สำนักข่าวแชนแนลนิวส์เอเชีย รายงานเมื่อวันที่ 5 กันยายนระบุว่า การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบสอง กลุ่มจี ซึ่งไทยเปิดบ้านเสมอกับดาวทอง เวียดนามไป 0-0 นั้น อีกคู่ที่สนามเกโลร่า บังการ์โน (เสนายัน) กรุงจาการ์ตาซึ่งอินโดนีเซีย เปิดบ้านพ่ายให้กับ มาเลเซียไปหวุดหวิด 3-2 เกิดเหตุการณ์วุ่นวายขึ้นท้ายเกมจนส่งผลให้นักเตะมาเลเซีย ต้องออกจากสนามด้วยการใช้รถหุ้มเกราะเลยทีเดียว
รายงานระบุว่าเกมเปิดหัวนัดแรกของทั้งสองทีมจบลงด้วยความวุ่นวายโดยเหตุการณ์เริ่มปะทุในนาทีที่ 65 ที่ทีมชาติมาเลเซียยิงตีเสมอเจ้าถิ่นเป็น 2-2 ก่อนจะมีกองเชียร์อินโดนีเซียรายหนึ่งวิ่งลงมาในสนามและโยนสิ่งของใส่อัฒจันทร์ทีมเยือน จนผู้จัดต้องหยุดเกมลง 10 นาที โดยมีการส่งกำลังตำรวจและทหารเข้าควบคุมสถานการณ์
หลังเกมเริ่มเล่นกันต่อ เกิดเหตุวุ่นวายอีกครั้งหลังจากโมฮามาดู สุมาเรห์ ยิงประตูชัยให้ทีมชาติมาเลเซียได้ในนาทีที่ 96 จบลงด้วยชัยชนะของมาเลเซียที่บุกมาคว้าชัยเหนือเจ้าบ้านอินโดนีเซียได้ถึงถิ่น ส่งผลให้แฟนบอลมาเลเซียตกเป็นเป้าจากบรรดากองเชียร์เจ้าถิ่น
โดยรัฐมนตรีกีฬามาเลเซีย สเยด ซัดดิค อับดุล ราห์มาน ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ระบุว่ามีแฟนบอลอินโดนีเซียจำนวนหนึ่งที่พยายามบุกข้ามาในเขตกองเชียร์ทีมเยือนจนส่งผลให้เกมต้องหยุดลงชั่วคราว และว่า มีสิ่งของอย่างพลุแฟลร์ และสิ่งของที่เป็นโลหะถูกขว้างมาฝั่งทีมเยือนด้วย โดยรัฐมนตรีกีฬามาเลเซีย ระบุว่าจะยื่นประท้วงอย่างเป็นทางการไปยังรัฐบาลอินโดนีเซีย
Sebentar tadi saya bersama penyokong2 Harimau Malaya menyaksikan Kelayakan Piala Dunia di Stadium Gelora Bung Karno. Objek besi,botol & suar dicampak kpd kami beberapa kali. pic.twitter.com/BxKscJvXsq
— Syed Saddiq (@SyedSaddiq) September 5, 2019
รายงานระบุด้วยว่าทีมผู้จัดการแข่งขันถึงขึ้นต้องใช้รถหุ้มเกราะ 5 คันเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ทีมและนักเตะทีมชาติมาเลเซียทั้ง 24 คนเพื่อนำไปส่งที่โรงแรมอย่างปลอดภัย โดยแหล่งข่าวระบุว่าต้องมีการใช้รถบัสขับบังโดยรอบเพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจด้วย