ทัพนักเตะ “ชบาแก้ว” ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย อันดับ 34 ของโลก เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก “ฟีฟ่า วีเมนส์ เวิลด์คัพ 2019” สมัยที่ 2 ติดต่อกันในประวัติศาสตร์ โดยลงสนามรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ นัดแรกประเดิมพ่าย สหรัฐอเมริกา ดีกรีแชมป์โลก 3 สมัย และทีมอันดับ 1 โลก 0-13, นัดสอง แพ้ สวีเดน อันดับ 9 ของโลก และลงเตะนัดสุดท้ายรอบแรก พบ ชิลี อันดับ 39 ของโลก เมื่อคืนวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมานั้น
“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า กกท. สนับสนุนทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2019 ทุกด้าน ทั้งด้านจิตวิทยา, โภชนาการ และด้านกายภาพ ซึ่งทีมแข้งสาวไทยได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เป็นทีมที่มีศักยภาพหลังจากผ่านเข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกได้เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน
ดร.ก้องศักด กล่าวอีกว่า สำหรับแผนแนวทางหลังจากนี้ กกท.จะเข้าไปสนับสนุนการพัฒนาฟุตบอลหญิงตั้งแต่ระดับเยาวชน และมหาวิทยาลัย โดย ได้ตั้งคณะกรรมการทำงานร่วมระหว่าง กกท. และสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยในการพัฒนาวงการฟุตบอลหญิงด้วย โดยก็คงจะต้องเริ่มที่การสร้างลีกฟุตบอลหญิงให้แข็งแกร่ง และเราคงจะต้องยึดโมเดลการพัฒนามาจากลีกวอลเลย์บอลหญิงที่มีกระแสนิยมอย่างมากในปัจจุบัน
“เราจะต้องใช้โมเดลลีกวอลเลย์บอลหญิงมาปรับใช้กับลีกฟุตบอลหญิงไทย แต่ลีกจะอยู่ได้ก็จะต้องมีหลายองค์ประกอบ ทั้งการโหมกระแสความนิยม กองเชียร์ และการนำสปอร์ต เอ็นเตอร์เทนเมนต์เข้ามาช่วยด้วย ผมคิดว่า ลีกฟุตบอลหญิงอาชีพมีโอกาสเกิดขึ้นได้ แม้ฟุตบอลหญิงในเมืองไทยอาจจะมีกระแสไม่แรงเท่าวอลเลย์บอลหญิง แต่เชื่อว่าอีกไม่นานถ้าเรามีทีมชาติทำผลงานได้ดีอย่างนี้ก็จะช่วยปลุกกระแสกองเชียร์ได้” บิ๊กก้องกล่าว
ผู้ว่าการ กกท.กล่าวว่า ส่วนโอกาสที่ประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันฟุตบอลหญิงระดับนานาชาตินั้น คิดว่าเราน่าจะมีโอกาสจัดรายการฟุตบอลหญิง เพราะทีมสาวไทยเคยผ่านไปถึงฟุตบอลโลกมาแล้ว 2 สมัย และถือเป็นทีมชั้นนำของทวีปเอเชีย ดังนั้น โอกาสที่เราจะได้จัดการแข่งขันแมตช์ฟุตบอลหญิงทั้งในระดับทวีป และระดับโลก คิดว่ามีโอกาสสูง
“สำหรับฟุตบอลหญิงนั้น ในอนาคตเราก็คงจะต้องมีการวางแผนกัน ทั้งเรื่องของการที่เราจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับนาชาติทั้งในระดับทวีป และในระดับโลก รวมทั้งเรื่องลีกฟุตบอลหญิงด้วย ซึ่งมิติในการพัฒนากีฬาฟุตบอลตอนนี้ทาง กกท. ร่วมมือกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เดินไปด้วยกันด้วยการตั้งคณะทำงาน ซึ่งตัวผมเองเป็นประธานคณะ โดยเราก็จะทำงานร่วมกันในการพัฒนาทั้งฟุตบอลหญิง และฟุตบอลชาย รวมทั้งฟุตบอลชายหาด และฟุตซอลด้วย” ผู้ว่าการ กกท.กล่าวทิ้งท้าย
