การแข่งขันปันจักสีลัตชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 25-30 ธันวาคม ที่เมืองหยานจี๋ มณฑลจี้หลิน ประเทศจีน ภายในโรงแรมเอ็มดีเอ็ม สกีรีสอร์ท เมื่อช่วงเช้าวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา เป็นการเปิดการแข่งขันวันแรกโดยมีผู้บริหารของชาติต่างๆ เข้าร่วมงาน ซึ่งมี ชีค อัลอูดดิน ยาคุป มาริกัน ประธานปันจักสีลัตเอเชียเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการท่ามกลางนักกีฬาและกรรมการผู้ตัดสินอย่างเรียบง่าย
สำหรับวันนี้นักกีฬาไทยลงทำการแข่งขัน 8 คนด้วยกัน แบ่งเป็นชาย 6 คน และหญิง 2 คน เปิดหัวคนแรกที่ เทวัญ แสงเงิน หรือพันธุ์พยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์ นักมวยค่าตัวเงินแสนที่หันมาเอาดีทางนี้เจอกับ ชาง ยุน จุน นักกีฬาจากเกาหลีใต้ ซึ่งการชกทั้ง 3 ยกนั้น พันธุ์พยัคฆ์ จิตรเมืองนนท์ เป็นฝ่ายทำคะแนนด้วยลูกเตะสลับกับการออกหมัดและลูกถีบทำแต้มจนเอาชนะนักกีฬาจากแดนโสมขาวไปแบบสบาย 5-0 คะแนน ทำให้ผ่านเข้ารอบ 8 คนสุดท้ายต่อไป
มาถึง อาดีลัน เจ๊ะแมง ในรุ่น 60-65 กก. เจ้าของดีกรีเหรียญทองแดงเอเชี่ยนเกมส์ 2018 ที่อินโดนีเซียพบ ตุ้ง เหวียน ง๊อก จากเวียดนาม โดยทั้งสองยกต่างผลัดกันทำคะแนนจนแต้มมานำสลับกัน 3-2 ซึ่งทาง อาดีลันเป็นฝ่ายเตะทำแต้มได้จะๆ หลายครั้ง แต่กรรมการไม่กดคะแนน ผิดกับฝั่งของเวียดนามในยกสุดท้ายคะแนนขึ้นเอาๆ จนทำให้ อาดีลัน เจ๊ะแมง เดินรุกไล่ทำแต้มก็ไม่เป็นผลเนื่องจากคะแนนไม่ขึ้นเลย หมดยก 3 กรรมการชูมือให้ ตุ้ง เหวียน ง๊อก เอาชนะอาดีลันไป 4-1 คะแนน โดย 1 คะแนนที่ได้มาจากกรรมการชาวไทย
ต่อคู่ความหวังเหรียญทอง “นนท์” พรเทพ พูลแก้ว อดีตแชมป์โลก 2 สมัยในรุ่น 65-70 กก. พบกับ ไท พัน อันห์ จากเวียดนาม ครั้งนี้แย่กว่าคู่อาดีลันเพราะกรรมการตัดสินมีชาวเวียดนามถึง 3 คน โดยเกมของ เจ้านนท์ เป็นฝ่ายทำแต้มเตะเข้าเป้าตลอดหลายครั้งแต้มก็ไม่ขึ้น แต่กลับเป็นฝั่งเวียดนามผ่านไป 2 ยกขึ้นนำ เจ้านนท์ 3-2 พอเข้ายกสุดท้าย นนท์ทำแต้มได้ตลอดคะแนนก็ไม่ขึ้นจนทำให้ทางฝั่งโค้ชไทยเริ่มประท้วงโดยเฉพาะกรรมการบางคนไม่กดคะแนนให้ไทยเลย กดแต่แต้มให้กับเวียดนามจนเกิดเสียงโห่ไม่พอใจของกองเชียร์ไทย
ทำให้ ผศ.สมรรถชัย คันธมาทน์ ผู้ช่วยโค้ชเดินเข้าไปต่อว่ากรรมการที่อยู่ด้านข้างๆ จนทำให้ถูกใบเตือนจากกรรมการผู้ตัดสิน ยิ่งทำให้กองเชียร์ไทยและกลุ่มสต๊าฟโค้ชไม่พอใจ จนอาจารย์นักรบ ทองแดง ผู้จัดการทีมต้องเดินออกจากเก้าอี้ไปประท้วงกรรมการผู้ตัดสินเพื่อให้ช่วยเช็กกรรมการทั้งสองคนจากจีนและเกาหลีใต้ด้วยว่ามีการให้คะแนนอย่างไร แต่กรรมการกลางก็เป็นคนเวียดนามอีกจึงต้องร้องเรียนถึงประธานจัดงาน ชีค อัลอูดดิน ยาคุป มาริกัน ชาวสิงคโปร์ ต้องเข้ามาจัดการดูเรื่องนี้เนื่องจากไทยเรียกร้องความเป็นธรรมจนเกิดการจลาจลประท้วงนานกว่า 20 นาที สุดท้ายทางประธานจัดงานได้เปลี่ยนตัวกรรมการชาวเกาหลีใต้ออกจากที่นั่งและเปลี่ยนตัวกรรมการคนใหม่ แต่คะแนนยังยืนยันไม่เปลี่ยนแปลง จนทำให้โค้ชแอนดี้ ชูลกัรไน ต้องโยนผ้ายอมแพ้ไม่แข่งขันต่อ
ซึ่งทีมไทยก็ออกมาปรึกษากันต่อว่าจะเอาอย่างไรต่อไป เพราะผู้ตัดสินลำเอียงการจัดกรรมการตัดสินไม่มีความยุติธรรมทีแรกว่าจะ walk out ยุติการแข่งขันของทีมไทยทั้งหมด แต่เมื่อลงความเห็นแล้วเรามาในนามประเทศชาติ จะทำให้ชาติเสียหายไม่ได้ โดยเฉพาะการได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติด้วยจึงส่งทีมเข้าร่วมแข่งขันต่อ แต่เรื่องนี้คงจะต้องทำเรื่องรายงานให้นายกสมาคมและผู้บริหารรับทราบ และได้คุยกับประธานจัดการแข่งขันใหม่เพื่อขอความเป็นธรรม หากนักกีฬาไทยลงแข่งขันเวียดนามก็ขอชาติเป็นกลาง หรือไม่ก็ต้องให้กรรมการร่วมตัดสินด้วย 1 คน
สำหรับผลการแข่งขันคู่อื่นๆ มีดังนี้ พิมพิราช ต้นเขียว รุ่น 80-85 กก. ชนะ อับดุล ราชิค จากสิงคโปร์ 4-1, วรัชญ์ บัวลม รุ่น 75-80 กก. ชนะ เหยา ไฮ หลง จากจีน 5-0, กูอิบรอเฮม กูบาฮา รุ่น 70-75 กก. ชนะ บรากิมอฟ มาซัท จากคาซัคสถาน 3-2 คะแนน, รุ่นทีมหญิง มาริญา สะและโส รุ่น 50-55 กก.แพ้ ทรัม ธิ เทียม จากเวียดนาม 5-0 และ นุชจรี คงเพชร รุ่น 65-70 กก. แพ้ ซิติ รามัน โมฮัมเม็ด นาสเซอร์ จากมาเลเซีย 0-5