ปัจจุบันมีนักเตะไทยมากมายค้าแข้งในต่างประเทศ โดยเฉพาะในศึกเจลีก ประเทศญี่ปุ่น ที่มีแข้งดังทั้ง “เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ กับคอนซาโดเล่ ซัปโปโร, “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน กับโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส, “นิว” ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กับโออิตะ ทรินิตะ รวมทั้ง “ตอง” กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นายด่านเบอร์หนึ่งที่ค้าแข้งกับโอเอช ลูเวิน ในลีกรองประเทศเบลเยี่ยม และ “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้าที่เคยค้าแข้งกับอัลเมเรีย ในลาลีก้า สเปน และซานเฟรซเช่ ฮิโรชินา ในเจลีกเมื่อฤดูกาลก่อน พร้อมกับได้รับค่าเหนื่อยจำนวนมาก
แต่หากย้อนกลับไปนักเตะไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ย้ายไปค้าแข้งต่างประเทศคือ เอกไชย สนธิขันธ์ เมื่อปี พ.ศ.2512 โดย เอกไชย ย้ายไปค้าแข้งกับสโมสรเรนเจอร์ ในลีกฮ่องกง ซึ่งเป็นทีมพันธมิตรในขณะนั้นกับ กลาสโกว์ เรนเจอร์ โดยเอกไชยเซ็นสัญญากับทีมต่างประเทศเมื่อ 48 ปีที่แล้ว พร้อมค่าเหนื่อยคิดเป็นเงินประมาณ 50,000 บาท (ค่าเหนื่อยรวมโบนัสประมาณ 8,000 บาทต่อเดือน
เอกไชย สนธิขันธ์ ระบุว่า หลังจากทำผลงานได้ดีในฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ปี 2511 ลีกฮ่องกงก็ทาบทามให้ไปเล่นอาชีพ ดีใจมากที่เขาเห็นความสามารถ ตนใช้เวลาตัดสินใจไม่นานเพื่อไปหาความฝันฟุตบอลกับเรนเจอร์ เป็นสโมสรพันธมิตรกับกลาสโกว์ เรนเจอร์ ค่าเหนื่อยต่อเดือนเบ็ดเสร็จตอนนั้นรับอยู่ที่ประมาณ 8,000 บาทต่อเดือน ซึ่งก็ส่งกลับมาทางบ้าน 3,000 บาททุกเดือน ที่เหลือก็ใช้ในการครองชีพ
“มันอาจจะดูไม่เยอะสำหรับค่าเหนื่อยหากเทียบกับยุคนี้ แต่ยุคนั้นค่าเงินฮ่องกง 1 เหรียญฮ่องกง เท่ากับ 2 บาท ราคาข้าวหมูแดงที่นั่นตกจานละ 20 บาท เมืองไทยตอนนั้นพวกที่จบ ป.ตรี รับเงินเดือนประมาณพันกว่าบาท เกาะฮ่องกงเป็นเกาะที่เจริญค่าครองชีพจึงสูง แต่ผมก็มีความสุขดี เพราะการได้เล่นฟุตบอลอาชีพต่างแดนมันคือความฝันของทุกๆคนที่เดินบนถนนนักฟุตบอล”
อย่างไรก็ตาม ด้วยฝีเท้าการเล่นของ เอกไชย สนธิขันธ์ ที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนประทับใจแฟนบอลชาวฮ่องกง จนเป็นที่มาของสื่อฮ่องกงที่ตั้งฉายาให้กับดาวเตะไทยรายนี้ว่า “ไทยก๊กจื้อ” ซึ่งแปลว่า “เด็กชายไทย” ซึ่งเขาเป็นผู้ยิงประตูได้สูงสุดในลีกฟุตบอลอาชีพของฮ่องกงอีกด้วย
สำหรับ เอกไชย สนธิขันธ์ เป็นชาวพระประแดง จ.สมุทรปราการ เริ่มต้นเล่นฟุตบอลระดับเยาวชนสมัยเรียนที่ ร.ร.อำนวยวิทย์, พ.ธนบุรี (จรัญฯ13) ก่อนก้าวไปติดทีมสโมสรทหารอากาศ, ราชวิถี, ท่าเรือ รวมไปถึงการติดทีมเยาวชนทีมชาติไทย และทีมชาติไทยชุดใหญ่ ในยุครุ่งเรืองสื่อไทยตั้งฉายาให้กับดาวเตะจากพระประแดงว่า “นักเตะลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา” เพราะบ้านเกิดอยู่ใกล้กับแม่น้ำเจ้าพระยา ปัจจุบันวัย 70 ปี
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
