การที่พี่น้องคู่หนึ่งเตะฟุตบอลในสวนหลังบ้าน ในสนามกีฬาสักแห่ง หรือบนพื้นถนนด้วยกัน เป็นภาพที่เห็นได้จนชินตา แต่ถ้าพี่ชายต้องมาปะทะกับน้องชายในแมตช์รับใช้ชาติบนสังเวียนลูกหนังระดับโลกในฐานะคู่แข่ง ย่อมเป็นภาพที่น่าภูมิใจปนความเจ็บปวดของคนในครอบครัวไม่น้อย
ในฟุตบอลยูโร 2016 ใครๆ อาจจะรอดูแมตช์เปิดสนามระหว่างฝรั่งเศส พบ โรมาเนีย หรืออยากจะอยู่ในสนามนัดที่เยอรมนีเจอคู่ปรับและเพื่อนบ้านอย่างโปแลนด์ แต่สำหรับครอบครัว ชาก้า แมตช์ระหว่าง แอลเบเนีย กับ สวิตเซอร์แลนด์ น่าจะเป็นยูโรที่น่าจดจำครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะ ทอแลนท์ ชาก้า กองหลังทีมชาติแอลเบเนีย จะต้องมาดวลกับ กรานิต ชาก้า มิดฟิลด์ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์นั่นเอง
สองพี่น้องชาก้าเกิดที่บาเซิล สวิตเซอร์แลนด์ แต่พ่อ ราจิป และแม่ เอลมาเซ่ เป็นชาวโคโซโว ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่ไม่นิ่ง คู่รักชาก้าจึงพากันอพยพจากบ้านเกิดมายังสวิตเซอร์แลนด์ ในปี 1989
ทอแลนท์และชาก้าลืมตาดูโลกบนแผ่นดินสวิส และถูกส่งไปเล่นฟุตบอลกับ เอฟซี คอนคอร์เดีย บาเซิล อคาเดมีของ เอฟซี บาเซิล หนึ่งในทีมยักษ์ใหญ่ของสวิตเซอร์แลนด์ ตอนนั้นทอแลนท์อายุ 4 ขวบ ส่วนกรานิตยังเป็นเบบี้อายุ 18 เดือนเท่านั้น เหตุผลที่ทั้งคู่กลายเป็นนักเตะรุ่นจิ๋วในอคาเดมีแห่งนี้ เพราะพ่อแม่อยากจะให้ลูกๆ ไม่เอาแต่วิ่งเล่นอยู่ข้างถนน
สองพี่น้องชาก้าเริ่มเล่นฟุตบอลในวันเดียวกัน อคาเดมีเดียวกัน พ่อแม่มักจะจับใส่เสื้อผ้าเหมือนกัน จนหลายคนเข้าใจว่าพวกเขาเป็นฝาแฝดกัน ดูเหมือนว่าพี่น้องคู่นี้จะเป็นคู่ที่แยกกันไม่ได้
แต่ฟุตบอลกลับแยกเขาออกจากกัน!
ในปี 2010 สองพี่น้องชาก้าค้าแข้งให้กับเอฟซี บาเซิล กรานิตในวัย 17 ปี ได้ลงเล่นแมตช์แรกของตัวเองกับต้นสังกัดในฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบคัดเลือก ชาก้าผู้น้องซัดประตูปิดท้ายแบบสุดสวยให้บาเซิลเอาชนะ เดเบรเซนี่ วีเอสซี จากฮังการี 2-0 แต่ทอแลนท์ผู้พี่ไม่มีชื่อแม้เป็นตัวสำรองด้วยซ้ำ
ทอแลนท์ต้องรอถึง 2 เดือนถัดมา กว่าจะได้ประเดิมลงเล่นนัดแรกให้บาเซิลในฟุตบอลถ้วยสวิส คัพ กับทีมสมัครเล่น นาทีที่ 71 ทอแลนท์ถูกเปลี่ยนตัวลงมาในสนาม และการรอคอยของพี่น้องคู่นี้ที่จะได้ยืนอยู่บนสนามฟุตบอลระดับอาชีพข้างๆ กันก็สิ้นสุดลงตั้งแต่วันนั้น
ถึงแม้จะเป็นน้องชาย แต่ในโลกฟุตบอลกรานิตกลับเติบโตไวกว่าพี่ อ๊อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ อดีตกุนซือทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ขนานนามกรานิต ชาก้าว่าเป็น บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ แห่งเมืองนาฬิกาเลยทีเดียว หรือแม้กระทั่ง ทอร์สเท่น ฟิงก์ อดีตโค้ชบาเซิลเอ่ยปากว่า เซอร์ดาน ชากิรี่ จะเป็นนักเตะที่พรสวรรค์ยอดเยี่ยมที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ ถ้าไม่มีกรานิต ชาก้า อยู่ในประเทศนี้
กรานิตดีเกินไปสำหรับการเล่นในลีกสวิส เขาย้ายไป โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัก ในปี 2012 แต่ทอแลนท์กลับไม่ดีพอสำหรับบาเซิล เขาถูก กราสฮอปเปอร์ ซูริก ยืมตัวไปใช้งาน ในฤดูกาล 2012-2013 แต่โชว์ฟอร์มได้อย่างเยี่ยมยอด และกลับมาเป็นกำลังหลักให้บาเซิลจนถึงตอนนี้
สองพี่น้องชาก้าติดทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ทุกระดับ ตั้งแต่ 17, 18, 19, 20, 21 ปี แต่กรานิตถูกเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่ก่อนพี่ชาย ด้วยอายุเพียง 19 ปี และรักษาตำแหน่งในทีมชาติได้เรื่อยมา ขณะที่พี่ชายไม่ได้รับโอกาสนั้น
ในปี 2013 ทอแลนท์ประกาศว่าเขาจะเล่นให้ทีมชาติแอลเบเนีย สาเหตุที่เขาไม่เลือกเล่นให้ทีมชาติโคโซโว บ้านเกิดของพ่อแม่ตัวเอง เพราะโคโซโวยังไม่ได้รับการรับรองจากองค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ทำให้สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟ่า) ให้โคโซโวเล่นได้เพียงแมตช์กระชับมิตรเท่านั้น และต้องไม่ลืมว่าแอลเบเนียกับโคโซโวมีความสัมพันธ์ทางเชื้อชาติกันแบบแยกไม่ออก จนกระทั่งปี 2014 ทอแลนท์โอนสัญชาติจากสวิสเป็นแอลเบเนียน และถูกเรียกติทีมชาติแอลเบเนียหลังจากนั้นไม่นาน
ในขณะที่กรานิตเดินหน้าการเป็นนักฟุตบอลอาชีพด้วยการย้ายจากกลัดบักไปร่วมทัพ อาร์เซน่อล ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่ทอแลนท์ยังคงอยู่กับบาเซิล อย่างไรก็ตามฝีเท้าของกองหลังผู้พี่ก็ดีพอจะย้ายไปร่วมทีมยักษ์ใหญ่ของยุโรปได้เช่นกัน ขาดแต่เพียงว่าสิ่งนั้นยังไม่เกิดขึ้น
ทอแลนท์ยอมรับว่า “กรานิตเป็นนักฟุตบอลที่ดีกว่าผม ส่วนผมก็แค่มีโชคในการเล่นฟุตบอลก็เท่านั้น”
ตลอดการค้าแข้งที่ผ่านมา พี่น้องคู่นี้ยังไม่เคยเจอกันในฐานะคู่แข่งมาก่อน และนี่จะเป็นครั้งแรกที่พี่น้องที่รักกันสุดหัวใจจะได้มายืนอยู่คนละฝั่ง ทำหน้าที่เพื่อชาติที่ตัวเองเลือก ในนัดประเดิมยูโร 2016 ของทั้งสองทีม วันที่ 11 มิถุนายน
ไม่ว่าผลการแข่งขันวันนั้นจะออกมาเป็นอย่างไร แต่เชื่อมั่นว่าคนทั้งโลกจะได้เห็นสองพี่น้องชาก้ายืนกอดกันอย่างอบอุ่นในสต๊าด บอลแลร์ต-เดอเลอลีส์อย่างแน่นอน