“ชบาแก้ว” ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย อันดับ 34 ของโลก ลงสนามส่งท้ายพบกับ ชิลี อันดับ 39 ของโลก ในศึกฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก “ฟีฟ่า วีเมนส์ เวิลด์คัพ 2019” รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ นัดที่สาม ที่สนามโรอาซอง ปาร์ค เมืองแรนส์ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อคืนวันที่ 20 มิถุนายน
สำหรับผลงาน 2 นัดแรกที่ผ่านมา ทีมแข้งสาวไทย แพ้ สหรัฐอเมริกา เบอร์ 1 โลก และดีกรีแชมป์โลก 3 สมัย ด้วยสกอร์ 0-13 และแพ้ สวีเดน อันดับ 9 ของโลก 1-5 ยังไม่มีแต้ม ขณะที่ ชิลี ลงเตะพ่ายรวด 2 นัดเช่นกัน แพ้ สวีเดน 0-2 และแพ้ สหรัฐอเมริกา 0-3 ยังไม่มีแต้ม
เกมนี้ทัพชบาแก้วจัดทัพ 11 คนแรกในระบบ 4-5-1 ประกอบด้วย ผู้รักประตู วราภรณ์ บุญสิงห์, กองหลัง ณัฐกานต์ ชินวงษ์, พิสมัย สอนไสย์, แบ๊กซ้าย สุนิสา สร้างไธสง, แบ๊กขวา วารุณี เพ็ชรวิเศษ, กองกลาง อินทร์อร พันธุ์ชา, พิกุล เขื่อนเพ็ชร, แนวรุกขยับ ศิลาวรรณ อินต๊ะมี ยืนริมเส้นซ้าย ขณะที่ริมเส้นขวา รัตติกาล ทองสมบัติ, ตัวรุก “มิรันด้า” สุชาวดี นิลธำรงค์ และ “เนตร” กาญจนา สังข์เงิน ยืนเป็นกองหน้าตัวเป้า
ขณะที่ ชิลี จัดทัพลงสนามนำโดย คริสเตียเน่ เอ็นเลอร์ นายด่านกัปตันทีมจอมเซฟจากสโมสรปารีส แซงต์ แชร์กแมงต์, แนวรับ คาร์โล เกอร์เรโร่, คามิล่า ซาเอซ คู่หูจากราโย่ บาเยกาโน่, แดนกลาง คาเร็น อาราย่า จากเซบีญ่า, ยานาร่า เอโด้ จากบาเลนเซีย ส่วนกองหน้า มาเรีย โจเซ่ อูร์รูเทีย จากอะมาโซเนีย และเดเนียล่า ซาโมร่า จากยูนิซิดเอด เดอ ชิลี
เกมครึ่งแรกนาทีที่ 4 ชิลีได้จังหวะเล่นลูกฟรีคิกทางฝั่งซ้าย คาเร็น อาราย่า โยนบอลเข้าไปในเขตโทษ แต่ วราภรณ์ บุญสิงห์ ออกมาชกบอลทิ้งก่อนโดนกระแทกจนต้องปฐมพยาบาล นาทีที่ 10 ชิลีได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะโยนบอลทางฝั่งซ้ายกระเด้งไปเข้าทาง มาเรีย โจเซ่ อูร์รูเทีย ได้ง้างเท้ายิง แต่ติดบล็อกแนวรับทีมสาวไทยช่วยรอดพ้นการเสียประตู
นาทีที่ 24 ชิลีได้ลุ้นอีกครั้งจาก มาเรีย โจเซ่ อูร์รูเทีย ลากบอลเข้าไปยิงหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลบดพื้นหลุดออกหลังไป นาทีที่ 28 ชิลีได้ลูกฟรีคิก ก่อนที่ คาเร็น อาราย่า ปั่นโค้งไปเข้าซอง วราภรณ์ บุญสิงห์ นาทีที่ 32 ทีมสาวไทยได้โอกาสยิงครั้งแรกจากจังหวะที่ ศิลาวรรณ อินต๊ะมี เลี้ยงบอลตัดเข้ากลางแล้วซัดด้วยเท้าขวา แต่บอลตรงตัวนายด่านสาวชิลี
นาทีที่ 38 ไทยอาศัยเกมโต้กลับบุกได้มาได้ลุ้นอีกครั้ง อินทร์อร พันธุ์ชา แทงบอลให้ ศิลาวรรณ อินต๊ะมี ลากบอลจี้เข้าเขตโทษก่อนดึงหลอกแล้วยิงบอลไปแฉลบผู้เล่นชิลีหลุดเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย และนาทีที่ 40 กาญจนา สังข์เงิน ได้ซัดบอลนอกกรอบเขตโทษ แต่ผู้รักษาประตูชิลียังปัดทิ้งไปได้ ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรกชิลีได้โอกาสยิงไกลจาก โรซาริโอ้ บัลมาเซด้า แต่บอลพุ่งชนคาน ทำให้จบครึ่งแรกยังเสมอกัน 0-0
ครึ่งหลังนาทีที่ 48 ชิลีพังประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ ดาเนียล่า ซาโมร่า หักบอลเข้ากลางให้ ยานาร่า เอโด้ ได้โอกาสซัดบอลไปชนเสากระเด้งมาโขนขาของ วราภรณ์ บุญสิงห์ เข้าประตูตัวเองไป นาทีที่ 58 ทีมไทยเปลี่ยนผู้เล่นคนแรกด้วยการส่ง อรพินท์ แหวนเงิน ลงเล่นแทน รัตติกาล ทองสมบัติ นาทีที่ 66 ชิลีได้ลุ้นประตูที่สองจาก ฟรานซิสก้า ลาร่า สับไกยิง แต่ วราภรณ์ บุญสิงห์ โชว์ซุปเปอร์เซฟบินปัดทิ้งออกไป
นาที 73 ทีมไทยเปลี่ยนตัวคนที่ 2 ด้วยการส่ง สุดารัตน์ ชูชื่น ลงสนามมาแทน ศิลาวรรณ อินต๊ะมี ที่มีอาการบาดเจ็บ นาที 77 ไทยได้ฟรีคิกระยะ 25 หลาเยื้องมาฝั่งซ้าย อินทร์อร พันธุ์ชา ได้ลองยิง แต่บอลข้ามคานออกไป แต่นาทีที่ 80 ชิลียิงประตูที่ 2 ได้จาก มาเรีย โจเซ่ อูร์รูเทีย โหนขึ้นโขกเช็ดบอลเปลี่ยนทางเข้าประตูไป
นาทีที่ 84 แอนนา-มาเรีย เคจห์เลย์ ผู้ตัดสินชาวนิวซีแลนด์ดูวีเออาร์ตัดสินให้จุดโทษกับชิลีจากจังหวะที่ วราภรณ์ บุญสิงห์ ออกมาตัดบอลใส่ผู้เล่นชิลี แต่ปรากฏว่า ฟรานซิสก้า ลาร่า ยิงไปชนคานอย่างจัง ทำให้ชิลีชวดได้ประตูที่ 3 เพื่อผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป นาทีที่ 90 ทีมไทยส่งตัวสำรองคนสุดท้าย กาญจนาพร แสนคุณ ลงมาเล่นแทน วารุณี เพ็ชรวิเศษ
จบเกมทีมไทย แพ้ ชิลี 0-2 ทำให้ลงเตะ 3 นัด พ่ายรวด 3 นัด ยิงได้ 1 ประตู เสีย 20 ประตู ไม่มีแต้ม จบอันดับ 4 ของกลุ่มเอฟ ขณะที่ ชิลี ชนะ 1 แพ้ 2 มี 3 แต้ม ยิงได้ 2 ประตู เสีย 5 ประตู เป็นอันดับ 3 ของกลุ่ม แต่ไม่เพียงพอต่อการผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ทำให้ ไทย และชิลี กอดคอกันตกรอบแรกทั้งคู่
ด้านผลอีกคู่ของกลุ่มเอฟ สหรัฐอเมริกา ชนะ สวีเดน 2-0 ทำให้ สหรัฐอเมริกา คว้าชัย 3 นัดรวด เก็บ 9 แต้มเต็ม คว้าอันดับ 1 ของกลุ่ม ส่วน สวีเดน ชนะ 2 แพ้ 1 มี 6 แต้ม เป็นอันดับ 2 พร้อมกับจูงมือกันผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไปได้สำเร็จ
