ความเคลื่อนไหว “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย หลังประเดิมสนามเสมอ “ดาวทอง” เวียดนาม 0-0 ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่มจี นัดแรก ที่สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 5 กันยายน โดยทีมชาติไทยมีคิวบุกเยือน “การูด้า” อินโดนีเซีย ที่สนามเกโลร่า บุงการ์โน่ (เสนายัน) วันที่ 10 กันยายนนั้น
อย่างไรก็ตาม ในการแข่งขันนัดแรก ซึ่ง อินโดนีเซีย พลาดท่าพ่ายคาบ้านต่อ “เสือเหลือง” มาเลเซีย 2-3 ได้ปรากฎภาพความวุ่นวายของแฟนบอลอินโดนีเซีย รวมถึงนักกีฬามาเลเซียต้องนั่งรถหุ้มเกราะออกจากสนามแข่งขันด้วยนั้น
ล่าสุด “บิ๊กโจ” นายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการและรองโฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า เรื่องนี้ต้องรอทางสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ว่าจะมีปฏิกริยาใดออกมาบ้าง ซึ่งเรื่องพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 กันยายน ทางเอเอฟซีคงต้องใช้เวลาในการสอบสวน หาหลักฐานราว 2-3 วัน
นายพาทิศ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องความปลอดภัยของทีมไทยและแฟนบอลไทยที่จะตามไปเชียร์นั้น ทางสมาคมฟุตบอลฯ จะต้องขอแผนรักษาความปลอดภัยจากอินโดนีเซีย มาแสดงให้ดู อย่างเช่นถ้าหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจะมีมาตรการอย่างไร ต้องไปอยู่ที่จุดใด
“จริงๆ เกมอินโดนีเซีย กับมาเลเซียนั้นมีแผนรักษาความปลอดภัยแล้ว แต่เมื่อมีเรื่องเกิดขึ้นก็ต้องมีมาตรการที่รัดกุมกว่าเดิม” นายพาทิศ กล่าว
ขณะที่ในส่วนของเว็บไซต์ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ได้เปิดให้แฟนบอลชาวไทย ได้จองบัตรการแข่งขันเกมในบ้านนัดต่อไป ซึ่งจะเปิดสนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต รับการมาเยือนของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นการจองรอบแรกสำหรับสมาชิก “ช้างศึกเมมเบอร์”
ผลปรากฎว่าหลังจากเปิดขายได้เพียง 2-3 นาทีเท่านั้น บัตรได้ทำการจำหน่ายหมดลงเป็นที่เรียบร้อย แต่ทั้งนี้จำนวนบัตรที่จำหน่ายรอบแรก อาจจะมีตัวเลขที่มากกว่านัดเจอเวียดนาม ที่จำหน่ายรอบแรกราว 10,000 ที่นั่ง เนื่องจากว่าหลังจากการจองบัตรครั้งก่อน มีผู้สมัครสมาชิกช้างศึกเมมเบอร์ขึ้นเป็นจำนวมากนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ยังมีการเปิดขายบัตรรอบปกติอีกครั้งในวันที่ 16 กันยายนนี้ ยังมีบัตรในราคา 500, 350 และ 200 บาท และตั๋วทีมเยือน ราคา 650 บาท โดยสามารถจองผ่านทางไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทั้งระบบออนไลน์เเละเคาน์เตอร์