ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2016” เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน เข้าสู่การแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้าย วันที่ 2 โดยมีการแข่งขันทั้งหมด 3 คู่ คู่สุดท้ายของวันเป็นการแข่งขันระหว่าง “เดอะแม็กย่าร์” ฮังการี พบกับ “ปีศาจแดงแห่งยุโรป” เบลเยียม ที่ สต๊าด เดอ ตูลูส เมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศส
เดอะ แม็กย่าร์ พลิกความคาดหมายด้วยการเข้ามาเป็นที่ 1 ของกลุ่มเอฟ จากผลงานชนะ 1 เสมอ 2 ขณะที่เบลเยียมนั้นเป็นรองแชมป์กลุ่มอี ที่เก็บชัยชนะได้ถึง 2 จาก 3 เกม โดยแพ้ให้กับอิตาลี ทีมเดียวเท่านั้น ขณะที่ทั้งสองทีมนี้เคยเจอกันมา 13 ครั้ง โดยเป็นเบลเยียมที่ชนะได้มากกว่าถึง 8 ครั้ง เสมอกัน 2 ครั้ง และฮังการีชนะ 3 ครั้ง
เกมนี้ มาร์ค วิลม็อตส์ กุนซือเบลเยียม จัดทัพใหญ่ลงสนาม ในระบบ 4-2-1-3 นำโดย ธิโบต์ กูร์ตัวส์ เป็นผู้รักษาประตู คู่เซนเตอร์ใช้ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ กับ โธมัส แฟร์มาเลน แบ๊กซ้ายใช้ แยน แฟร์ตองเก้น ส่วนแบ๊กขวาเป็น โธมัส มูนิเย่ร์ มิดฟิลด์ตัวกลางให้ ราเดีย นาอิงโกลัน ทำงานร่วมกับ อักเซล วิตเซล มิดฟิลด์ตัวรุกเป็น เควิน เดอ บรอยน์ ฝั่งซ้ายใช้ เอเด็น อาซาร์ กัปตันทีม ขวาเป็น ดรีส เมอร์เทนส์ และให้ โรเมลู ลูกากู ดาวซัลโวของทีมเป็นกองหน้าตัวเป้า
ขณะที่ แบร์นด์ สตอร์ค เฮดโค้ชฮังการี มาในระบบ 4-4-1-1 นำทีมโดย กาบอร์ คีราย เป็นนายทวาร กองหลัง 4 คนประกอบด้วย แบ๊กขวา โทมัส คาดาร์ แบ๊กซ้าย อดัม แล็ง คู่เซนเตอร์ ริชาร์ด กุซมิชส์ กับ โรลันด์ ยูฮาสซ์ มิดฟิลด์คู่กลางใช้ โซลตัน เกร่า กับ อดัม นาเก้ ปีกซ้ายเป็น บาลาซส์ ชูชาก กัปตันทีม โดยมี เกอร์กู ลอฟเรนชิช เป็นปีกขวา อดัม พินเตอร์ เป็นมิดฟิลด์ตัวรุก และให้ อดัม ซาลาอี เป็นกองหน้าตัวเป้า
เบลเยียมเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า ได้โอกาสจากการยิงไกลของเดอ บรอยน์ แต่ยังตรงตัวคีราย
จนกระทั่งนาทีที่ 10 เบลเยียมก็ได้ประตูออกนำจากจังหวะฟรีคิกของเดอ บรอยน์ เปิดเข้าเขตโทษไปถึงอัลเดอร์ไวเรลด์ได้โหม่ง ให้ทีมขึ้นนำ 1-0
จากนั้นยังเป็นทางด้านเบลเยียมที่สามารถครองบอลได้บุกอย่างต่อเนื่อง จนนาทีที่ 34 เดอ บรอยน์ ได้โอกาสซัดฟรีคิก แต่คีราย พุ่งปัดชนคานไปได้
จบครึ่งแรกเบลเยียมนำฮังการี 1-0
ต้นครึ่งหลังฮังการีเปลี่ยนตัวแรกทันที ส่งอากอส เอเล็ก ลงมาแทนเกร่า แต่เปิดมาจังหวะแรกอาซาร์ได้โอกาสเลี้ยงตัดเข้ากรอบเขตโทษมาส่อง แต่คีรายยังปัดข้ามคานไปได้
ต้นครึ่งหลังฮังการีเปลี่ยนตัวแรกทันที ส่งอากอส เอเล็ก ลงมาแทนเกร่า แต่เปิดมาจังหวะแรกอาซาร์ได้โอกาสเลี้ยงตัดเข้ากรอบเขตโทษมาส่อง แต่คีรายยังปัดข้ามคานไปได้
หลังจากนั้นเป็นฮังการีที่บุกหนัก แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมพอที่จะเปลี่ยนให้เป็นประตูได้
แต่แล้วก็เป็นทางด้านเบลเยียมที่ได้ประตูที่สอง ในนาทีที่ 78 จากจังหวะที่อาซาร์ เปิดจากด้านข้างให้มิชชี่ บัตชัวยี่ กองหน้าตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ชาร์ตจ่อๆ ไม่พลาดให้ทีมหนีห่างเป็น 2-0
ถัดมา 2 นาที เป็นอาซาร์ ที่สวนกลับมาก่อนลากตัดผ่านกองหลังฮังการี แล้วซัดจากนอกกรอบเข้าไปให้ทีมห่างเป็น 3-0
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เบลเยียมสวนกลับแล้วมาได้ประตูที่ 4 จากจังหวะที่ยานนิค แฟร์ไรร่า การ์ราสโก้ หลุดไปยิงให้ทีมหนีห่าง 4-0 เป็นสกอร์ที่ขาดที่สุดในฟุตบอลยูโรครั้งนี้
จบเกมเบลเยียมชนะฮังการี 4-0 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปพบกับเวลส์ ในวันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม
