‘อินทรี’ดวลซัดเด้นเดธชนะ’อัซซูรี่’6-5 ล้างอาถรรพ์ทะลุเข้าตัดเชือก

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2016” ที่ประเทศฝรั่งเศส วันที่ 2 กรกฎาคม เป็นการแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ระหว่าง “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี พบ “อัซซูรี่” อิตาลี ที่สต๊าด เดอ บอร์โดซ์ เมืองบอร์โดซ์

ทั้งสองทีมเป็นทีมที่ครองแชมป์โลกรวมกันได้ถึง 8 สมัย แต่ในเวทียุโรปนั้นเป็นอินทรีเหล็กที่ทำได้ถึง 3 สมัย ในขณะที่อัซซูรี่นั้นได้เพียงสมัยเดียว โดยทั้งคู่เจอกันมาทั้งหมด 33 ครั้ง เป็นอิตาลีที่ชนะ 15 ครั้ง เสมอ 10 ครั้ง และเป็นเยอรมนีที่ชนะได้ 8 ครั้ง

ทว่าสำหรับสถิติในการแข่งขันที่เป็นทางการอย่างฟุตบอลโลก หรือฟุตบอลยูโรรอบสุดท้าย ทั้งสองทีมเจอกันมา 8 ครั้ง และเป็นอิตาลีที่ยังไม่เคยพ่ายให้กับเยอรมนีแม้แต่ครั้งเดียว

เกมนี้ อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือใหญ่ของอิตาลี ต้องปรับทัพเล็กน้อยเมื่อขาดดานิเอเล่ เด รอสซี่ กองกลางตัวรับคนสำคัญ แต่ยังคงยึดในระบบ 3-5-2 นำโดยกัปตันทีม จานลุยจิ บุฟฟ่อน เป็นผู้รักษาประตู แนวรับ 3 คน ประกอบด้วยจอร์โจ้ คิเอลลินี่, อันเดรีย บาร์ซาญี่ และเลโอนาร์โด โบนุชชี่ วิงแบ๊กซ้าย มัตเตีย เด ชีโญ่ วิงแบ๊กขวา อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ กองกลางให้ มาร์โก้ ปาโรโล่ เล่นมิดฟิลด์ตัวรับ และให้สเตฟาโน่ สตูราโร่ ที่ลงมาเล่นแทนเด รอสซี่ จับคู่กับ เอมานูเอเล่ จัคเครินี่ โดยที่คู่กองหน้ายังใช้ เอแดร์ จับคู่กับกราเซียโน่ เปลเล่

Advertisement

ด้าน โยอาคิม เลิฟ บุนเดสเทรนเนอร์ มีการเปลี่ยนระบบการเล่น หันมาใช้ 3-5-2 ลงสู้กับอิตาลี นำทีมโดย มานูเอล นอยเออร์ ที่ยังคงสวมปลอกแขนกัปตันทีมเช่นเดิม กองหลัง 3 คน ประกอบด้วย เบเนดิกต์ โฮเวเดส, เจอโรม บัวเต็ง และ มัตส์ ฮุมเมลส์ ส่วนวิงแบ๊กซ้ายเป็น โยนาส เฮคเตอร์ วิงแบ๊กขวาใช้ดาวรุ่งอย่าง โจชัว คิมมิค มิดฟิลด์คู่กลางเป็น ซามี เคดิร่า ประสานงานกับโทนี่ โครส และให้เมซุต โอซิล ยืนทำเกมอยู่เบื้องหลังคู่กองหน้าอย่างมาริโอ โกเมซ กับ โธมัส มุลเลอร์

เริ่มเกมมาเป็นอิตาลีที่บีบพื้นที่สูงทำให้เยอรมนีไม่สามารถตั้งเกมได้ และเล่นเพียง 13 นาที อินทรีเหล็กก็ต้องเจอปัญหาทันที เพราะเคดิร่า ได้รับบาดเจ็บบริเวณโคนขาหนีบ ทำให้ต้องเปลี่ยนตัวทันที โดยส่งบาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กัปตันทีมตัวจริง ลงสนามมาแทน

FBL-EURO-2016-MATCH47-GER-ITA

Advertisement

เกมผ่านไป 15 นาที เริ่มเป็นเยอรมนีที่ครองเกมเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด กลับเป็นฝ่ายที่บีบคู่แข่งตั้งแต่หน้าประตูบ้าง แต่ก็ยังไม่สามารถเจาะบอลเข้าพื้นที่สุดท้ายได้

ท้ายครึ่งแรกเป็นเยอรมนีที่น่าจะได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่เฮคเตอร์ จ่ายให้โครสส่องจากนอกกรอบแต่ยิงไม่ดี บอลไปเข้าทางมุลเลอร์ได้ยิง แต่ก็เบาเกินไปเข้ามือของบุฟฟ่อน

FBL-EURO-2016-MATCH47-GER-ITA

จังหวะต่อเนื่องเป็นอิตาลีที่มีโอกาสบ้าง จากจังหวะที่โบนุชชี่ วางบอลยาวให้จัคเครินี่ หลุดไปเปิดกลับมาถึงสตูราโร่ ยิงแต่แฉลบกองหลังเยอรมนีออกไป

จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0

เริ่มครึ่งหลังต่างฝ่ายเริ่มเปิดเกมบุกใส่กันบ้าง นาทีที่ 54 อินทรีเหล็กได้โอกาสจากการยิงของมุลเลอร์ แต่ว่าฟลอเรนซี่พุ่งมาสกัดออกไปได้

จนกระทั่งนาทีที่ 65 เป็นเยอรมนีที่ขึ้นนำก่อน จากจังหวะที่เฮคเตอร์เปิดจากทางด้านซ้าย โอซิลพุ่งเข้ามาชาร์จจ่อๆ ไม่พลาดให้ทีมออกนำ 1-0

FBL-EURO-2016-MATCH47-GER-ITA

ถัดมา 10 นาที เป็นอิตาลีได้จุดโทษจากจังหวะที่บัวเต็งทำแฮนด์บอล โบนุลชี่รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ให้ทีมตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จ

FBL-EURO-2016-MATCH47-GER-ITA

ช่วงเวลาที่เหลือทำอะไรกันไม่ได้ จบ 90 นาทีเสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป

ในช่วงต่อเวลาพิเศษทั้งสองทีมก็ยังไม่สามารถทำประตูกันได้ ทำให้ต้องตัดสินที่การดวลจุดโทษ

ผลการดวลจุดโทษ 5 คนแรกยังเสมอกันอยู่ 2-2 ต้องดวลซัดเด้นเดธ ต่างฝ่ายต่างไม่พลาดจนถึงคนที่ 9 มัตเตโอ ดาร์เมียน ของอิตาลีพลาด แล้วเป็น โยนาส เฮคเตอร์ ซัดไม่พลาดให้เยอรมนีเอาชนะไปได้ 6-5 ล้างอาถรรพ์สามารถเอาชนะอิตาลีได้เป็นครั้งแรก ในการเล่นทัวร์นาเมนต์ทางการ

FBL-EURO-2016-MATCH47-GER-ITA

FBL-EURO-2016-MATCH47-GER-ITA

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image