‘ไทยลีก’ ยึดโมเดลลีกดัตช์ ชงเพย์ออฟเลื่อนชั้น-ตกชั้น ‘บิ๊กอ๊อด’ ยันใช้VARฤดูกาลหน้า

“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานการจัดงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ หัวข้อ Future of Thai League โดยมีตัวแทนสโมสรฟุตบอลในไทยลีก 1 ร่วมด้วยที่ห้องเลอโลตัส 2 ชั้น 2 โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม

พล.ต.อ.สมยศ เปิดเผยว่า การสัมมนาครั้งนี้ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้เชิญ มร.เคนนี้ แมคลาวด์ วิทยากรจากสหพันธ์ฟุตบอลแห่งยุโรป (ยูฟ่า) และ มร.ฌอน ฮาวี่ วิทยากรจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาให้ความรู้กับสโมรสมาชิกทั้งไทยลีก 1 และไทยลีก 2 โดยสิ่งที่วิทยากรจะมอบความรู้ให้ก็จะเป็นเรื่องการบริหารจัดการสโมสรว่าจะทำอย่างไรที่จะช่วยทำให้สโมสรได้รับความสนใจจากแฟนบอลมากขึ้น

บิ๊กอ๊อดกล่าวอีกว่า วิทยากรจะให้ความรู้ในเรื่องการสร้างแฟนบอล ตลอดการหารายได้ของสโมสรไม่ว่าจะเป็นเรื่องการหาสปอนเซอร์ การจำหน่ายสินค้าที่ระลึกของสโมสรต่างๆ โดยจะเป็นช่วยทำให้สโมสรสามารถหารายได้เพื่อนำไปใช้ในการทำทีม เนื่องจากเพียงลำพังเงินสนับสนุนจากสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และภาครัฐมีจำนวนเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้น

“รายได้หลักของสโมสรควรที่จะมาจาการบริหารจัดการในเชิงธุรกิจของสโมสร เพราะฉะนั้นการสัมมนาครั้งนี้วิทยากรทุกท่านเป็นผู้มีความรู้ความสามารถจากทั้งยูฟ่า และพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะมาบอกแต่ละสโมสรว่าจะทำอย่างไรให้มีแฟนบอลเพิ่มมากขึ้น และเป็นแฟนบอลที่ยั่งยืน รวมทั้งอยากให้มีการบริหารสโมสรให้มีความมั่นคง โดยวิทยากรได้นำแบบอย่างของสโมสรชั้นนำจากทั้งในอังกฤษ, สเปน, เยอรมนี, อิตาลี และฝรั่งเศส มาถ่ายทอดให้กับสโมสร” บิ๊กอ๊อดกล่าว

Advertisement

นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กล่าวว่า นอกจากนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จะแจ้งให้กับสโมสรได้ทราบได้เรื่องการเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่างในการแข่งขันฤดูกาลหน้า โดยจะให้ความรู้กับสโมสรในการจัดการแข่งขันรูปแบบใหม่ ซึ่งมีแตกต่างไปจากเดิม อย่างเช่น เรื่องการเลื่อนชั้น และตกชั้น จากเดิมที่มีเลื่อนชั้น 3 ทีม และตกชั้น 3 ทีม ซึ่งก็เอาแบบอย่างจากลีกเนเธอร์แลนด์ที่มีการเพย์ออฟเลื่อนชั้น และตกชั้น มาแลกเปลี่ยนความรู้กับสโมสรว่า การเพย์ออฟหาทีมเลื่อนชั้น และตกชั้น จะช่วยทำให้แมตช์การแข่งขันตื่นเต้นเร้าใจสนุกสนาน และเป็นเกมที่เป็นแฟนบอลให้ความสนใจ เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าให้กับฟุตบอลไทยลีกมากยิ่ง แต่เบื้องต้นยังเป็นการพูดคุยกันกับสโมสร และยังไม่ได้มีข้อสรุป

พล.ต.อ.สมยศ กล่าวถึงการใช้เทคโนโลยีวิดีโอช่วยตัดสิน หรือ VAR ว่า ถึงตอนนี้สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ มีอุปกรณ์พร้อมแล้ว แต่ชั่วโมงการอบรมของผู้ตัดสินยังไม่ครบตามข้อกำหนดของคณะกรรมการสมาคมฟุตบอลระหว่างประเทศ (ไอแฟบ) โดยเตรียมจะทดสอบใช้ VAR ได้ในฟุตบอลสี่เส้ารุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี รายการ “จีเอสบี แบงค็อก คัพ 2019” ที่สนามบุณยะจินดา ระหว่างวันที่ 10-12 ตุลาคมนี้ จากนั้นก็จะมีการอบรมผู้ตัดสินจนครบกำหนดที่จะใช้ตัดสินได้ 1 ชุดในรอบชิงชนะเลิศ ถ้วยช้าง เอฟเอ คัพ 2019 วันที่ 2 พฤษศจิกายน จากนั้นก็จะอบรมไปเรื่อยๆ จนครบกำหนด 4 ชุดที่จะสามารถใช้ VAR ตัดสินได้ 4 คู่ในแต่ละวันแข่งขันในศึกไทยลีก ฤดูกาล 2020

“ในฤดูกาลหน้าฟุตบอลไทยลีกจะมีการนำเทคโนโลยี VAR เข้ามาช่วยตัดสิน เนื่องจากเราได้มีการอบรมครบตามชั่วโมงบินที่ไอแฟบกำหนดไว้แล้ว ซึ่งในศึกไทยลีก 2 นัดสุดท้ายของฤดูกาลนี้ที่ยังไม่สามารถใช้งาน VAR ได้ก็ต้องขอบอกกับแฟนบอลว่า เรายังไม่ได้มีการอบรมผู้ตัดสินครบตามชั่วโมงที่เขากำหนด แต่ในฤดูกาลหน้าเราจะมีคณะผู้ตัดสิน VAR ถึง 4 ชุดแล้ว ซึ่งก็จะใช้ตัดสินในเกมไทยลีกที่เตะวันเสาร์ได้ 4 คู่ และเกมที่เตะในวันอาทิตย์ได้อีก 4 คู่นั่นเอง” บิ๊กอ๊อด กล่าวปิดท้าย

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image