‘พลังเพลิง’ ประกาศพักทีมลุยไทยลีก – ‘ปตท.’ ปรับแผนมุ่งเน้นพัฒนาเยาวชน ‘พีทีที อคาเดมี’

นายปริญญา โพธิสัตย์ รองผู้ว่าราชการ จ.ระยอง, นายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บมจ.ปตท., นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไทยออยล์, นายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี และนายชญาน์ จันทวสุ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานบริหารความยั่งยืนและภาพลักษณ์องค์กร บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล ร่วมกันในพิธีลงนามและแถลงข่าว “การสนับสนุนด้านกีฬา กลุ่ม ปตท. และพัฒนาทีมฟุตบอลเยาวชน” ที่ชั้น 6 อาคารเอ็นโค่ บี ปตท.สำนักงานใหญ่ วิภาวดีรังสิต เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม

พร้อมกันนี้ยังมี นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการ บมจ.ปตท., นางอรวดี โพธิสาโร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กลยุทธ์องค์กร บมจ.ปตท., นายมนตรี ชนะชัยวิบูลย์วัฒน์ ที่ปรึกษานายก อบจ.ระยอง และ พล.อ.ท.บุญสืบ ประสิทธิ์ ประธานสโมสรฟุตบอล “พลังเพลิง” พีทีที ระยอง ทีมอันดับ 11 ในศึกโตโยต้า ไทยลีก 2019 ร่วมกันแถลงข่าวในครั้งนี้ด้วย

นายชาญศิลป์ กล่าวว่า พิธีลงนามครั้งนี้เป็นความร่วมมือกันระหว่าง ปตท., ไทยออยล์, พีทีที โกลบอล เคมิคอล และไออาร์พีซี ในการพัฒนาศูนย์ฝึกอบรมทางด้านฟุตบอลในนาม “พีทีที อคาเดมี” ในพื้นที่ จ.ระยอง เพื่อให้เยาวชนได้รับการฝึกสอนที่ดีถูกต้อง และเตรียมพร้อมให้เยาวชนเป็นนักฟุตบอลอาชีพ หรือนักฟุตบอลทีมชาติต่อไป โดยปัจจุบัน ปตท.กำหนดทิศทางกลยุทธ์ด้านกีฬา “3T” ประกอบด้วย 1.Training การร่วมมือกับสมาคมและสโมสรกีฬาในการฝึกสอนกีฬาประเภทต่างๆ 2.Tournament การสร้างเวทีแข่งขันเพื่อเปิดโอกาสและเตรียมพร้อมสู่เวทีมาตรฐานระดับสากล และ 3.Thai Cheer การสร้างขวัญกำลังใจให้ทัพนักกีฬาไทย

นายชาญศิลป์ กล่าวว่า สำหรับทีมพีทีที ระยอง นั้น เราเตรียมจะส่งหนังสือพักทีมในฤดูกาลหน้าไปให้กับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งสาเหตุหลักนั้นทางผู้บริการระดับสูงได้มีการพูดคุยกันมานานแล้วว่า เราคงไม่ถนัดในการทำทีมฟุตบอลอาชีพ 7-8 ปีที่ผ่านมา ไม่ได้ภาพมวลชน จึงได้ปรับวิธีการลงไปทำงานกับภาคประชาชนด้วยการพัฒนาในระดับเยาวชน ยืนยันว่าไม่ได้มีความขัดแย้งใดๆ และไม่มีเรื่องการเมืองใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เราขอพักก่อน ส่วนกรณีขายสิทธิ์ของทีมนั้น ยืนยันว่าไม่จริงตามที่เป็นกระแสข่าว เพราะเราไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน ส่วนสัญญาของนักเตะนั้น เราจะดำเนินการทุกอย่างถูกต้องตามสัญญา และจะนัดทุกฝ่ายเข้ามาพูดคุยในเรื่องการจ่ายเงินชดเชย

Advertisement

ขณะที่ นางอรวดี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท. เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม มีมติเรื่องทิศทางการพัฒนา และสนับสนุนกีฬา โดยมุ่งเน้นพัฒนาทักษะเยาวชนด้วยการพัฒนาทีมพีทีที อคาเดมี บริเวณพื้นที่ จ.ระยอง ด้วยการปรับปรุงสถานที่ให้ทันสมัย และหลักสูตรที่เหมาะสม ตั้งเป้าว่าจะทำให้ช่วงในปี 2563 อีกทั้งเพื่อส่งเสริมให้เยาวชนมีโอกาสมากขึ้นด้วยการร่วมมือกับสโมสรฟุตบอลคัดเลือกนักกีฬา สนับสนุนการจัดแข่งขันฟุตบอลเยาวชนระดับประเทศ และให้ทุนพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ เพื่อพัฒนาไปสู่นักเตะอาชีพ ต่อยอดไปสู่ทีมชาติ และระดับนานาชาติต่อไปภายใน 6 ปีจะต้องเห็นผลลัพธ์

“เพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ และสอดคล้องกับเป้าประสงค์ที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท. ดังกล่าว ปีหน้าเราจะขอพักทีมชั่วคราวไปก่อน และจะนำงบประมาณที่เคยทำทีมฟุตบอลมาใช้ในการพัฒนาทีมพีทีที อคาเดมี โดยขอขอบคุณทีมงานสต๊าฟโค้ช นักฟุตบอล และผู้เกี่ยวข้องทุกคน สำหรับพลังกาย และแรงใจที่ร่วมทำงานกัน รวมถึงขอบคุณแฟนบอลที่คอยสนับสนุน และมิตรภาพที่คอยอยู่เคียงข้างทีมเสมอมา อย่างไรก็ตาม ปตท. ยังคงมุ่งมั่นพัฒนา และสนับสนุนฟุตบอลระดับเด็กเยาวชนต่อไป ซึ่งจะเป็นรากฐานในการสร้างนักฟุตบอลอาชีพรุ่นใหม่ให้กับทุกๆ ทีม และผลิตนักเตะสู่ทีมชาติต่อไป” นางอรวดี กล่าว

สำหรับกรณีการหาทีมมาแทนที่ พีทีที ระยอง นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการแข่งขันกีฬาฟุตบอลอาชีพ “ไทยลีก” พ.ศ.2562 ข้อ 17.2.1 ระบุว่า กรณีที่ทีมจาก “ไทยลีก 1” ถอนทีม หรือ ไม่ได้รับใบอนุญาต และทีมดังกล่าวไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขของการตกชั้นตามข้อ 15.1(ไม่ได้อยู่ใน 3 อันดับสุดท้าย) ให้พิจารณาเสริมทีมจากทีมที่มีคะแนนสะสมใน 3 อันดับสุดท้ายของ “ไทยลีก 1” ตามลำดับคะแนนที่ดีที่สุด ที่มีคุณสมบัติครบหลักเกณฑ์ตามที่กำหนด ให้ครบตามจำนวนทีมที่สมาคมหรือฝ่ายจัดกำรแข่งขันกำหนด

Advertisement

ทั้งนี้ สุพรรณบุรี เอฟซี เป็นทีมคะแนนดีสุดใน 3 ทีมจากโซนตกชั้น ซึ่งหากยึดตามระเบียบข้อนี้ สุพรรณบุรี จะได้เล่นในศึกโตโยต้า ไทยลีก ต่อไปในฤดูกาลหน้า ขณะที่ ชัยนาท ฮอร์นบิล กับ เชียงใหม่ เอฟซี ตกชั้นลงไปเล่นไทยลีก 2 ฤดูกาลหน้าตามเดิม

สำหรับ พีทีที ระยอง ก่อตั้งสโมสรเมื่อปี พ.ศ.2526 หรือ 36 ปีที่แล้วในชื่อ สโมสรฟุตบอล ปตท. ซึ่งฤดูกาลล่าสุดทำผลงานจบอันดับที่ 11 ในศึกไทยลีก 2019 โดยมีผลงานชนะ 9 เสมอ 8 แพ้ 13 และเพิ่งกลับมาเล่นลีกสูงสุดในฐานะแชมป์ไทยลีก 2 หลังจากลงไปเตะลีกรองอยู่ 4 ปี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image