ยูโร 2016 กลุ่มบี – ‘สิงโต’จองแชมป์ (กลุ่ม)

ถึงจะ “ขายขี้หน้า” กับการพาทีมชาติอังกฤษตกรอบแรกฟุตบอลโลก 2014 ด้วยการมีแต้มในรอบแบ่งกลุ่มแค่คะแนนเดียว จน รอย ฮอดจ์สัน เป็นผู้จัดการทีม “สิงโตคำราม” ที่มีผลงานเลวร้ายสุดในประวัติศาสตร์เท่าที่ทีมเคยเล่นมาในรอบแบ่งกลุ่มศึกเวิลด์คัพ แต่ “ปู่รอย” ที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ชีวิตกุนซือลูกหนังไม่ต่ำกว่า 40 ปี และรอดการโดนสมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ตะเพิดออกจากตำแหน่งได้อย่างเหลือเชื่อ

รอย ฮอดจ์สัน (ภาพ AFP)

สามารถ “กู้หน้า” คืนกลับมาได้อย่างทันควัน หลังนำชาติบ้านเกิดผ่านเข้ารอบสุดท้าย “ยูโร 2016” ได้เป็นประเทศแรก ด้วยผลงานสุดยอดในการเป็นทีมเดียวที่ทำสถิติเก็บชัยได้ครบร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม จากทั้งหมด 10 เกมในรอบคัดเลือกกลุ่มอี และระเบิดตาข่ายคู่แข่งได้ 31 หน มากสุดอันดับ 2 มีเพียงโปแลนด์ รองแชมป์กลุ่มดีซึ่งยิงได้มากกว่า 2 ลูก แถมยังเสียแค่ 3 ประตู น้อยสุดที่ 2 ร่วมกับแชมป์เก่าสเปน พร้อมกับเป็นรองโรมาเนีย 1 ลูกเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังดูเหมือนฮอดจ์สันในวัย 68 ปีจะถูกโฉลกกับศึกชิงแชมป์แห่งชาติทวีปยุโรปพอสมควร เพราะหากยังจำกันได้ เจ้าตัวเคยใช้เวลาเตรียมทีมไม่กี่สัปดาห์ หลังได้รับงานคุมทัพสิงโตคำรามกะทันหันวันที่ 1 พฤษภาคม 2012 ตะลุยจนถึงรอบน็อกเอาต์ 8 ทีมสุดท้ายในการแข่งขันครั้งก่อนมาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการคว้าแชมป์กลุ่มดี ทั้งที่มีฝรั่งเศส และเจ้าภาพร่วมยูเครนร่วมกลุ่ม ตามด้วยทีมแกร่งอย่างสวีเดนก็ตาม

Advertisement

ส่วนการตกรอบน็อกเอาต์รอบแรกด้วยฝีมืออิตาลี ที่หลุดเข้าไปได้รองแชมป์ในเวลาต่อมา ก็มาจากการแพ้ดวลจุดโทษหลังเสมอกันแบบไข่ไม่แตกตลอด 120 นาที

รวมทั้งอดีตนายใหญ่ลิเวอร์พูล, อินเตอร์ มิลาน และทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ยังโชคดีที่บรรดาแข้งอังกฤษตัวหลักส่วนใหญ่ไม่ได้รับบาดเจ็บจนต้องถอนตัวเหมือนชาติอื่น เว้นแค่ ลุก ชอว์ แบ๊กซ้ายจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเรียกความฟิตจากการขาหักสยอง 2 ท่อนไม่ทัน ขณะที่ แจ๊ค วิลเชียร์ กองกลางร่างเล็กที่มีเจ็บเรื้อรังจนเล่นให้อาร์เซน่อลเพียง 141 นาทีในฤดูกาลนี้ ก็ยังหายเดี้ยงกลับมาได้ทันเวลา

เท่านั้นยังไม่พอ ฮอดจ์สันยังดวงดีที่มีนักเตะ “แจ้งเกิด” แบบจะแจ้งถึง 4 ราย และครึ่งหนึ่งในนั้นเป็น เจมี่ วาร์ดี้ และ แดนนี่ ดริ๊งก์วอเตอร์ ผลผลิตจากเจ้า “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งมีกลุ่มนักลงทุนชาวไทยเป็นเจ้าของสโมสร ที่สร้างปรากฏการณ์ผงาดแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีครั้งแรกตั้งแต่ก่อตั้งทีม 132 ปีก่อน

Advertisement

ที่เหลืออีก 2 เป็น เดเล่ อัลลี กลางรุกดาวรุ่งที่เพิ่งจะอายุครบ 20 ปีเมื่อเดือนเมษายน แต่มีผลงานในสนามเกินความเป็นเด็ก จนมีส่วนสำคัญในการนำท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เข้าป้ายในตำแหน่งรองแชมป์พรีเมียร์ลีก โดยมีรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมจากสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) การันตีฝีเท้า

มาร์คัส แรชฟอร์ด (ขวา / ภาพ AFP)

แต่ที่ลืมไม่ได้เป็น “ไอ้หนู” ตัวจริงอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด ศูนย์หน้าวัยเพียง 18 ปี ซึ่งดังเป็นพลุแตกกับแมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งที่เพิ่งลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ “ปีศาจแดง” ด้วยความบังเอิญครั้งแรกในชีวิตแค่ 3 เดือนก่อน หลัง อ็องโตนี่ มาร์กซิยัล อีกหนึ่งหัวหอกของทีมเจ็บตอนวอร์ม ก่อนแรชฟอร์ดจะได้ส้มหล่นลงสนามแทนแล้ว ยังกดได้ถึง 2 ประตูทันทีในเกมถล่มมิดต์ยิลลันด์ 5-1 ศึกยูโรป้าลีกรอบ 32 ทีมสุดท้าย นัด 2

แถมล่าสุด ยังพังสถิติเป็นนักเตะอายุน้อยสุดด้วยวัย 18 ปี 209 วัน ที่ตะบันประตูแรกในการประเดิมสนามให้อังกฤษ

นี่ยังไม่รวม 3 กองหน้าที่ฟอร์มดีทั้งหมดไล่ตั้งแต่ เวย์น รูนี่ย์ กัปตันทีมจอมทุ่มเท, แฮร์รี่ เคน ดาวซัลโวลีกผู้ดีซีซั่นนี้ และ แดเนียล สเตอร์ริดจ์ ซึ่งกลับมาร้อนแรงในเรื่องเขย่าตาข่ายกับลิเวอร์พูล แม้ล่าสุดจะมีรายงานว่าฝ่ายหลังกลับมาเจ็บตามสไตล์อีกแล้วก็ตาม แต่ไม่น่าจะเป็นการเดี้ยงที่รุนแรงอย่างที่คิด

เวย์น รูนี่ย์ (ซ้าย) และแฮร์รี่ เคน (ภาพ AFP)

ขณะที่เกมรับ โจ ฮาร์ต ผู้รักษาประตูแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็เป็นด่านสุดท้ายให้กับทีม “เรือใบสีฟ้า” ได้อย่างคงเส้นคงวาในฤดูกาลนี้ เช่นเดียวกับแผงหลังที่แม้ ฟิล จากิลก้า จะหลุดโผจากรายชื่อ 26 คนก่อนตัดออกอีก 3 คนให้เหลือ 23 ตามโควต้า แต่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟรุ่นน้องทั้ง คริส สมอลลิ่ง, แกรี่ฮิลล์ และ จอห์น สโตนส์ ดูเหนือกว่าด้วยซ้ำ ส่วนฟูลแบ๊กก็มีจี๊ด “ขึ้น-ลง” ไม่มีหมดอย่าง แดนนี่ โรส กับ นาธานเนียล ไคลน์

ยิ่งแดนกลางมีทุกรูปแบบ บู๊-ดริ๊งก์วอเตอร์, วิลเชียร์ บุ๋น-จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, อัลลี รุกเต็มพิกัด-อดัม ลัลลาน่า, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ทั้งรุกและรับ-รอส บาร์กลีย์ หรือ ตัวหลากประโยชน์-เจมส์ มิลเนอร์

ก่อนหวยมาออกที่ดริ๊งก์วอเตอร์, แอนดรอส ทาวน์เซ่น และฟาเบียน เดลฟ์ ที่โดนตัดออกจากทีม

แล้วเมื่อเหลือบมองเพื่อนกลุ่มบีด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น รัสเซีย, สโลวาเกีย และทีมร่วมเกาะอังกฤษอย่าง เวลส์ รับประกันได้เลยว่า ตั๋วแชมป์กลุ่มไม่มีทางหลุดไปจากมือทีมสิงโตคำรามแน่

อีก 3 ชาติน่าจะเป็นรัสเซียดีกว่าเพื่อน เพราะหลังจากปลด ฟาบิโอ คาเปลโล่ อดีตกุนซือทีมชาติอังกฤษ ชาวอิตาลี เลโอนิด สลุตสกี้ โค้ชสโมสรซีเอสเคเอ มอสโก แบ่งเวลารับจ๊อบ 2 เพื่อชาติก็พาทีม “หมีขาว” คว้าชัยในรอบคัดเลือกกลุ่มจี ได้ 4 เกมรวด จนผ่านเข้ารอบสุดท้ายอัตโนมัติตามออสเตรียแชมป์กลุ่ม

แกเร็ธ เบล (ภาพ AFP)

แม้สโลวาเกีย และเวลส์จะหวือหวาเอาเรื่องในการกรุยทางสู่ฝรั่งเศส โดยเฉพาะรายหลัง ซึ่งผ่านเข้ารอบสุดท้ายครั้งแรกในศึกยูโร และหนแรกในทัวร์นาเมนต์ระดับชาติรอบ 58 ปีไม่พอ ระหว่างเส้นทางดังกล่าว ทีม “มังกรแดง” ภายใต้การนำทัพของ แกเร็ธ เบล นักบอลแพงสุดโลก ยังทำในสิ่งเหลือเชื่อด้วยการมีลุ้นเป็นทีมเบอร์ 2 โลกจากการจัดอันดับของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) มาแล้ว

ทว่าเมื่อวัดกันคนละตุ๊บสองตุ๊บ รัสเซียน่าจะเข้าวินในฐานะรองแชมป์กลุ่ม ส่วนเวลส์ และสโลวาเกียคงต้องไปแย่งโควต้าทีมอันดับ 3 กันเอาเอง

โปรแกรมกลุ่มบี

11 มิถุนายน
เวลส์ พบ สโลวาเกีย 23.00 น.
อังกฤษ พบ รัสเซีย 02.00 น.

15 มิถุนายน
รัสเซีย พบ สโลวาเกีย 20.00 น.

16 มิถุนายน
อังกฤษ พบ เวลส์ 20.00 น.

20 มิถุนายน
รัสเซีย พบ เวลส์ 02.00 น.
สโลวาเกีย พบ อังกฤษ 02.00 น.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image