หลังจากที่ “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลชายทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ ตกรอบแรก ฟุตบอลชาย ซีเกมส์ ครั้งที่ 30 จากการทำได้แค่เสมอกับ “ดาวทอง” เวียดนาม 2-2 ในการแข่งขันกลุ่มบี นัดสุดท้าย ที่บิญาน ฟุตบอล สเตเดียม เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม
อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชาวญี่ปุ่น กล่าวหลังเกมว่า เกมนี้คิดว่าผู้เล่นทั้งสองฝ่ายทำหน้าที่ได้อย่างสุดความสามารถแล้ว และผลการแข่งขันที่ออกมามันก็แฟร์สำหรับทั้งคู่ ส่วนการตกรอบของทีมไทยนั้นมันเนื่องมาจากเกมแรกที่เริ่มต้นไม่ดี เนื่องจากการเตรียมตัวที่ยังไม่พร้อม แม้ว่านัดต่อๆ มาจะทำได้ดีขึ้น แต่นัดนี้ก็ไม่สามารถเอาชนะแล้วผ่านเข้ารอบไปได้ ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นความผิดของตัวเองที่บริหารจัดการได้ไม่ดีพอ
ผู้สื่อข่าวเวียดนามถามว่ารู้สึกอย่างไรที่การเจอกัน 3 ครั้งระหว่างอากิระ นิชิโนะ กับ ปาร์ค ฮัง ซอ ยังไม่มีผลแพ้ชนะ ซึ่งนิชิโนะ กล่าวว่า หวังว่าในการเจอกันครั้งต่อไปจะมีผลแพ้ชนะเสียที ขณะที่ตนเองกับโค้ชปาร์คนั้นมีความสนิทสนมกันในระดับหนึ่ง และตัวเองก็ให้ความเคารพฟุตบอลเวียดนามที่พัฒนาขึ้นมามาก มีบางอย่างที่ไทยต้องทำตามและอีกหลายอย่างที่ไทยต้องสร้างเอกลักษณ์ตัวเองขึ้นมา เป็นสิ่งที่ไทยจะต้องไปปรับปรุงต่อไป
ส่วนเรื่องจุดโทษที่เวียดนามได้ยิง 2 ครั้งนั้น นิชิโนะ กล่าวว่า คำตัดสินของผู้ตัดสินคือสิ่งที่นักเตะต้องฟัง น่าเสียดายที่จุดโทษครั้งแรกนั้นนนท์ ม่วงงาม มีปฏิกิริยาที่ดีและสามารถเซฟไว้ได้
นิชิโนะ กล่าวถึงอาการบาดเจ็บของ “อาร์ม” ศุภชัย ใจเด็ด ว่า ก่อนเกมศุภชัยนั้นมีสภาพไม่พร้อมเต็มร้อยอยู่แล้ว เมื่อลงไปเล่นจึงมีอาการบาดเจ็บอย่างที่เห็น ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้รับรายงานเพิ่มเติมว่าเจ็บขนาดไหน
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงเรื่องสัญญาที่เตรียมขยายออกไป 2 ปี ซึ่งนิชิโนะ ตอบว่า คงต้องไปถามสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กันเอาเอง
ด้าน ปาร์ค ฮังซอ เฮดโค้้ชเวียดนาม กล่าวหลังเกมว่า เกมนี้ถือว่าเป็นเกมที่ยาก แต่สุดท้ายทีมเวียดนามก็ผ่านเข้ารอบตัดเชือกได้สำเร็จ ทีมของเขาต้องเจอกับ 3 เกมหนักต่อเนื่องทั้งอินโดนีเซีย, สิงคโปร์ และนัดสุดท้ายกับไทย อย่างที่เห็นว่าครึ่งแรกลูกทีมเป็นรองไทยอยู่ แต่ด้วยทัศนคติที่ไม่ยอมแพ้ ทำให้กลับมาตีเสมอและผ่านเข้ารอบได้สำเร็จ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศุภชัย ใจเด็ด ต้องให้เพื่อนหามออกจากห้องแต่งตัวเนื่องจากอาการบาดเจ็บที่ได้รับในเกม