มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด พร้อมด้วย พันโทรุจ แสงอุดม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ ร่วมกันแถลงข่าวการเข้าร่วมสนับสนุนการแข่งขันรถจักรยานชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี” รายการ “พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019” สนามที่ 15 ของฤดูกาล ที่ห้องประชุมชั้น 25 อาคารเฉลิมกระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา กกท.หัวหมาก เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม
มร.ชิเกโตะ กล่าวว่า เอ.พี.ฮอนด้ารู้สึกภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของโมโตจีพี 2019 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ช่วงวันที่ 4-6 ตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นปีที่ 2 ที่ได้สนับสนุนโมโตจีพีในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยพร้อมเดินหน้าไปกับ กกท. และสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เพื่อผลักดันให้ประสบความสำเร็จ และยกระดับขึ้นต่อเนื่องในฐานะเจ้าภาพกีฬาระดับโลก
มร.ชิเกโตะ กล่าวอีกว่า อีกเป้าหมายคือการได้เห็นนักกีฬาไทยก้าวสู่วงการมอเตอร์สปอร์ตโลก โดยโครงการเรซ ทู เดอะ ดรีม ซึ่งปีนี้ได้ส่ง “คิงคองก้อง” สมเกียรติ จันทรา ลงแข่งขันในรุ่นโมโตทูแบบเต็มฤดูกาล และเชื่อว่าเขาจะคว้าโพเดียมต่อหน้าแฟนชาวไทยในสนามโฮมเรซได้ นอกจากนี้ ยังมี 3 นักบิดดาวรุ่ง “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี, “บิว” วริทธิ์ ทองนพคุณ และ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ ลงแข่งขันซัพพอร์พเรซในรายการเอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2019 ซึ่งถือเป็นบันไดสำคัญในการก้าวสู่การเป็นนักบิดระดับโลกต่อไปด้วย
ขณะที่ พันโทรุจ กล่าวว่า ความสำเร็ตของโมโตจีพีในประเทศไทยเกิดขึ้นจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และเอกชน เพื่อเป้าหมายพัฒนาวงการมอเตอร์สปอร์ตไทยให้เติบโตต่อเนื่อง ซึ่ง เอ.พี.ฮอนด้า ถือเป็นหนึ่งกำลังสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนให้เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะการสนับสนุนและผลักดันนักบิดไทยโลดแล่นในการแข่งขันระดับโลกอย่าง สมเกียรติ ที่เชื่อว่าจะสามารถพัฒนาต่อไปได้อีก และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย
“โมโตจีพีปีนี้เรามุ่งหวังที่จะทำลายสถิติผู้เข้าชมการแข่งขันของเราเองเมื่อปีก่อน และหวังทำลายสถิติผู้เข้าชมสนามแข่งขันในเอเชียด้วย นอกจากนี้ เราได้เตรียมที่เปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมการแข่งขันผ่านจอยักษ์บริเวณสนามแข่งขันอีก 30,000 ใบ เพื่อทำให้ศึกไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019 ประสบความสำเร็จ และได้กระแสตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง” พันโทรุจกล่าว
สำหรับศึกโมโตจีพี 2019 ชิงชัยกันมาถึงช่วงท้ายของฤดูกาล โดยที่ มาร์ค มาร์เกซ นักบิดชาวสเปนิชจากทีมเรปโซล ฮอนด้า กำลังขับเคี่ยวลุ้นแชมป์โลกสมัยที่ 8 หลังผ่านการแข่งขันไปทั้งสิ้น 12 สนาม มีคะแนนนำคู่แข่งอันดับ 2 อยู่ถึง 78 คะแนน ขณะที่เหลือการแข่งขันอีก 7 สนามในปีนี้ และนับจากนี้เหลืออีกเพียง 1 เดือนก็จะเข้าสู่การแข่งขันที่ประเทศไทยในสนามที่ 15 ของฤดูกาล
ขณะเดียวกัน สมเกียรติ จันทรา หนึ่งเดียวของไทยในโมโตทูแบบเต็มฤดูกาลภายใต้สังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีมเอเชีย โดยการสนับสนุนของ เอ.พี. ฮอนด้า ก็กำลังเดินหน้าเก็บคะแนนสะสมได้อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีคะแนนสะสม 11 คะแนนรั้งอันดับ 21 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ ซึ่งทางสมเกียรติมีเป้าหมายที่จะสร้างผลงานในโฮมเรซต่อหน้าแฟนชาวไทย ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคมนี้ หลังจากเคยทำสุดยอดผลงานมาแล้วในปี 2018 จากการคว้าอันดับที่ 9 ในรุ่นโมโตทรีแม้ลงแข่งขันในฐานะนักบิดไวด์การ์ด
นอกจากการแข่งขันของนักบิดระดับพระกาฬของโลกในคลาส โมโตจีพี, โมโตทู และ โมโตทรี แล้ว แฟนชาวไทยยังจะได้ส่งเสียงเชียร์บรรดานักบิดดาวรุ่งชาวไทยจาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ ในการแข่งขันรายการ “เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2019” ซึ่งถือเป็นบันไดขั้นสำคัญของดาวรุ่งจากเอเชีย ในการก้าวขึ้นสู่การเป็นนักบิดระดับโลก โดยนักบิดดาวรุ่งชาวไทยจากโครงการ “เรซ ทู เดอะ ดรีม” ทั้ง 3 คน ได้แก่ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี หมายเลข 5, “บิว” วริทธิ์ ทองนพคุณ หมายเลข 6 และ “ฟิล์ม” ปิยวัฒน์ ประทุมยศ หมายเลข 15 จะลงสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศในบ้านเกิด
ล่าสุด 3 ดาวรุ่งจาก เอ.พี.ฮอนด้า เรซซิ่ง ไทยแลนด์ เก็บคะแนนสะสมได้อย่างต่อเนื่องในศึก เอเชีย ทาเลนต์ คัพ 2019 โดย “บิว” วริทธิ์ รั้งอันดับ 5 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ มีทั้งสิ้น 73 คะแนน ตามด้วยทีมเมทอย่าง “ก๊องส์” ธัชกร รั้งอันดับ 6 มี 72 คะแนน ส่วน “ฟิล์ม” ปิยะวัฒน์ รั้งอันดับ 7 มีทั้งสิ้น 41 คะแนน ซึ่งในการแข่งขัน โฮมเรซที่ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต นั้น 3 นักบิดชาวไทยตั้งเป้าคว้าแชมป์มาครองต่อหน้าแฟนความเร็วในบ้านเกิดให้ได้
