ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2016” ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน คู่สุดท้ายประจำวัน เป็นการแข่งขันในกลุ่มดี นัดที่สอง “กระทิงดุ” สเปน แชมป์เก่า ของกุนซือบีเซนเต้ เดล บอสเก้ จะพบกับ “ไก่งวง” ตุรกี ของขรัวเฒ่าอย่างฟาติห์ เตริม ที่สต๊าด เดอ นีซ เมืองนีซ
แชมป์เก่าลงเล่นนัดแรกด้วยการเฉือนเอาชนะสาธารณรัฐเช็กมา 1-0 ในขณะที่ตุรกีพ่ายให้กับโครเอเชียมา 1-0
เกมนี้สเปนยังคงยึด 11 ตัวจริงชุดเดิม มาในระบบ 4-3-3 ผู้รักษาประตูเป็นดาบิด เด เคอา กองหลังใช้ เคราร์ด ปิเก้ จับคู่กับ เซร์คิโอ รามอส กัปตันทีม และให้ฆวนฟราน ยืนแบ๊กขวา ฆอร์ดี้ อัลบา ยืนแบ๊กซ้าย กองกลางมีเซร์คิโอ บุสเก็ตส์ ยืนตัวรับ และให้เชสก์ ฟาเบรกาส ทำเกมร่วมกับ อันเดรส อิเนียสต้า ขณะที่แนวรุกมีดาบิด ซิลบา ขึ้นเกมด้านขวา โนลิโต้ ทางด้านซ้าย และอัลบาโร่ โมราต้า เป็นกองหน้าตัวเป้า
ขณะที่ตุรกียังมาในระบบ 4-3-3 เช่นเดิม แต่มีการเปลี่ยนผู้เล่นเล็กน้อย นำทีมโดย โวลคาน บาบากัน เป็นนายทวาร กอลหลัง 4 คนประกอบด้วยโกคาน โกนูล ยืนแบ๊กขวาจาเนร์ เอร์คิน ยืนแบ๊กซ้าย เมห์เม็ต โทปาล จับคู่เซนเตอร์กับฮาคาน บัลต้า กองกลางใช้โอซาน ตูฟาน, เซลชุก อินาน, โอกูซาน โอซยาคุป ประสานงานร่วมกัน ขณะที่แนวรุกมีฮาคาน ชาลฮาโนกลู ทางด้านขวา อาร์ด้า ตูราน กัปตันทีม ทางด้านซ้าย และกองหน้าตัวเป้าใช้บูรัก ยิลมาซ
เริ่มเกมมาแค่ 2 นาที รามอส โดนใบเหลืองเป็นคนแรกอย่างรวดเร็ว
นาทีที่ 6 ของเกมกระทิงดุได้โอกาสยิงครั้งแรกจากการยิงไกลของโมราต้า แต่บาบากันพุ่งปัดออกไปเป็นลูกเตะมุมก่อนตุรกีจะเคลียร์ออกมาได้
สเปนยังคงเป็นฝ่ายที่คุมเกมบุกได้ตลอด นาทีที่ 11 อัลบาได้หลุดทางด้านซ้ายเปิดเข้ากลางมา แต่จังหวะสุดท้ายบัลต้า สกัดออกไปได้ ลูกเตะมุมปิเก้ได้โหม่งแต่ข้ามคานออกไป
นาทีที่ 26 เป็นตุรกีได้ฟรีคิกระยะ 29 เมตร ชาลฮาโนกลู ลองปั่นแต่บอลข้ามคานไปเล็กน้อยเท่านั้น
นาทีที่ 28 โนลิโต้ ลองปั่นจากนอกกรอบ แต่บอลเฉียดเสาสองออกไปเล็กน้อยเท่านั้น
กระทั่งนาทีที่ 34 สเปนก็ปลดล็อกประตูแรกได้สำเร็จจากจังหวะที่โนลิโต้ เปิดบอลจากด้านซ้ายให้โมราต้าขึ้นโหม่งคนเดียวเหน่งๆ ไม่พลาดให้ทีมขึ้นนำ 1-0
3 นาทีต่อมา สเปนได้ประตูที่สอง จากจังหวะที่ฟาเบรกาส ชิพบอลเข้ากรอบเขตโทษแล้วโทปาลสกัดพลาดไปเข้าทางโนลิโต้สอดขึ้นมายิงเบาๆ เข้าไปให้ทีมหนีห่างเป็น 2-0
ท้ายครึ่งแรกสเปนได้สวนกลับ โมราต้าหลุดมาก่อนเปิดมาถูกโทปาลสกัดออกหลังได้ก่อนที่ปิเก้จะพุ่งมาชาร์จได้ จบครึ่งแรกสเปนนำอยู่ 2-0
เริ่มต้นครึ่งหลังตุรกีมีการปรับเปลี่ยนผู้เล่น ส่งนูรี ซาฮิน ลงมาเล่นแทนชาลฮาโนกลู
นาทีที่ 48 สเปนหนีห่างเป็น 3-0 จากจังหวะที่อัลบา หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปตบกลับเข้ากลางให้โมราต้าแปลอดขาบาบากันเข้าไปได้ และเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้
ถัดมา 2 นาที โมราต้าเกือบทำแฮตทริกได้ จากการโหม่งลูกเปิดของอิเนียสต้า แต่่ว่าบอลหลุดกรอบออกไป
ตุรกีมีโอกาสทำประตูบ้างในนาทีที่ 52 จากจังหวะที่ยิลมาซ ล็อกหนีปิเก้ ก่อนจะได้ยิง แต่บอลพุ่งข้ามคานออกไป
สเปนยังคงเปิดเกมบุกอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 60 ซิลบาได้มีโอกาสยิงถึง 2 ครั้งติดๆ กัน แต่ว่ายังเปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้
นาทีที่ 62 ตุรกีเปลี่ยนตัวคนที่สอง ส่งออลคาย ชาฮาน ลงมาแทน โอซยาคุป ต่อมาอีก 2 นาที สเปนเปลี่ยนตัวคนแรก ส่งบรูโน่ โซเรียโน่ ลงมาเล่นแทนซิลบา
นาทีที่ 70 ตุรกีเปลี่ยนตัวคนสุดท้าย ส่ง ยูนุส มัลลี่ ลงมาแทน อินาน ขณะที่สเปนส่งโกเก้ ลงมาแทนฟาเบรกาส
ช่วง 10 นาทีสุดท้าย สเปนเริ่มผ่อนเกม และเปลี่ยนตัวคนสุดท้ายส่งเซซาร์ อัซปิลีกวยต้า ลงมาเล่นแทนอัลบา
นาทีที่ 87 ตุรกีมีโอกาสตีไข่แตก จากจังหวะที่ชาฮาน หลุดเข้าไป แต่จังหวะสุดท้ายอัซปิลีกวยต้า พุ่งมาสกัดเอาไว้ได้
เวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่สามารถทำอะไรเพิ่มได้ จบเกมสเปนชนะตุรกี 3-0 ยืดสถิติยังไม่แพ้ใครในฟุตบอลยูโร รอบสุดท้ายเป็น 14 นัดติดต่อกัน และยังไม่เสียประตูต่อเนื่อง 690 นาที
สเปนเก็บชัยชนะ 2 นัดรวด ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายเป็นทีมที่ 3 ตามฝรั่งเศส และอิตาลี ไป ขณะที่ตุรกี แพ้ 2 นัดรวด แต่ยังมีลุ้นเข้ารอบในนัดสุดท้ายได้
โปรแกรมนัดสุดท้ายสเปนจะพบกับโครเอเชีย ขณะที่ตุรกีจะพบกับสาธารณรัฐเช็ก