‘นิชิโนะ’ กร้าวประเดิมนำทัพ ‘ช้างศึก’ สยบซ่าแข้ง ‘ญวน’ ศึกคัดบอลโลก ลั่นพร้อมยกระดับฝีเท้านักเตะไทย

“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ แถลงข่าวเปิดตัว อากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่น วัย 64 ปี เข้ามาทำหน้าที่เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ที่ห้องประชุมชั้น 24 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม

สำหรับ อากิระ นิชิโนะ เคยเป็นอดีตกุนซือทีมชาติญี่ปุ่น ชุดเข้าถึงรอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งเข้ามาทำหน้าที่เป็นกุนซือชาวเอเชียคนแรกของทีมชาติไทย โดยมีโปรแกรมการแข่งขันสำคัญในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง และกีฬาซีเกมส์ 2019 และฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2020 รุุ่นไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้าย

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า สมาคมฯ ยินดีอย่างยิ่งที่ได้ นิชิโนะ เข้ามาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ทั้งชุดใหญ่ และชุดรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เนื่องจากเขามีประสบการณ์ที่ดีกับทีมชาติญี่ปุ่น และสโมสรในศึกเจลีก ซึ่งจากการที่มีนักเตะไทยได้ไปค้าแข้งเจลีก ทำให้มีการพัฒนาฝีเท้าขึ้น และเราเห็นว่า นิชิโนะ จะทำให้นักเตะไทยพัฒนาขึ้น และแข่งขันต่อสู้กับทีมที่มีศักยภาพสูงกว่าในอนาคตได้

“ผมเชื่อว่า นิชิโนะจะทำให้ทีมชาติไทยสร้างผลงานที่ดีขึ้น และเป็นที่ยอมรับ ซึ่งเป็นเป้าหมายของสมาคมฯ สิ่งที่สำคัญคือ สมาคมฯ ขอให้คำมั่นว่า จะให้การสนับสนุนนิชิโนะอย่างเต็มที่ทุกรูปแบบ และจะไม่เข้าไปแทรกแซงการทำงานของนิชิโนะอย่างเด็ดขาด และไม่ยอมให้ใครก็ตามเข้าไปแทรกแซงการทำงาน ซึ่งถือเป็นหลักการที่สมาคมฯ ดำเนินการมาตลอด” นายสมาคมลูกหนังไทยกล่าว

Advertisement

ขณะที่ นิชิโนะ กล่าวว่า ขอบคุณที่ให้โอกาสเข้ามาทำทีมชาติไทย ซึ่งหลังจากที่ได้เจอกับทางนายกฯสมยศ ก็ได้เห็นถึงความตั้งใจที่อยากจะพัฒนาวงการฟุตบอลไทยก็เลยตัดสินใจเข้ามาทำหน้าที่นี้ โดยหลังจากที่ได้เข้ามาดูนักเตะไทยก็เห็นว่ามีโอกาสที่พัฒนาทีมชาติไทยไปได้อีก แต่ไม่ใช่เพียงตัวเองคนเดียวที่ทำได้ แต่ต้องเป็นความร่วมมือกันของสมาคมฯ และแฟนบอลด้วย

นิชิโนะ กล่าวอีกว่า สำหรับในเดือนกันยายน ศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกจะเริ่มขึ้นแล้ว ซึ่งแม้จะมีเวลาไม่เยอะ แต่จากประสบการณ์ และความแข็งแกร่งของนักเตะไทย คิดว่าจะเตรียมทีมทัน และพัฒนาทีมต่อไปได้แน่นอนในระดับเอเชีย ฟุตบอลโลก และโอลิมปิกเกมส์ แต่ตอนนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตั้งความหวังในระยะยาว เบื้องต้นตอนนี้จะทำงานวันต่อวัน แน่นอนว่า ในฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก ก็อยากจะผ่านรอบนี้ให้ได้ และเกมแรกที่จะพบ เวียดนาม วันที่ 5 กันยายน ที่เป็นเกมแรกของตัวเองด้วยก็ตั้งเป้าว่าจะเอาชนะให้ได้

“นักเตะไทยสามารถพัฒนาระดับขึ้นไปได้อีก ซึ่งในเวลาเท่านี้มีเวลาพอที่จะยกระดับฝีเท้านักเตะไทยขึ้นไปได้มากกว่านี้ และก็จะนำเทคนิคเดียวกันที่ใช้กับการคุมนักเตะญี่ปุ่นมาใช้พัฒนานักเตะไทยด้วย ส่วนการวางแผนเรื่องทีมงานสต๊าฟโค้ชนั้น ตอนนี้มาแค่คนเดียว จากที่ได้มาดูการทำงานที่นี่ ก็ได้พบกับ ทีมงานโค้ชของไทยหลายคน และก็มองเห็นถึงความมุ่งมั่น ซึ่งตัวเองก็พร้อมจะร่วมงานกับโค้ชไทย เพื่อสร้างทีมชาติไทยทั้งระบบขึ้นมา”

Advertisement

นิชิโนะกล่าวถึงการดึงสต๊าฟโค้ชชาวญี่ปุ่นมาร่วมงานในอนาคตว่า ความตั้งใจคือการทำงานร่วมกับโค้ชไทย อยากพัฒนาทีมชาติไทยไปพร้อมกับโค้ชไทย การจะดึงสต๊าฟมาในอนาคต แปลว่าพลังของตัวเองไม่พอ แต่ตอนนี้ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดก่อน แม้ตอนนี้จะมีเวลาเตรียมทีมไม่มาก แต่ไม่ใช่ตัวเองคนเดียวที่จะทำได้ เชื่อว่าทีมชาติไทยพัฒนาได้ ต้องอาศัยแรงจากนักเตะ และโค้ชทุกคน

“ผมเองก็จะเริ่มงานทันที ผมอยากไปดูฟุตบอลไทยให้เร็วที่สุดเพื่อศึกษา โดยจะเริ่มตั้งแต่ เย็นนี้เป็นต้นไปที่จะเดินทางไปดูการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก ในการแข่งขันครั้งนี้ สำหรับผมมองว่าไม่ยากเกินไป แต่ก็ไม่เรื่องง่าย การเจอกับทีมในอาเซียน เกือบหมด ก็เหมือนเป็นการเตรียมทีมก่อนซีเกมส์เลยทีเดียว ในกลุ่มของเรา อาจจะมีข้อได้เปรียบจากกลุ่มอื่น คือไม่ต้องเดินทางมาก ไม่เหนื่อยล้า แต่ก็ไม่ใช่แค่เรา แต่รวมถึงทีมอื่นๆก็เช่นกัน ที่ไม่ต้องเดินทางไกล” นิชิโนะ กล่าวปิดท้าย

ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image