‘สเตอร์ริดจ์’ ฮีโร่ซัดทดเจ็บพา’สิงโต’คำรามดังสนั่นเอาชนะ ‘เวลส์’สุดมัน 2-1

ภาพ AFP

การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2016” ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน คู่แรก คิกออฟเวลา 20.00 น. ตามเวลาเมืองไทย เป็นศึกสายเลือดเกาะอังกฤษ “สิงโตคำราม” อังกฤษ พบ “มังกรแดง” เวลส์ ในเกมเตะกลุ่มบี นัด 2 ที่สนามสต๊าด โบลลาร์-เดอเลลิส เมืองล็องส์

 

สถานการณ์ก่อนเตะลูกทีมของ รอย ฮอดจ์สัน มีแต้มเดียวหลังถูกรัสเซียตีเสมอ 1-1 ช่วงทดเจ็บนัดแรก ส่วนเวลส์ที่เพิ่งเข้ารอบสุดท้ายยูโรครั้งแรก และเล่นรายการใหญ่ต่อจากฟุตบอลโลก 1958 ชนะสโลวาเกีย 2-1 ทำให้เวลส์จะการันตีเข้ารอบน็อกเอาต์ 16 ทีมทันที ถ้าคว้าชัยเหนืออังกฤษ ขณะที่พลพรรคแข้งสิงโตคำรามต้องพยายามเก็บชัยชนะให้ได้ก่อนเพื่อไม่ให้กดดันอย่างหนักในนัดสุดท้าย

 

Advertisement

สำหรับผู้เล่น 11 ตัวจริงทีมชาติอังกฤษที่ “ปู่รอย” รอย ฮอดจ์สัน กุนซือใหญ่ส่งลงสนามในระบบ 4-3-3 ประกอบด้วย โจ ฮาร์ต, ไคล์ วอล์กเกอร์, แกรี่ เคฮิลล์, คริส สมอลิ่ง, แดนนี่ โรส, เดเล่ อัลลี่, เอริค ดายเออร์, เวย์น รูนี่ย์, อดัม ลัลลาน่า, แฮร์รี่ เคน และราฮีม สเตอร์ลิ่ง

 

ด้านทีม “มังกรแดง” เวลส์ ที่มี คริส โคลแมน คุมทัพ จัดทีมมาต่อกรในระบบ 3-5-2 ประกอบด้วย เวย์น เฮนเนสซีย์, เจมส์ เชสเตอร์, แอชลีย์ วิลเลียมส์, เบน เดวี่ส์, คริส กุนเทอร์, อารอน แรมซีย์, โจ เลดลีย์, โจ อัลเลน, นีล เทย์เลอร์, ฮัล ร็อบสัน-คานู และแกเร็ธ เบล

Advertisement

 

สถิติพบกันทุกรายการ 101 นัด อังกฤษชนะมากกว่าที่ 66 นัด เสมอ 21 แพ้ 14 ครั้งสุดท้ายที่เจอกันอังกฤษชนะ 1-0 รอบคัดเลือกยูโร 2012 และเสียท่าเวลส์หนล่าสุดแมตช์อุ่นเครื่อง 32 ปีก่อน 0-1

เริ่มเกมเป็นทีมชาติเวลส์เขี่ยบอลก่อน แต่อังกฤษครองเกมได้มากกว่าเน้นการต่อบอลที่แน่นอนจากเท้าสู่เท้า ไม่เร่งโหมบุกใส่เวลส์มากนัก ผ่านไปแค่ 3 นาที อังกฤษได้ลูกเตะมุมครั้งแรกซึ่งคราวนี้อังกฤษเปลี่ยนมาให้ เวย์น รูนี่ย์ เป็นคนเตะมุมแทน แฮร์รี่ เคน ที่นัดแรกรับหน้าที่เตะมุมและ “ปู่รอย” โดนวิพากษ์วิจารณ์เยอะว่าวางแทคติคผิดพลาดแทนที่จะให้แฮร์รี่ เคน ไปลุ้นทำประตู

 

นาทีที่ 7 อดัม ลัลลาน่า หลุดไปทางกราบขวาเปิดไปหน้าประตู ราฮีม สเตอร์ลิ่ง พุ่งชาร์จโล่งๆ แต่บอลข้ามคานไปชนิดทำเอาแฟนบอลสิงโตคำรามเซ็งไปตามๆ กัน

 

FBL-EURO-2016-MATCH16-ENG-WAL

 

ผ่าน 10 นาทีแรก อังกฤษ ครองบอลได้มากกว่าอย่างชัดเจน แต่ยังเจาะแนวรับเวลส์ไม่เข้า ขณะที่ตัวเก่งของมังกรแดง แกเร็ธ เบล ได้เพียงจังหวะง้างเท้าในกรอบเพียงครั้งเดียว แต่ไปติดบล็อกของ แกรี่ เคฮิลล์

 

นาทีที่ 26 เวย์น รูนี่ย์ เปิดฟรีคิกฝั่งซ้ายมาหน้าประตู แกรี่ เคฮิลล์ ดันขึ้นมาโขกกลางประตูบอลไปเข้ามือ เวย์น เฮนเนสซีย์ ประตูทีมชาติเวลส์ ผ่านครึ่งชั่วโมงแรกสิงโตคำรามดูดีกว่า ได้ลุ้นประตูมากกว่า แต่ยังไม่คมพอ ขณะที่เกมรุกของเวลส์อาศัยความสามารถเฉพาะตัวของ แกเร็ธ เบล เพียงคนเดียวจึงไม่ได้กดดันแนวรับสิงโตคำรามแต่อย่างใด

 

FBL-EURO-2016-MATCH16-ENG-WAL

 

นาทีที่ 36 รูนี่ย์ เปิดเตะมุมฝั่งขวามาหน้าประตู คริส สมอลลิ่ง ขึ้นโหม่งบอลหลุดออกนอกกรอบแบบได้ลุ้น ท้ายครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเล่นกันแบบระมัดระวังตัวไม่กล้าเปิดเกมรุกเข้าใส่กันแบบเต็มตัว กระทั่งนาทีที่ 42 แกเร็ธ เบล สตาร์ดังทีมชาติเวลส์ได้จังหวะตะบันฟรีคิก 35 หลากลางประตู บอลพุ่งไปเสียบโคนเสาหมดสิทธิ์ที่ โจ ฮาร์ต จะพุ่งปัดบอลออกนอกกรอบช่วยให้เวลส์ขึ้นนำอังกฤษก่อน 1-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

FBL-EURO-2016-MATCH16-ENG-WAL

FBL-EURO-2016-MATCH16-ENG-WAL

 

เริ่มครึ่งหลัง อังกฤษเปลี่ยนแผนทันทีส่ง เจมี่ วาร์ดี้ ลงมาแทน แฮร์รี่ เคน และส่ง ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ลงมาแทน สเตอร์ลิ่ง อังกฤษเริ่มเร่งเกมเร็วขึ้น โหมบุกใส่เวลส์อย่างหนัก นาทีที่ 55 รูนีย์ ลากแหวกกองหลังเวลส์ไปปั่นเรียดกลางประตูระยะ 22 หลาบอลพุ่งเกือบเสียบเสา แต่ประตูเวลส์ปัดออกหลังไป

 

นาทีถัดมา วาร์ดี้ กลายเป็นฮีโร่ของอังกฤษได้ส้มหล่นจากจังหวะที่แนวรับเวลส์โหม่งสกัดบอลพลาดและเอี้ยวตัวยิงเข้าไปให้อังกฤษไล่ตีเสมอเวลส์ 1-1

 

FBL-EURO-2016-MATCH16-ENG-WAL

หลังจากได้ประตูไล่ตีเสมอพาสิงโตฟื้นจากการเป็นแมวกลับมาคำรามสมฉายา อังกฤษก็เริ่มบดขยี้เข้าใส่เวลส์อย่างหนัก กดเวลส์จนแทบโงหัวไม่ขึ้น นาทีที่ 71 เวลส์เปลี่ยนตัวเอา ร็อบสัน-คานู ออก และเอา โจนาธาน วิลเลียมส์ ลงมาแทน ขณะที่อังกฤษ ส่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด ดาวรุ่งวัย 18 ปีจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงมาแทน อดัม ลัลลาน่า

 

ช่วงท้ายเกมอังกฤษเปิดเกมรุกใส่เวลส์อย่างหนักอีกระรอก กระทั่งช่วงทดเจ็บ สเตอร์ริดจ์ ได้ลากบอลหลุดเข้าไปยิงประตูชัยพาอังกฤษเอาชนะเวลส์ไปอย่างสุดมัน 2-1 ทำให้อังกฤษมี 4 แต้มจากการลงสนาม 2 นัดมีโอกาสลุ้นเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายสูง ขณะที่เวลส์ มี 3 แต้มจาก 2 นัดยังมีโอกาสเข้ารอบต่อไปเช่นกัน

 

สำหรับนัดสุดท้ายกลุ่มบี  ฟาดแข้งพร้อมกันในวันที่ 20 มิถุนายน เวลา 02.00 น. ตามเวลาเมืองไทย  “สิงโตคำราม” จะพบกับ สโลวาเกีย ขณะที่ “มังกรแดง” เวลส์ จะดวลกับ “หมีขาว” รัสเซีย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image