อมตัวเอาไว้ เป็นเต็งหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะความได้เปรียบของการเป็นเจ้าภาพ ซึ่งก็รู้ดีอยู่แล้วว่า ถ้าเวียดนาม, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ไทย เป็นเจ้าภาพเมื่อไร แชมป์ก็ย่อมตกอยู่ในมือเจ้าภาพทั้งนั้น การกีฬาแห่งประเทศไทย ที่มีหน้าที่ในการเตรียมนักกีฬา จะดูจากเหรียญรางวัลในกีฬาสากลเป็นหลัก

เพราะเป็นหนึ่งในการพัฒนานักกีฬาต่อยอดไปสู่โอลิมปิกเกมส์ในอนาคต แต่ก็จะไม่ทิ้งซีเกมส์ พยายามให้นักกีฬาคว้าเหรียญทองให้ได้มากที่สุดไว้ก่อน

ที่แน่ๆ ขอบอกไว้ก่อนว่า ซีเกมส์ครั้งนี้น่าจะซีเกมส์ที่น่าปวดหัวอีกครั้งหนึ่งเลยทีเดียว

ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image