ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2016” ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน คู่แรกประจำวัน “อัซซูรี่” อิตาลี ทีมยักษใหญ่แห่งยุโรป ที่มี อันโตนิโอ คอนเต้ เป็นกุนซือ จะพบกับ “ไวกิ้ง” สวีเดน ที่มีกองหน้าอย่างซลาตัน อิบราฮิโมวิช เป็นกัปตันทีม ในเกมกลุ่มอี นัดที่ 2 ที่สเตเดียม เดอ ตูลูส เมืองตูลูส
ผลงานในนัดแรก อิตาลีโชว์ฟอร์มแจ่มอัดเบลเยียมไป 2-0 ส่วนสวีเดน ทำได้เพียงเสมอกับไอร์แลนด์ไป 1-1
เกมนี้อันโตนิโอ คอนเต้ ยังคงยึดแผนการเล่นในระบบ 3-5-2 เช่นเดิม แต่มีการเปลี่ยนผู้เล่น 1 ตำแหน่ง โดยส่งอเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ ลงมาเป็นวิงแบ๊กขวาแทนมัตเตโอ ดาร์เมียน นอกนั้นยังคงผู้เล่นชุดเดิม นำโดย จานลุยจิ บุฟฟ่อน นายทวารกัปตันทีม เซนเตอร์ 3 คนจากยูเวนตุส ประกอบด้วย จอร์โจ้ คิเอลลินี่, อันเดรีย บาร์ซาญี่ และ เลโอนาร์โด โบนุชชี่ ส่วนวิงแบ๊กซ้ายเป็น อันโตนิโอ คันเดรว่า มิดฟิลด์ 3 คนมี ดานิเอเล่ เด รอสซี่ ยืนตัวรับ ขณะที่เกมรุกใช้ เอมานูเอเล่ จัคเครินี่ ประสานงานกับ มาร์โก้ ปาโรโล่ โดยที่คู่หน้าเป็น เอแดร์ กับ กราเซียโน่ เปลเล่
ขณะที่ เอริก ฮัมเรน กุนซือทีมไวกิ้ง มีการปรับหลายตำแหน่ง แต่ยังยึดระบบ 4-4-2 เช่นเดิม นำโดย อันเดรีย อิซากส์สัน เป็นผู้รักษาประตู กองหลังใช้ อันเดรียส กรันควิสต์ จับคู่เซนเตอร์กับ วิคตอร์ ลินเดลอฟ แบ๊กขวาเป็นเอริก โยฮันส์สัน แบ๊กซ้าย มาร์ติน โอลส์สัน กองกลางใช้ อัลบิน เอกดาล กับ คิม คัลสตรอม ปีกขวาเป็น เซบาสเตียน ลาร์สสัน ปีกซ้ายเป็น เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ขณะที่คู่กองหน้าเป็นซลาตัน อิบราฮิโมวิช กับ จอห์น กุยเด็ตติ
เกมเริ่มมาได้ 10 นาทีมีโอกาสยิงครั้งแรกของอิตาลี จากจังหวะที่ฟลอเรนซี่ ยิงจากบริเวณกรอบเขตโทษ แต่เข้ามือของอิซากส์สัน
รูปเกมเป็นสวีเดนที่ครองบอลบุกได้มากกว่า แต่ทางด้านอิตาลีก็เล่นเกมรับอย่างเหนียวแน่นและรอจังหวะสวนกลับ
นาทีที่ 40 เป็นอิตาลีได้โอกาสจากจังหวะที่คันเดรว่า ได้เปิดทางด้านขวา แต่กองหลังสวีเดนยังช่วยกันเคลียร์ออกไปได้
ถัดมา 2 นาทีเป็นโอกาสของสวีเดนบ้าง จากจังหวะวางบอลยาวของคัลสตรอม เข้ามาในกรอบเขตโทษ อิบราฮิโมวิชเอาบอลลงไม่ดีก่อนถูกเคลียร์ออกไปได้
จากนั้นยังทำอะไรกันไม่ได้ จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลังเริ่มมาเป็นอิตาลีที่ได้ทักทายก่อน จากจังหวะที่ปาโรโร่ จ่ายให้เอแดร์ได้ยิง แต่บอลติดไซด์ก้อยออกไป
อิตาลีได้บุกมากขึ้น จากการขึ้นเกมทางด้านขวาของคันเดรว่า แต่ยังเปิดบอลไม่เข้าเป้า ทำให้เสียโอกาสบุกไปหลายครั้ง
นาทีที่ 60 อิตาลีเปลี่ยนตัวแรกส่งซิโมเน่ ซาซ่า ลงมาแทนเปเล่ ที่เล่นไม่ออกในเกมนี้
ถัดมา 4 นาที ฟลอเรนซี่เปิดข้ามฝั่งไป บอลเลยถึงคันเดรว่าวิ่งมาซัดที่เสาแรก แต่อิซากส์สันยังเซฟไว้ได้
นาทีที่ 72 สวีเดนน่าได้ประตูอย่างที่สุด จากจังหวะที่โอลส์สัน เปิดจากด้านซ้าย บอลเลยมาถึงซลาตันได้ชาร์จจ่อๆ ข้ามคาน ก่อนผู้ช่วยผู้ตัดสินจะยกธงล้ำหน้าเสียก่อน
นาทีที่ 74 อิตาลีเปลี่ยนตัวคนที่ 2 ส่งติอาโก้ ม็อตต้า ลงมาแทนเด รอสซี่
นาทีที่ 79 สวีเดนเปลี่ยนตัวบ้าง ถอดฟอร์สเบิร์ก กับเอกดาล ออก แล้วส่งจิมมี่ ดูร์มาซ กับ ออสการ์ เลวิคกี้ ลงมาแทน
โอกาสใกล้เคียงที่สุดมาในนาทีที่ 82 จัคเครินี่ เปิดจากด้านซ้าย บอลเลยไปถึง ปาโรโล่ ได้โหม่งเดี่ยวๆ แต่บอลพุ่งชนคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 88 อิตาลีมาได้ประตูในที่สุดจากจังหวะที่คิเอลลินี่ทุ่มบอลให้เอแดร์ลากมาเดี่ยวๆ ก่อนซัดตรงหน้ากรอบเขตโทษ เป็นประตูให้ทีมขึ้นนำ 1-0
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ คันเดรว่าได้โอกาสหลุดเดี่ยว โดยมีเอแดร์รออยู่ในกรอบเขตโทษ แต่เลือกยิงเอง ถูกอิซากส์สันเซฟไว้ได้
จบเกมอิตาลีชนะ 1-0 เก็บชัยชนะ 2 นัดรวด มี 6 คะแนนเต็ม ผ่านเข้าสู่รอบที่สองตาม “ตราไก่” ฝรั่งเศส เจ้าภาพไป ขณะที่สวีเดน ผ่าน 2 นัดมีเพียง 1 คะแนน ต้องลุ้นในนัดสุดท้าย
