การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2016” เปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว ที่สนามสต๊าด เดอ ฟร้องซ์, แซงต์ เดอนีส์ ตอนเหนือกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ท่ามกลางแฟนบอลที่เข้าชมการแข่งขันเต็มความจุ 80,000 คน และมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหารอาวุธครบมือกระจายกำลังกันคุมพื้นที่โดยรอบ และเข้มงวดกับการตรวจค้นอาวุธ และสิ่งผิดปกติเป็นพิเศษ เนื่องจากฝรั่งเศสกำลังตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มผู้ก่อการร้ายด้วยเช่นกัน
โดยคู่เปิดสนามเป็นเกมเตะในกลุ่มเอ “เจ้าภาพ” ทีม “ตราไก่” ฝรั่งเศส ภายใต้การคุมทีมของ ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องป์ อดีตกัปตันทีมชุดแชมป์โลก ปี 1998 และแชมป์ยุโรป ปี 2000 พบกับ “ผีดิบ” โรมาเนีย ที่มีกุนซือขรัวเฒ่าอย่าง อังเกล ยอร์ดาเนสคู ที่คัมแบ๊กกลับมาคุมทีมผีดิบเป็นครั้งที่ 3
สำหรับพิธีเปิดมีผู้นำของ 2 ประเทศคู่เปิดสนาม ฟรองซัวส์ โอลล็องด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และดาชิอัน โชลอส นายกรัฐมนตรีโรมาเนีย เข้าร่วมด้วยเช่นกัน
สำหรับสถิติการพบกัน 10 เกมหลังสุดของทั้ง 2 ทีมนั้น “ตราไก่” ฝรั่งเศส ไม่เคยปราชัยให้กับโรมาเนียแม้แต่ครั้งเดียว โดยฝรั่งเศสชนะ 5 ครั้ง แพ้ 5 ครั้ง โดย 4 จาก 5 ครั้งหลังสุดที่เจอกันจบลงด้วยผลเสมอกัน
โดย 5 ครั้งหลังสุดที่ทั้งคู่เจอกัน วันที่ 9 มิถุนายน 2008 ศึกยูโร 2008 รอบสุดท้าย เสมอกัน 0-0 / วันที่ 11 ตุลาคม 2008 ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก เสมอกัน 2-2 / วันที่ 5 กันยายน 2009 ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก เสมอกัน 1-1 / วันที่ 9 ตุลาคม 2010 ยูโร 2012 รอบคัดเลือก ฝรั่งเศส ชนะ 2-0 / วันที่ 9 กันยายน 2011 ยูโร 2012 รอบคัดเลือก เสมอกัน 0-0
เกมนี้ ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องป์ กุนซือทีม “ตราไก่” ที่ถูกยกให้เป็นเต็ง 1 ในการคว้าแชมป์ยูโร 2016 จัด 11 คนแรกลงสนามในระบบ 4-3-3 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู อูโก้ โยริส / กองหลัง บาการี่ ซานญ่า, อาดิล รามี่, โลร็องต์ กอสเซียลนี่, ปาทริซ เอวร่า / กองกลาง เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เบลส มาตุยดี้, ปอล ป๊อกบา / กองหน้า 3 คน อ็องตวน กรีซมันน์, โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ และดิมิทรี ปาเย็ต
ส่วนโรมาเนีย อังเกล ยอร์ดาเนสคู กุนซือรุ่นเดอะจัดทัพ 11 คนแรกลงสนามในระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู ชิปรีอัน ทาทารูชานู / กองหลัง คริสเตียน ซาปูนารู, วลาด กิริเกส, ดรากอช กรีกอเร่, ราซวาน รัต / กลางรับ 2 คน มิไฮ ปินติลี่ กับ โอวิดิอู โฮบาน/ กลางรุก 3 คน เอเดรียน โปป้า, นิโคลาย สแตนชิอู, บอกดาน สแตนคู / กองหน้า 1 คน ฟลอริน อันโดเน่
เริ่มเกมครึ่งแรกฝรั่งเศสเป็นฝ่ายเขี่ยลูกเริ่มก่อน ผ่านไปแค่ 5 นาที โรมาเนีย เกือบได้ประตูออกนำเจ้าถิ่นไปก่อน จากจังหวะเตะมุมฝั่งซ้าย บอลเลยไปแถวสอง บอกดาน สแตนคู บรรจงแปด้วยเท้าขวาจ่อๆ หน้าประตูแต่บอลไปติด อูโก้ โยริส นายด่านตราไก่แบบเหลือเชื่อ
นาทีที่ 9 เป็นฝรั่งเศสได้ลุ้นบ้าง ปาเย่ต์ เปิดด้วยเท้าซ้ายมาหน้าประตู ชิรูด์ ลอยตัวโหม่งบอลถากเสาแรกไปหวุดหวิด ถัดมาอีก 4 นาที ฝรั่งเศสได้ลุ้นอีกจังหวะ ซานญ่า เปิดบอลโค้งจากกราบขวา วลาด กิริเกส ปราการหลังผีดิบสกัดผิดเหลี่ยมบอลมาเข้าทาง อ็องตวน กรีซมันน์ โหม่งบอลไปชนเสาแบบน่าเสียดาย
ผ่าน 20 นาทีแรกเกมของฝรั่งเศสไม่ได้เหนือกว่า โรมาเนีย มากนัก นาทีที่ 26 ป๊อกบา ตัดสินใจส่องไกล 35 หลาบอลเหินข้ามคานออกไปแบบไม่ได้ลุ้น นาทีที่ 31 วลาด กิริเกส กัปตันทีมโรมาเนีย กลายเป็นนักเตะคนแรกในยูโร 2016 ที่ได้รับใบเหลืองหลังจากไปตัดเกมใส่ ชิรูด์ ทำให้ วิกเตอร์ คอสไซ เชิ้ตดำจากฮังการี ควักใบเหลืองแจกทันที
นาทีที่ 36 ปาเย็ต เปิดบอลเรียดไปที่กรอบเขตโทษ กรีซมันน์ สับไกยิงบอลถากเสาไปแบบหวุดหวิด ช่วงท้ายครึ่งแรกพยายามตั้งเกมเซตบอลจากแดนหลังเน้นความแน่นอน แต่ยังไม่สามารถเจาะแนวรับผีดิบได้ หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0
เริ่มครึ่งหลังมาแค่ 3 นาที เป็นโรมาเนีย ได้ลุ้นประตูนำก่อนเหมือนช่วงต้นครึ่งแรก บอกดาน สแตนคู ได้จังหวะพักอกในกรอบเขตโทษก่อนจะวอลเล่ย์ด้วยเท้าขวาบอลหลุดเสาไปแบบน่าเจ็บใจ นาทีที่ 52 ชิรูด์ ได้หลุดไปสับด้วยเท้าซ้ายในกรอบเขตโทษบอลพุ่งไปตรงตัว ชิปรีอัน ทาทารูชานู ประตูโรมาเนีย
นาที 57 ปาเย็ต ลากทะลุไปในเขตโทษ ล็อคบอลหลอกกองหลังก่อนตักบอลย้อนไปที่กรอบเขตโทษ ป๊อกบา วิ่งเข้าวอลเล่ย์ตูมเดียว บอลพุ่งเข้ากรอบแต่ไปติดเซฟของ ชิปรีอัน ทาทารูชานู แบบเหลือเชื่อ นาทีเดียวกัน ปาเย็ตไปเติมเกมฝั่งขวา และเปิดบอลมาหน้าประตู ชิรูด์ ลอยตัวโขกบอลได้ก่อนที่ทาทารูชานู จะปัดได้บอลพุ่งเข้าเสียบตาข่ายอย่างสวยงามให้ฝรั่งเศส ออกนำ 1-0
นาทีที่ 64 โรมาเนีย ได้จุดโทษ ในจังหวะที่ ปาทริซ เอวร่า กองหลังฝรั่งเศส ไปขัดขานิโคลาย สแตนชิอู มิดฟิลด์โรมาเนีย ในกรอบเขตโทษ กรรมการเป่าเป็นจุดโทษทันที และเป็น บอกดาน สแตนคู ซัดจุดโทษไม่เหลือช่วยให้โรมาเนียไล่ตีเสมอทันควัน
นาทีต่อมา ดิดิเย่ร์ เดช็องป์ กุนซือทีม “ตราไก่” ตัดสินใจเปลี่ยนตัวคนแรก ถอด กรีซมันน์ ออกและส่ง คิงส์ลีย์ โกม็อง ลงมาแทน
นาทีที่ 76 ฝรั่งเศส เปลี่ยนตัวรายที่สอง ถอด ป๊อกบา ออก และส่ง อ็องโตนี่ มาร์กซิยัล ดาวดังจากทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงมาแทน นาทีที่ 82 โรมาเนีย เปลี่ยนตัวบ้าง ส่งตัวจี๊ด กาเบรียล ทอร์เย่ ลงมาแทน เอเดรียน โปป้า
ช่วงท้ายเกมฝรั่งเศสโหมบุก นาทีที่ 89 ปาเย็ต กลายเป็นฮีโร่ของเจ้าภาพหลังได้จังหวะตะบันด้วยเท้าซ้ายบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมให้ฝรั่งเศสเอาชนะไป 2-1 เก็บ 3 แต้มเต็มทะยานขึ้นนำจ่าฝูงกลุ่มเอ
สำหรับนัดต่อไป “เจ้าภาพ” ฝรั่งเศส จะพบกับ แอลเบเนีย วันที่ 15 มิถุนายน เวลา 02.00 น. ตามเวลาเมืองไทย ส่วนโรมาเนีย จะลงสนามนัดที่ 2 พบกับ สวิตเซอร์แลนด์ ในวันเดียวกัน เวลา 23.00 น.0 ตามเวลาเมืองไทย ขณะที่นัดแรกของ แอลเบเนีย จะพบกับ สวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 11 มิถุนายน เวลา 20.00 น. ตามเวลาเมืองไทย
