สาริศ สุวรรณรัตน์ คืนฟอร์มเก่งหวด 7 เบอร์ดี้โดยไม่เสียโบกี้ก่อนจบรอบ 7 อันเดอร์พาร์ 65 รวมสามวัน 9 อันเดอร์พาร์ 207 แซงนำหน้า กิตติพร ชวนะพงศ์ อันดับ 2 อยู่ 4 สโตรก ในการแข่งขันกอล์ฟอาชีพไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ รายการ “สิงห์-เอสเอที ขอนแก่น แชมเปี้ยนชิพ 2019” ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท ที่สนามสิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟคลับ ระยะ 7,496 หลา พาร์ 72 จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน
สมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขัน “สิงห์-เอสเอที ขอนแก่น แชมเปี้ยนชิพ 2019” ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท โดยผู้ชนะเลิศจะรับเงินรางวัลไปครอง 360,000 บาท เป็นรายการสะสมเงินรางวัลออเดอร์ ออฟ เมอริท รายการที่ 8 และรายการสุดท้ายของไทยแลนด์พีจีเอทัวร์ฤดูกาลนี้ แข่งขันระหว่างวันที่ 20-23 พฤศจิกายน 2562 ที่สนามสิงห์ปาร์ค ขอนแก่น กอล์ฟคลับ ระยะ 7,496 หลา พาร์ 72
ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน เป็นรอบสามของการแข่งขัน “โปรเซฟ” สาริศ สุวรรณรัตน์ นักกอล์ฟวัย 21 ปี จากกรุงเทพฯ รีดฟอร์มเก่งเก็บเข้ามาอีก 7 เบอร์ดี้ โดยไม่เสียโบกี้แม้แต่หลุมเดียวก่อนจบรอบเข้ามาอีก 7 อันเดอร์พาร์ 65 รวมสามวัน 9 อันเดอร์พาร์ 207 ทิ้งห่างอันดับสอง 4 สโตรก ขยับเข้าใกล้แชมป์ไทยแลนด์พีจีเอทัวร์รายการที่สองของฤดูกาลหลังจากเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเพิ่งชนะที่กบินทร์บุรี สปอร์ตคลับ หรือ เคบีเอสซี
หลังการแข่งขัน สาริศ เปิดเผยว่า “วันนี้ทุกอย่างดีหมด ไดร์ฟเวอร์กลับมาเข้าที่ เหล็กกลับมาตีได้ตามเป้า แทบไม่มีพลาดเลย จะมีพลาดก็อ่านไลน์นิดหน่อยแต่โดยรวมถือว่าดีมาก จริงๆสัปดาห์นี้เป้าของผมสามวันขอให้ตีอันเดอร์ให้ได้ทุกวัน แต่เมื่อวานพลาดไปถือว่าวันนี้มาเอาคืน”
“สัปดาห์นี้ไดร์ฟเวอร์กับเหล็กกลับมาทำได้ดี เพราะว่าสองสามแมทช์ก่อนหน้านี้ผมตีไดร์ฟเวอร์กับเหล็กไม่ได้เลย แต่แมทช์นี้มั่นใจขึ้นเลยทำแต้มได้ดีขึ้น สำหรับรอบสุดท้ายขึ้นอยู่กับพัตต์ครับ เพราะที่นี่อ่านไลน์ยาก แต่ก็ตีไปตามเกม ถ้าเราตีตามเกมได้แล้วที่สุดจะโดนเขาแซง อันนั้นก็ถือว่ามันไม่ใช่วันของเรา” โปรเซฟ กล่าว
ด้าน กิตติพร ชวนะพงศ์ นักกอล์ฟวัย 20 ปี เข้ารอบสามเก็บเพิ่มอีก 4 เบอร์ดี้ก่อนกลับขึ้นคลับเฮ้าส์ด้วยสกอร์ 2 อันเดอร์พาร์ 70 รวมสามวันอยู่อันดับ 2 ที่สกอร์ 5 อันเดอร์พาร์ 211 ตามหลังผู้นำอยู่ 4 สโตรก โดยเจ้าตัวเผยว่า “วันนี้ตีเหล็กไม่ค่อยออนเกมเลยต้องเน้นเซฟเยอะหน่อย ทีช็อตอยู่แฟร์เวย์เยอะแต่ไม่ดีเท่าเมื่อวาน แต่สกอร์ออกมาลบสองนี่พอใจเลยครับ”
“ตีตามเกมตัวเอง พยายามตีออนให้เยอะแล้วพัตต์ให้ลง ปัจจัยสำหรับผมน่าจะอยู่ที่พัตต์ ใครพัตต์ลงเยอะกว่าก็มีลุ้น ถ้าถามผมก็มั่นใจครับ” กิตติพร ที่ผลงานดีที่สุดในไทยแลนด์พีจีเอทัวร์คือการจบอันดับเจ็ดร่วมในการแข่งขันที่สปริงฟิลด์ รอยัล คันทรีคลับ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กล่าวถึงการลุ้นแชมป์แรก
ส่วน กัมลาศ นาเมืองรักษ์ ผู้นำหลังผ่าน 36 หลุม เข้ารอบสามมีปัญหากับทีช็อตและการเล่นบนกรีนก่อนจบสกอร์รอบสามเกินไป 4 โอเวอร์พาร์ 76 หล่นมาอยู่อันดับสามร่วมกับ แสงชัย แก้วเจริญ ที่หวดเข้ามาอีก 3 อันเดอร์พาร์ 69 รวมสามวันมีคนละ 3 อันเดอร์พาร์ 213 ขณะที่ ฉ่างไท้ สุดโสม (68) และธยาน์ ลิมปิผลไพบูลย์ (73) ไล่มาหนึ่งสโตรกที่ 2 อันเดอร์พาร์ 214
