เกรียนเขียนบอล : สอบผ่าน

เป็นอันว่าตอนนี้การขับเคี่ยวเพื่อแย่งชิงตั๋วไปฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลหน้า จบลงแบบที่ 99.99 เปอร์เซ็นต์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

หลังจากที่อันดับ 4-6 ต่างฝ่ายต่างแย่งกันไม่อยากไปเล่นฟุตบอลยุโรปกันมาตลอดช่วง 3-4 นัดที่ผ่านมา พร้อมใจกันแพ้ หรือทำแต้มตกหล่นกันอย่างต่อเนื่อง

ตอนนี้เหลือเพียงแค่ “น้องไก่” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ทีมเดียวเท่านั้น ที่ยังต้องลุ้นในนัดสุดท้าย แต่ด้วยประตูได้เสียที่นำห่าง “ปืนโต” อาร์เซน่อล ถึง 8 ประตู ถ้านัดสุดท้ายไม่ฟ้าถล่มดินทลาย ก็น่าจะผ่านไปเล่นได้แบบไม่ต้องลุ้นเยอะ

ทีมปืนใหญ่เองก็ต้องไปหวังกับ “ยูฟ่า ยูโรปา ลีก” ต้องเป็นแชมป์ให้ได้เท่านั้น จึงจะได้ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลหน้า

Advertisement

มาว่ากันที่ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ กันดีกว่า การเก็บชัยชนะเหนือ วัตฟอร์ด ได้ ทำให้พวกเขาคัมแบ๊กกลับไปเล่นถ้วยใหญ่อีกครั้ง หลังจากที่ผลงานลุ่มๆ ดอนๆ มา แต่สุดท้ายก็ทำผลงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

ถือว่าเป็นผลงานปีแรกของเมาริซิโอ ซาร์รี่ ที่ไม่เลวทีเดียว เพราะนอกจากการคว้าตั๋วไปแชมเปี้ยนส์ลีก พวกเขายังเข้าชิง คาราบาว คัพ และลุ้นเข้าชิง ยูโรป้า ลีก ได้อีกด้วย ให้สอบผ่านละกันกับผลงานตรงนี้

ตอนช่วงต้นฤดูกาล ยอมรับเลยว่าผลงานของซาร์รี่ ถือว่าเหนือความคาดหมาย พาทีมไม่แพ้ใคร 12 นัดติด แต่พอเริ่มเสียศูนย์ แถมดูจะมีปัญหากับนักเตะบางราย

Advertisement

ทำให้ผลงานร่วงลงไปจนเกือบจะไม่ได้ไปเล่นถ้วยยุโรปด้วยซ้ำ มิหนำซ้ำยังตกเป็นข่าวว่าจะโดนปลดจากตำแหน่ง ทั้งๆ ที่รับงานมายังไม่ถึงฤดูกาลด้วยซ้ำ

ซึ่งตอนนี้การได้กลับไปเล่นในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก น่าจะทำให้สถานการณ์ของซาร์รี่ ดีขึ้น แต่ก็ต้องมานั่งลุ้นเรื่องของการแบนตลาดซื้อขาย ที่อาจจะทำให้พวกเขาไม่สามารถดึงผู้เล่นใหม่เข้ามาได้

แล้วก็ต้องนั่งลุ้นรั้งตัว เอเด็น อาซาร์ ดาวเตะคนสำคัญของทีมเอาไว้ให้ได้ เพราะถ้าเสียไปแล้วไม่มีใครเข้ามาแทนนี่ บอกได้คำเดียวว่า “งานเข้า”

Stivie T

ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image