‘คิเอลลินี่-เปลเล่’ซัดพาทัพ’อัซซูรี่’ล้างแค้น’กระทิงดุ’2-0ทะยาน8ทีมชน’อินทรีเหล็ก’

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2016” ที่ประเทศฝรั่งเศส เมื่อช่วงดึกวันที่ 28 มิถุนายน เป็นการฟาดแข้งในรอบ 16 ทีมสุดท้าย คู่แรกเป็นการโคจรเป็นพบกันระหว่าง “กระทิงดุ” สเปน เจ้าของแชมป์ 3 สมัย และแชมเก่า 2 สมัยล่าสุด พบ “อัซซูรี่” อิตาลี อดีตแชมป์เมื่อปี 1968 และรองแชมป์เก่า ที่สต๊าด เดอ ฟร้องซ์ กรุงปารีส โดยคู่นี้ถือเป็นการรีแมตช์คู่ชิงชนะเลิศจากศึกยูโร 2012 เมื่อ 4 ปีก่อน ซึ่งครั้งก่อนนั้นสเปนถล่มชนะอิตาลี 4-0 พร้อมครองเจ้ายุโรปสมัยที่ 3

สถิติที่สเปนเคยพบกับอิตาลีก่อนหน้านี้ 34 นัด ปรากฏว่า สเปน ชนะ 10 นัด แพ้ 10 นัด และเสมอกัน 14 นัด ซึ่งสเปนยิงประตูได้ 36 ประตู และเสียประตูถึง 40 ประตู โดยนัดล่าสุดที่พบกันเป็นเกมอุ่นเครื่อง เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ปี 2016 ซึ่งอิตาลี เปิดบ้านเสมอ สเปน 1-1 แต่ในศึกยูโร 2012 สเปนกับอิตาลีพบกัน 2 นัดคือ รอบแรกเสมอกัน 1-1 ก่อนทะลุเข้าไปเจอกันอีกครั้งในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งสเปนชนะ อิตาลี 4-0 โดยได้ประตูจากดาบิด ซิลวา นาทีที่ 14, ฆอร์ดี้ อัลบา นาทีที่ 41, เฟร์นานโด ตอร์เรส นาทีที่ 84 และมาต้า นาทีที่ 88

FBL-EURO-2016-MATCH43-ITA-ESP

FBL-EURO-2016-MATCH43-ITA-ESP

Advertisement

เกมนี้ บีเซนเต้ เดล บอสเก้ กุนซือเฒ่าวัย 65 ปีของทีมสเปนจัดทัพชุดใหญ่ลงสนามในระบบการเล่น 4-3-3 โดย 11 นักเตะตัวจริง ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู ดาบิด เด เคอา / กองหลัง ฆวนฟราน, เคราร์ด ปิเก้, เซร์คิโอ รามอส (กัปตันทีม), ฆอร์ดี้ อัลบา / กองกลาง เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, เชสก์ ฟาเบรกาส, อันเดรส อิเนียสต้า / แนวรุก ดาบิด ซิลบา, โนลิโต้ และอัลบาโร่ โมราต้า ยืนศูนย์หน้าตัวเป้า

ขณะที่ อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือหนุ่มวัย 46 ปีของทีมอิตาลีวางแผนการเล่นในระบบ 3-5-2 โดย 11 นักเตะตัวจริง ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู จานลุยจิ บุฟฟ่อน (กัปตันทีม) / กองหลัง อันเดรีย บาร์ซาญี่, เลโอนาร์โด โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่ / กองกลาง อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่, ดานิเอเล่ เด รอสซี่, มัตเตีย เด ชีโญ่, มาร์โก้ ปาโรโล่, เอมานูเอเล่ จัคเครินี่ / กองหน้า เอแดร์ จับคู่กับกราเซียโน่ เปลเล่

FBL-EURO-2016-MATCH43-ITA-ESP

Advertisement

เกมครึ่งแรกทั้งสองทีมต้องเล่นกันท่ามกลางสายฝนโปรยปรายมาอย่างหนัก โดยเริ่มได้เพียงนาทีเดียวอิตาลีเปิดฉากบุกใส่ทันทีทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนบอลไปถึงกราเซียโน่ เปลเล่ โหม่งบอลย้อยๆ ไปเข้ามือดาบิด เด เคอา นายทวารทีมสเปน

นาทีที่ 8 อิตาลีเกือบได้ประตูขึ้นนำจากลูกฟรีคิกทางฝั่งซ้าย อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่โยนบอลเข้าไปในเขตโทษให้กราเซียโน่ เปลเล่ลอยตัวโขกเน้นๆ แต่ดาบิด เด เคอา พุ่งปัดเอาไว้ได้

FBL-EURO-2016-MATCH43-ITA-ESP

นาทีที่ 10 อิตาลีครองบอลโหมบุกหนักและได้ลุ้นประตูอีกครั้งจากจังหวะที่เอมานูเอเล่ จัคเครินี่ ลอยตัวจักรยานอากาศไปติดเซฟดาบิด เด เคอา แต่ผูู้ตัดสินเป่าให้เป็นจังหวะฟาวล์ยกเท้าสูงไปก่อนด้วย

เข้าสู่นาทีที่ 20 สเปนเริ่มครองบอลตั้งเกมบุกขึ้นมาตอบโต้ โนลิโต้ผ่านบอลเข้ากลางให้เชสก์ ฟาเบรกาสได้โอกาสซัดบอลไปติดบล็อกแนวรับอิตาลี

นาทีที่ 25 อิตาลีอาศัยจังหวะสวนกลับเร็วบุกขึ้นมาได้ลุ้นประตูเอมานูเอเล่ จัคเครินี่โยนบอลให้มาร์โก้ ปาโรโล่โหม่งบอลหลุดกรอบออกไป

นาทีที่ 33 ทัพอัซซูรี่พังประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะลูกฟรีคิกของเอแดร์ตะบันเต็มข้อไป แต่ดาบิด เด เคอา รับบอลกระชอกออกมาเข้าทางเอมานูเอเล่ จัคเครินี่พุ่งชาร์จบอลไปติดขาเดเคอาอีกครั้ง ก่อนบอลไปเข้าเท้าจอร์โจ้ คิเอลลินี่ตามซ้ำดาบสุดท้ายตุงตาข่าย

FBL-EURO-2016-MATCH43-ITA-ESP

FBL-EURO-2016-MATCH43-ITA-ESP

นาทีที่ 45 อิตาลีชวดโอกาสขยับสกอร์หนีห่างออกไปจากฝีเท้าของเอมานูเอเล่ จัคเครินี่ลากบอลตัดเข้ากลางแล้วซัดด้วยเท้าขวาเต็มข้อ แต่ดาบิด เด เคดา บินพุ่งเซฟเอาไว้ได้ทัน

จบครึ่งแรกอิตาลีขึ้นนำสเปน 1-0

ครึ่งหลังสเปนปรับแก้เกมรุกด้วยการส่งอาริตซ์ อาดูริซ ศูนย์หน้าตัวเก๋าลงสนามมาแทนโนลิโต้

นาทีที่ 49 สเปนครองบอลทำเกมบุกขึ้นมาได้มากขึ้น เชสก์ ฟาเบรกาสบรรจงวางบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษให้อัลบาโร่ โมราต้าโขกเน้นๆ ไปเข้ามือจานลุยจิ บุฟฟ่อน

นาทีที่ 55 อิตาลีทิ้งโอกาสได้ประตูหนีห่างจากเอแดร์ใช้ความคล่องตัวกระชากบอลหนีเคราร์ด ปิเก้แล้วยิงไปติดเซฟดาบิด เด เคอา

นาทีที่ 70 ทัพกระทิงดุขึงเกมรุกบุกด้วยการต่อบอลเท้าต่อเท้าจนได้ลุ้นประตูจากจังหวะที่ฆอร์ดี้ อัลบาแทงบอลให้อันเดรส อิเนียสต้าปล่อยบอลต่อให้อาริตซ์ อาดูริซปั่นด้วยเท้าซ้ายหลุดกรอบออกไป

นาทีที่ 74 ลูคัส บาซเกซ แข้งตัวสำรองของสเปนได้โอกาสหลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษไปยิงบอลชนเสา แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงให้เป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน

นาทีที่ 75 จานลุยจิ บุฟฟ่อน นายด่านอิตาลีต้องออกแรงเซฟติดกันถึง 2 ครั้งในจังหวะสับไกยองของอันเดรส อิเนียสต้า และเคราร์ด ปิเก้

จากนั้นสเปนครองบอลขึงเกมบุกหนักหวังทวงประตูคืน แต่อิตาลีอาศัยเกมสวนกลับยิงประตูที่ 2 ในช่วงทดเจ็บจากเปลเล่ซัดเต็มข้อตอกฝาโลงให้อิตาลีล้างแค้นเอาชนะสเปน 2-0 พร้อมทะยานผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายไปพบ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี อดีตแชมป์ 3 สมัย คืนวันที่ 2 กรกฎาคม ตามเวลาประเทศไทย 02.00 น.

FBL-EURO-2016-MATCH43-ITA-ESP

FBL-EURO-2016-MATCH43-ITA-ESP

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image