“แบงค์” ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา กองหน้าดาวรุ่งวัย 16 ปีจากสโมสร “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดใจหลังลงสนามนัดแรกให้กับทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย พร้อมกับสร้างสถิติเป็นผู้เล่นอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์คนใหม่ ที่ได้ลงเล่นให้ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ในเกมที่เปิดบ้านพ่าย ทีมชาติเวียดนาม 0-1 ศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 47 ที่ช้าง อารีนา เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา
ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ดาวรุ่งจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถูกส่งลงสนามแทนที่ ศุภชัย ใจเด็ด ในช่วง 5 นาทีสุดท้าย ทำให้ ทุบสถิติดังกล่าว ทันที ด้วยวัยเพียง 16 ปี 10 เดือน 3 วัน โดยก่อนหน้านี้ แข้งอายุน้อยสุด ที่มีโอกาสลงเล่นให้ ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ เป็น นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ในเกมที่ เปิดบ้านแพ้ ทีมชาติฟินแลนด์ 1-3 ในศึกคิงส์คัพ เช่นกัน เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2013 ในวัย 18 ปี 6 เดือน 11 วัน
ศุภณัฏฐ์ กล่าวว่า ก่อนอื่นอยากขอบคุณ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ที่ให้โอกาส ในแง่ความรู้สึกส่วนตัว บอกไม่ถูกเหมือนกัน ลึกๆ ดีใจที่มีโอกาสลงสนาม แต่อีกใจนึงก็อยากให้ทีมชนะมากกว่า ดังนั้น มันจะดีกว่านี้ถ้าทีมได้ผลการแข่งขันที่ดีด้วย ตอนนั้นเซอร์ไพรส์เหมือนกัน ไม่คิดว่าโค้ชจะเปลี่ยนลงสนาม ก่อนลงไป โค้ชก็บอกว่า ยังพอมีเวลา พยายามเป็นตัวของตัวเอง และทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
“ยอมรับว่า บรรยากาศตอนนั้นทำให้ผมอึ้งเหมือนกันครับ เพราะจริงอยู่ที่ ผมเคยเล่นต่อหน้าแฟนบอลเยอะๆ มาแล้ว แต่ไม่เคยเยอะขนาดนี้ ในเกมระดับชาติ ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีครับ แต่เสียดาย ที่เรายังช่วยอะไรทีมไม่ได้มาก เรื่องสถิติ ผมไม่เคยสนใจเลยครับ ในทุกๆ ครั้งที่มีโอกาส ผมแค่อยากลงไปเล่นให้ดีที่สุด และอยากขอโทษแฟนบอลทุกคนครับ ที่ทำให้ผิดหวัง ส่วนนัดชิงที่ 3 ผมเชื่อว่าพี่ๆ ทุกคน ยังเต็มที่เหมือนเดิม และหวังว่าเราจะได้ผลการแข่งขันที่ดีครับ” ศุภณัฏฐ์ ปิดท้าย
ทั้งนี้ ทีมชาติเวียดนาม จะผ่านเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศ กับทีมชาติกือราเซา ในวันที่ 8 มิถุนายน เวลา 19.45 น. ส่วนทีมชาติไทย จะไปเล่นรอบชิงอันดับ 3 กับทีมชาติอินเดีย ในวันเดียวกัน เวลา 15.30 น.
โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 ดังนี้
วันที่ 8 มิถุนายน 2562
คู่ชิงอันดับ 3 ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติอินเดีย ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 15.30 น.
คู่ชิงชนะเลิศ ทีมชาติเวียดนาม พบ ทีมชาติกือราเซา ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 19.45 น.
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
