ความเคลื่อนไหวทัพนักกีฬาพิการไทย ซึ่งเตรียมเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา “พาราลิมปิกเกมส์ 2020″ ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม-6 กันยายน 2563 โดย “บิ๊กนิดหน่อย” นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา นักกีฬาคนพิการไทยได้ออกไปแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนสะสมอย่างต่อเนื่อง และมีผลงานเป็นน่าพอใจ ซึ่งได้กำชับให้คณะทำงานที่เกี่ยวข้องได้ติดตามการแข่งขันอย่างใกล้ชิด และเมื่อพบปัญหาและอุปสรรคจะได้ดำเนินการแก้ไข รวมไปถึงการกำหนดแผนการเพื่อชิงโควต้าชนิดกีฬาที่นักกีฬาคนพิการไทยมีโอกาสจะได้เหรียญมากที่สุด
“ต้องดูปัจจัยศักยภาพของนักกีฬาคนพิการไทยว่ามีโอกาสเข้าใกล้เหรียญแค่ไหน ถ้าหากมีลุ้นเหรียญ ก็ต้องให้น้ำหนักกับกีฬาและนักกีฬาชนิดนั้น ซึ่งคณะทำงานก็กำลังติดตามเพื่อเก็บรวมรวมข้อมูลการแข่งขันอย่างใกล้ชิด ถึงตอนนี้นักกีฬาคนพิการไทยคว้าโควต้าไปโตเกียว 2020 อย่างเป็นทางการแล้ว คือ ยิงธนู 3 คน , บอคเซีย 4 คน และเทเบิลเทนนิส 1 คน ซึ่งก็ได้กำชับให้คณะทำงานเข้าไปดูแลการฝึกซ้อมอย่างใกล้ชิด เพราะทั้ง 8 คนนี้เป็นความหวังที่จะคว้าเหรียญให้กับประเทศไทย” นายจุตินันท์ กล่าว
ส่วนการขับเคลื่อนเพื่อพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาคนพิการของประเทศไทยนั้น นายจุตินันท์ กล่าวว่า คณะกรรมการพาราลิมปิกสากล หรือ ไอพีซี ได้เพิ่มการชิงเหรียญให้นักกีฬาพิการหญิงมากขึ้น ซึ่งขณะนี้คณะทำงานได้มีแผนงานเพื่อสร้างนักกีฬาคนพิการหญิง รวมถึงนักกีฬาคนพิการรุ่นใหม่ๆ โดยได้นำข้อมูลการชิงเหรียญทองของชนิดกีฬาในพาราลิมปิกเกมส์มาเป็นตัวช่วยในการกำหนดแผนผลักดันสนับสนุนเป็นอันดับต้นๆ แต่ก็ไม่ได้เมินเฉยกับชนิดกีฬาที่ชิงเหรียญน้อยแต่ประการใด การส่งเสริมสนับสนุนก็ยังคงดำเนินการเช่นเดิม
“ในโตเกียว 2020 ได้บรรจุเข้ามาใหม่ 2 ชนิดกีฬา คือ แบดมินตัน ชิง 14 เหรียญทอง จาก ชายเดี่ยว 7 เหรียญทอง, หญิงเดี่ยว 6 เหรียญทองและอีกเหรียญจากคู่ผสม ขณะที่เทควันโด้ ชิง 6 เหรียญทอง จาก 3 เหรียญทองเท่ากันของชายและหญิง โดยทั้งสองชนิดกีฬาก็เริ่มแข่งขันสะสมคะแนนกันแล้วตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งการแข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ที่โตเกียว ปีหน้านี้จะแข่งขัน 22 ชนิดกีฬา 540 เหรียญทอง โดยชนิดกีฬาที่ชิงเหรียญทองมากที่สุดคือ กรีฑา ชิง 168 เหรียญทอง รองลงมาคือ ว่ายน้ำ ชิง 146 เหรียญทอง” ประธานพาราลิมปิกไทยกล่าวปิดท้าย
