การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก “โมโตจีพี 2019” สนามที่ 15 ของฤดูกาล รายการ “พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์” เข้าสู่การแข่งขันอย่างเป็นทางการ ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ โดยเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ โดยที่มีแฟนมอเตอร์สปอร์ตชาวไทย และชาวต่างชาติทั่วโลกต่างหลั่งไหลเดินทางเข้ามาชมการแข่งขันกันจนแน่นความจุของสแตนด์
การแข่งขันรุ่นโมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยรชิพ มีนักบิดหนึ่งเดียวของไทยลงแข่งขันอย่าง “คิงคองก้อง” สมเกียรติ จันทรา ดาวรุ่งวัย 20 ปี จาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ลงแข่งขันแบบเต็มฤดูกาล โดยสนามนี้ก้องได้ออกสตาร์ทจากกริดที่ 13 ขณะที่โพลโพซิชั่นเป็น อเล็กซ์ มาร์เกซ จ่าฝูงชาวสแปนิชจาก มาร์ค วีดีเอส
เรซนี้ดวลความเร็วกันทั้งสิ้น 24 รอบสนาม โดยที่ สมเกียรติ บิดแซงคู่แข่งได้ในช่วงโค้งสุดท้ายทะยานเข้าป้ายอันดับที่ 9 ไปครอง โดยทำเวลาตามหลัง ลูก้า มารินี่ นักบิดชาวอิตาเลี่ยน จากสกาย เรซซิ่ง ทีม วีอาร์ 46 ที่เข้าป้ายเป็นคันแรกเพียง 14.622 วินาที
ทั้งนี้ จากผลอันยอดเยี่ยมของสมเกียรติในการจบอันดับ 9 ถือเป็นอันดับที่ดีที่สุดในฤดูกาลนี้ ทำให้สมเกียรติเก็บแต้มเพิ่มอีก 7 คะแนน ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 20 บนตารางแชมเปี้ยนชิพ มีทั้งสิ้น 20 คะแนน ฉลองการต่อสัญญาใหม่กับต้นสังกัด อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ในการลุยศึก โมโตทู ฤดูกาล 2020
ส่วนนักบิดที่คว้าโพเดียม ประกอบด้วย อันดับ 1 ลูก้า มารินี่ นักบิดชาวอิตาเลี่ยน จากสกาย เรซซิ่ง ทีม วีอาร์ 46 ทำเวลาได้ 38.40.882 นาที, อันดับ 2 แบรด บินเดอร์ นักบิดชาวแอฟริกาใต้ จาก เรด บลู เคทีเอ็ม เอโจ ทำเวลาตามหลัง 2.296 วินาที และอันดับ 3 อีเกร์ เลคัวน่า นักบิดชาวสแปนิช จากทีมอเมริกัน เรซซิ่ง เคทีเอ็ม
สมเกียรติ เปิดเผยภายหลังจบการแข่งขันว่า ต้องขอขอบคุณแฟนๆ ชาวไทยทุกคนที่มาให้กำลังใจที่สนาม และจากทางบ้านด้วย โดยในวันนี้น่าเสียดายที่พลาดในโค้ง 3 ของรอบแรก และร่วงลงไปถึงอันดับ 21 จังหวะนั้นต้องการเบรกลึก เพื่อแซงคู่แข่ง แต่ยางยังไม่ยึดเกาะทำให้มีอาการสไลด์ แต่จากนั้นก็พยายามเต็มที่จนสามารถกลับมาจบการแข่งขันในอันดับ 9 ได้สำเร็จ ขอมอบผลงานที่ดีนี้ให้กับแฟนๆ ชาวไทย
สำหรับการแข่งขัน โมโตทู เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ 2019 สนามถัดไป จะมีขึ้นในวันที่ 16-18 ตุลาคมนี้ ที่ ทวินริง โมเตกิ ประเทศญี่ปุ่น ในรายการ เจแปนีส กรังด์ปรีซ์
