‘นิชิโนะ’ วางเป้าหมายแรกพา ‘ช้างศึก’ ทวงเบอร์1อาเซียน ‘บิ๊กอ๊อด’ ยันระดมสมองหนุนเต็มที่

“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ประชุมร่วมกับ อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เพื่อวางแผนเตรียมความพร้อมของทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ก่อนลงแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง, ฟุตบอลซีเกมส์ 2019 และฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2020 รอบสุดท้าย ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ หัวหมาก เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม

พร้อมด้วย มร.การ์เลส โรมาโกชา ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคสมาคมฯ, มร. เบนจามิน ตัน ที่ปรึกษาและผู้อำนวยการฝ่ายใบอนุญาตสโมสร, รศ.ดร. วิชิต คำนึงสุขเกษม ประธานกรรมการคณะกรรมการพัฒนาและบริหารฟุตบอลทีมชาติไทย และตัวแทนสตาฟฟ์โค้ชทีมชาติไทย ร่วมหารือ

ภายหลังการประชุม พล.ต.อ.สมยศ เปิดเผยว่า นิชิโนะ ยอมเข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทาย และเชื่อว่าเป็นเรื่องที่ประสบความสำเร็จตามความจริง แต่โค้ชย่อมรู้ดีว่า ตอนนี้ปัญหาที่เกิดขึ้นคืออะไร ทั้งเรื่องนักเตะ เรื่องเวลา และการเก็บตัว ซึ่งไม่ใช่เพียงปัญหาในไทย แต่เกิดขึ้นกับทั่วโลก ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ของโค้ชที่จะต้องนำประสบการณ์มาแก้ไขปัญหา แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่การทำหน้าที่โค้ชแต่ละชุดจะประสบความสำเร็จได้ คือความร่วมมือจากภายในองค์กรเราเอง

“เราต้องช่วยเหลือเกื้อกูลสนับสนุนซึ่งกันและกันในทุกด้าน มีความเป็นกันเองสร้างความอบอุ่นให้กันและกัน เป็นข้อมูลที่ดีให้นิชิโนะ เราจึงจะประชุมหารือร่วมกันแบบนี้ทุกเดือนระหว่างสมาคมฯ โค้ชและสต๊าฟทีมชาติทุกชุด นอกจากนี้ ยังมี การ์เลส โรมาโกซา ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิค ที่มีหน้าที่หลักเรื่องการวางแผนรวบรวมข้อมูล หรือเป็นคลังสมองให้โค้ช ทุกคนต้องใช้ประโยชน์ส่วนนี้ หากต้องการอะไรก็ให้บอกเขา เขามีเครือข่ายที่มากกว่าเรา ต่อจากนี้คนที่ทำงานให้สมาคมฯ ทุกคนต้องเป็นทีมเดียวกัน” พล.ต.อ.สมยศ กล่าว

Advertisement

ขณะที่ นิชิโนะ กล่าวว่ายินดีที่สมาคมฯ ไว้วางใจให้รับหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลชาติไทย ชุดใหญ่ และรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ซึ่งตัวเองมีประสบการณ์คุมทีมชาติญี่ปุ่น ชุดโอลิมปิกเกมส์ รวมทั้งผ่านประสบการณ์ในฟุตบอลเจลีก 16 ปี และคุมทีมชาติญี่ปุ่น ไปแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่ประเทศรัสเซียมาแล้ว ทำให้มีประสบการณ์มากมายในญี่ปุ่น แต่นี่ถือเป็นครั้งแรกที่เดินทางมาทำงานนอกประเทศ ซึ่งถือเป็นงานที่ยาก และท้าทายสำหรับตัวเองมาก

“ผมมาทำงานคนเดียว สิ่งสำคัญที่สุดคือผมต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่ายให้ช่วยสนับสนุนการทำงานทุกอย่างให้เป็นไปอย่างราบรื่น ผมมาทำงานที่นี่ส่วนหนึ่ง เพราะเห็นความตั้งใจจริงของท่านนายกสมาคมฯ ที่ต้องการพัฒนาฟุตบอลไทยให้ก้าวไปข้างหน้า เป้าหมายแรกของผมคือพาทีมชาติไทยกลับไปเป็นทีมอันดับ 1 ของอาเซียน นี่คือก้าวแรก จากการที่ผมเดินทางไปชมการฝึกซ้อมของแต่ละสโมสร และเห็นการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้าไทยลีก ผมคิดว่าทีมชาติไทยสามารถก้าวไปถึงระดับโลกได้ในอนาคต ซึ่งผมจะพยายามผลักดันให้ทีมชาติไทยก้าวไปถึงจุดนั้นให้ได้” นิชิโนะ กล่าว

สำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง นัดแรก ทีมชาติไทย จะลงสนามพบกับทีมชาติเวียดนาม ในวันที่ 5 กันยายน 2562 ส่วนสนามและเวลาแข่งขันจะมีการแจ้งอย่างเป็นทางการอีกครั้ง ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐทีวี ช่อง 32

ส่วนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี จะลงป้องกันแชมป์ฟุตบอลซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งจะแข่งขันเกมแรกวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งการจับสลากแบ่งสายและโปรแกรมแข่งขันจะแจ้งให้ทราบต่อไป

ขณะที่ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี 2020 รอบสุดท้าย ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน วันที่ 8-20 มกราคม 2563 เพื่อคัดเอา 3 ทีมเข้าไปแข่งขันโอลิมปิกส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะใช้ 4 สนามแข่งขัน ประกอบด้วย สนามราชมังคลากีฬาสถาน, สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต, สนามสมโภช 700 ปี เชียงใหม่ และสนามติณสูลานนท์ จ.สงขลา

ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image