เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ภายในห้องแถลงข่าวสโมสรเอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ได้มีงานแถลงข่าวเปิดตัว “เจ้าเก่ง” อดิศร พรหมรักษ์ กองหลังดีกรีทีมชาติไทย วัย 22 ปี ที่เข้ามาเติมความแข็งแกร่งให้กับกิเลนผยอง ในเลกสอง โดยมีนายพงษ์ศักดิ์ ผลอนันต์ ประธานสโมสร, นายวิลักษณ์ โหลทอง รองประธานสโมสร, “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน หัวหน้าผู้ฝึกสอนร่วมเป็นสักขีพยาน ท่ามกลางกองทัพสื่อมวลชนจำนวนมาก
นายพงษ์ศักดิ์ ผลอนันต์ ประธานสโมสรเอสซีจี เมืองทองฯ เผยว่า “เป็นอีกครั้งที่เราเดินหน้าคว้าตัวผู้เล่นระดับท็อป เพื่อเข้ามาเติมความแข็งแกร่งให้กับเอสซีจี เมืองทองฯ ตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้คือการคว้าแชมป์ทุกรายการในฤดูกาลนี้ ขอยินดีต้อนรับอดิศร พรหมรักษ์ สู่ครอบครัว กิเลนผยอง ซึ่งถือเป็นผู้เล่นดาวรุ่งที่มีฝีเท้ายอดเยี่ยมอนาคตไกลที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วทั้งในระดับทีมชาติ รวมถึงสโมสร ซึ่งเรามองเห็นถึงศักยภาพที่จะเข้าเติมเต็มแนวรับให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น แน่นอนว่าเขาจะเป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญที่พร้อมพาทีมไล่ล่าความสำเร็จทุกถ้วยกลับมาสู่สโมสรของเรา และอดิศรคือนักเตะคนสุดท้ายของทีมในเลกสอง
ขณะที่ “โค้ชแบน” กล่าวว่า “อดิศรเป็นนักเตะที่ตอบโจทย์เรา น่าจะเข้ามาช่วยเติมเต็มให้กับทีมได้อย่างดี ส่วนเรื่องของการลงสนามของเจ้าตัวนั้น ไม่ใช่สิ่งที่ต้องมากดดันกับโค้ช นักเตะต้องพยายามแสดงความสามารถออกมาให้เห็น และคงไม่ส่งผลกับทีมชาติหากเขาไม่ได้ลงสนาม”
ด้านอดิศร พรหมรักษ์ กองหลังป้ายแดง กล่าวว่า “สิ่งแรกต้องขอบคุณทางผู้บริหาร รวมถึงทีมงานที่เชื่อมั่นในความสามารถของผม การย้ายมาร่วมทีมใหญ่อย่างเอสซีจี เมืองทองฯ เป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม เพราะได้ลงเล่นเคียงข้างผู้เล่นที่มีฝีเท้าดีๆ มากมาย ทำให้มีโอกาสพัฒนาขึ้นไปอีก รวมถึงได้ร่วมงานกับพี่แบนที่เป็นโค้ชที่มากด้วยฝีมือ ถือเป็นความท้าทายครั้งใหม่ของผม ส่วนเป้าหมายของตัวเองก็ขอทำหน้าที่ให้ดีที่สุดอย่างเต็มร้อย ทั้งในช่วงฝึกซ้อมและแข่งขันจริง เพื่อนำแชมป์มาสู่สโมสรใหม่แห่งนี้ให้ได้”
“รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้มาอยู่กับเมืองทองฯ ผมขอขอบคุณไบรอัน และสโมสรบีอีซี เทโรศาสน หากไม่มีบีอีซี เทโรศาสน ก็จะไม่มีคนชื่ออดิศร พรหมรักษ์” เจ้าของเสื้อหมายเลข 25 กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
รายงานข่าวแจ้งว่า อดิศร พรหมรักษ์ เซ็นสัญญาค้าแข้งกับเอสซีจี เมืองทองฯ เป็นเวลา 3 ปีครึ่ง
สำหรับอดิศร พรหมรักษ์ เกิดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2536 ที่ จ.สงขลา ปัจจุบันอายุ 22 ปี ซึ่งถือเป็นผู้เล่นกำลังสำคัญของทีมชาติไทยชุดใหญ่ และนับเป็นผู้เล่นระดับท็อปคนที่ 3 ต่อจากธีราทร บุญมาทัน, ซูมาโฮโร่ ยาย่า ที่เข้ามาร่วมทัพกิเลนผยองในเลกสอง
