นาวาตรี วรวิทย์ เตชะสุภากูร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในพิธีปิดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 35 ประจำปี 2562 “บุรีรัมย์เกมส์” พร้อมด้วย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และนายธีรวัฒน์ วุฒิคุณ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ รวมทั้งนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ ร่วมด้วยที่สนามกีฬากลางองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ (เขากระโดง สเตเดียม) เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม
สำหรับพิธีปิดการแข่งขันทางเจ้าภาพบุรีรัมย์เกมส์ได้จัดชุดการแสดง ชุดที่ 1 “การกีฬาผนึกรักสามัคคี”, ต่อด้วยชุดที่ 2 “เรืองรวีพิธีการวันสดใส” ก่อนที่ทัพนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ได้เดินขบวนเข้าสู่สนาม ตามด้วยพิธีการเชิญธงชาติไทย, ธงการแข่งขัน และธงจังหวัดบุรีรัมย์ ลงจากยอดเสา จากนั้นเป็นการแสดงชุดที่ 3 “อนุสรณ์แสงรักประจักษ์ใจ” และเข้าสู่พิธีการดับไฟในกระถางคบเพลิง
หลังจากนั้นเป็นพิธีมอบธงการแข่งขันให้ นายศุภมิตร ชิณศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด ซึ่งจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 36 ประจำปี 2563 “ช้างขาวเกมส์” ที่ จ.ตราด วันที่ 19-29 มีนาคม 2563 โดยตราดได้เตรียมการแสดงมาโชว์ในพิธีปิดครั้งนี้ด้วย ปิดท้ายด้วยการแสดงชุดที่ 4 “สานสายใยมิตรภาพตราบนิรันดร์” นับเป็นการปิดฉากบุรีรัมย์เกมส์ลงอย่างยิ่งใหญ่ และประทับใจ
‘น้องพิงค์’ตบข้ามรุ่นผงาดแชมป์
การชิงชัยวันสุดท้าย 44 เหรียญทอง ไฮไลต์อยู่ที่แบดมินตัน ชิงชัย 7 เหรียญทอง ไฮไลต์อยู่ที่รุ่นยุวชน หญิงเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ “น้องพิงค์” พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ นักแบดมินตันสาวหน้าหวาน ดาวรุ่งน่าจับตามอง วัยเพียง 12 ปี จากเชียงใหม่ ขยับขึ้นมาตีข้ามรุ่นโค่นชนะรุ่นพี่ ศิรดา รุ่งพิบูลโสภิษฐ์ วัย 14 ปี จากระยอง 2-0 เกม 21-5, 21-15 ทำให้น้องพิงค์คว้าแชมป์ได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน
“น้องพิงค์” พิชฌามลณ์ กล่าวว่า เกมนี้ตีได้ดีกว่ารอบรองชนะเลิศที่ถือว่ายากที่สุด เพราะต้องเจอคู่แข่งสูสี ส่วนรอบชิงเกมแรกเอาชนะขาด แต่เกมสองมีลมเล็กน้อย ทำให้ตีได้มีดีนัก การคว้าแชมป์ครั้งนี้ทำให้มั่นใจมากขึ้น สำหรับตัวเองจะมี “พี่เมย์” รัชนก อินทนนท์ มือ 7 โลก เป็นไอดอล เพราะชื่นชอบในความมุ่งมั่นทุ่มเท และมีวินัย ส่วนอนาคตจะฝึกซ้อมให้หนักขึ้น เพื่อข้ามรุ่นไปตีเยาวชน โดยรายการต่อไปคือ เอสซีจี จูเนียร์ แบดมินตัน แชมเปี้ยนชิพ 2019 วันที่ 4-9 มิถุนายนนี้
ขณะที่ทัพนักแบดมินตัน กทม. กวาดไปได้ 5 เหรียญทอง จากรุ่นยุวชน ชายเดี่ยว วงศ์ทรัพย์ วงศ์ทรัพย์อินทร์, หญิงเดี่ยว อทิตยา โปวานนท์, คู่ผสม สิรวิชญ์ โสทน และพิชญานิน อังคะ, หญิงคู่ อทิตยา โปวานนท์ และญาณิสา ชื่นเจริญ, ชายคู่ สิรวิชญ์ โสทน และธนดล พันธ์พานิช ส่วนอีก 1 เหรียญทอง ชายเดี่ยว วรท อุไรวงค์ จากปราจีนบุรี
ลูกยางสาว‘นนทบุรี’ป้องแชมป์
วอลเลย์บอล ชิงชัย 2 เหรียญทอง รอบชิงชนะเลิศ ทีมหญิง เป็นการรีแมตช์คู่ชิงกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งก่อน “น่านเกมส์” นนทบุรี แชมป์เก่า พบ อยุธยา ปรากฏว่า นนทบุรี ยังโชว์ฟอร์มเฉียบตบย้ำแค้นเอาชนะ 3-1 เซต 25-15, 25-27, 25-7 และ 25-17 คว้าแชมป์อีกสมัย ด้านรอบชิงชนะเลิศ ทีมชาย ขอนแก่น ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมตบโค่นแชมป์เก่า สุพรรณบุรี 3-0 เซต 25-18, 25-15, 25-20 คว้าเหรียญทองไปครอง
ส่วนวอลเลย์บอลชายหาด ชิงชัย 4 เหรียญทอง กาญจนบุรี โกย 2 เหรียญทอง จากรุ่นยุวชน หญิง ปวีณา เติมกระโทก และวิมลมาศ จันทะโสตถิ์ และทีมหญิง จุฑามาศ สังข์ยัง และชนินทร์พร หมื่นผัด ขณะที่อีก 2 เหรียญทอง รุ่นยุวชนชาย นนทบุรี วิพลชัย เนื้อขาว และนพวิชญ์ พุทธรงค์ และทีมชาย กาฬสินธุ์ ที่มี ภาคตะวัน ศรีหามาตร และปรวิทย์ เดาวะโต
‘เมืองคอน’เหมา2แชมป์กาบัดดี้
ด้านผลเหรียญทองกีฬาอื่นที่น่าสนใจ ดังนี้ กาบัดดี้ ทีมชาย นครศรีธรรมราช, ทีมหญิง นครศรีธรรมราช / จักรยาน ประเภทลู่ พอยท์เรส ชาย (24 กม.) ตุลธร โสสลาม (กาฬสินธุ์), สปรินท์ ชาย นิติรุจน์ กิจพิริยะการณ์ (สุพรรณบุรี), ทีมสปรินท์ ชาย (3 รอบ) กทม., สปรินท์ หญิง กัญญารัตน์ หน่อแก้ว (พิษณุโลก), เปอร์ซูท หญิง (2 กม.) ภาสิรี เจริญทรัพยานนท์ (กทม.), เปอร์ซูท ชาย (3 กม.) วิศวกร แก้วทอง (กทม.) / เซปักตะกร้อ ทีมชุดชาย อุบลราชธานี, ทีมชุดหญิง ราชบุรี / รักบี้ฟุตบอล ประเภท 15 คน นครปฐม
‘กทม.’แชมป์สมัย31โกย143ทอง
ทัพนักกีฬา กทม. คว้าเจ้าเหรียญทองสมัยที่ 31 หลังคว้าไปได้ 143 ทอง 116 เงิน 129 ทองแดง ซึ่งถือเป็นการคว้าเหรียญทองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติที่ผ่านมาอีกด้วย
สรุปตารางเหรียญ 10 อันดับแรก (ทอง-เงิน-ทองแดง) 1.กทม (143-116-129) 2.ชลบุรี (53-59-50) 3.สุพรรณบุรี (47-33-46) 4.นครราชสีมา (46-24-29) 5.เชียงใหม่ (29-31-47) 6.นครศรีธรรมราช (26-24-33) 7.สมุทรปราการ (19-20-22) 8.ศรีสะเกษ (19-12-29) 9.ขอนแก่น (18-7-24) 10.นนบุรี (16-31-27) ขณะที่เจ้าภาพบุรีรัมย์ อยู่อันดับ 16.(11-6-14) ส่วนเจ้าภาพครั้งต่อไปตราดอยู่อันดับ 49 (3-8-3) โดยที่มี 2 จังหวัดที่ไม่สามารถคว้าเหรียญรางวัลได้เลยคือ สมุทรสงคราม และสระแก้ว
‘บุรีรัมย์’ยันพร้อมขยับจัดกีฬาชาติ
นายกฤษฎา แก้วสองเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ในภาพรวมของการที่บุรีรัมย์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งนี้ถือว่าน่าพอใจมาก ซึ่งช่วงแรกแม้จะเจออุปสรรคสภาพอากาศฝนตก แต่ก็ได้เตรียมพร้อมรับมือ และแก้ไขสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี จึงถือว่าการเป็นเจ้าภาพครั้งนี้ประสบความสำเร็จจากความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่ายทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนชาวบุรีรัมย์
นายกฤษฎา กล่าวว่า ต้องขอบคุณการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ที่มอบหมายให้บุรีรัมย์เป็นเจ้าภาพกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ในอนาคตทางบุรีรัมย์ก็ได้มีการพุดคุยกันว่าจะยกระดับไปรับเป็นเจ้าภาพกีฬาแห่งชาติต่อไป เพราะที่ผ่านมาบุรีรัมย์ผ่านการจัดอีเวนต์กีฬาระดับโลกมาแล้ว ทั้งโมโตจีพี และมาราธอน รวมทั้งกีฬาเยาชนแห่งชาติครั้งนี้ ซึ่งเราก็มีการพูดคุยกันในการที่จะพยายามผลักดันไปจัดกีฬาแห่งชาติต่อไป เพื่อทำให้กลายเป็นเมืองแห่งกีฬาอย่างเต็มรูปแบบ
รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลงานของนักกีฬาเยาวชนบุรีรัมย์ในกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งนี้คว้ามาได้ 11 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน 14 เหรียญทองแดง ถือว่ายังต้องพัฒนากันต่อไป เนื่องจากการพัฒนากีฬาสมัครเล่นจะต้องใช้ระยะเวลาในการพัฒนาตั้งแต่ระดับเยาวชน ขณะที่กีฬาอาชีพของบุรีรัมย์เราค่อนข้างไปได้ไกลแล้ว อย่างไรก็ตาม ในอนาคตเชื่อว่าจะมีนักกีฬาบุรีรัมย์ก้าวไปสร้างชื่อเสียงได้แน่นอน
