ภายหลังจากที่การแข่งขันเทนนิสหญิง ดับเบิลยูทีเอ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ ทัวร์นาเมนท์ “จีเอสบี ไทยแลนด์ โอเพ่น 2020 พรีเซนเต็ด บาย อีเอ” ชิงเงินรางวัลรวม 275,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8.8 ล้านบาท ที่ จีเอสบี เซ็นเตอร์ คอร์ต ใน ทรู อารีน่า หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ผ่านการชิงชัยไปเมื่อวันที่ 8-16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยปรากฏว่า ประเภทหญิงเดี่ยว แม็กด้า ลิเน็ตต์ สาวโปแลนด์ วัย 28 ปี มือวางอันดับ 5 และมือ 42 โลก คว้าแชมป์ไปครองหลังหวดชนะ เลโอนี คุง ดาวรุ่งชาวสวิสวัย 19 ปี มือ 283 โลก 2-0 เซต 6-3, 6-2 ขณะที่ประเภทหญิงคู่ เอรีน่า โรดิโอโนว่า และสตอร์ม แซนเดอร์ส โชว์ฟอร์มสมราคาคู่มือวางอันดับ 4 จากออสเตรเลีย คว้าแชมป์หลังเอาชนะ บาร์บาร่า ฮาส จากออสเตรีย และเอลเล็น เปเรซ จากออสเตรเลีย 2-0 เซต 6-3, 6-3
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษาการจัดการแข่งขันฯ เปิดเผยว่า ถือเป็นความสำเร็จของเทนนิส “จีเอสบี ไทยแลนด์ โอเพ่น 2020 พรีเซนเต็ด บาย อีเอ” ที่จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 ซึ่งมีผู้ชมมาชมการแข่งขันเพิ่มขึ้น และมีการจัดการแข่งขันที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยก็ตั้งใจที่จะจัดการแข่งขันต่อไป เพราะไทยแลนด์ โอเพ่น ถือเป็นเทนนิสรายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาเซียน รวมทั้งการแข่งขันปีนี้ก็ได้ช่วยสร้างคลื่นลูกใหม่ในวงการเทนนิสโลกตามวัตถุประสงค์ และเราก็อยากให้มีนักเทนนิสรุ่นใหม่ก้าวขึ้นมาสู่เวทีระดับโลก อย่างเช่น เลโอนี คุง วัยเพียง 19 ปี ที่สามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงรายการนี้ได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ของวงการเทนนิส ส่วนแชมป์ตกเป็นของ แม็กด้า ลิเน็ตต์ จากโปแลนด์
ประธานที่ปรึกษาการจัดการแข่งขันฯ กล่าวว่า ขออวยพรให้ เลโอนี คุง ก้าวขึ้นมาเป็นนักเทนนิสมือท็อป 20 ของโลกในอนาคต ซึ่งต้องจับตาดูนักหวดรายนี้ให้ดี เพราะจะเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ของวงการเทนนิสโลก นอกจากนี้ ทางสมาคมนักเทนนิสอาชีพหญิง (ดับเบิลยูทีเอ) ได้ชื่นชมในภาพรวมของการจัดการแข่งขันไทยแลนด์ โอเพ่น ปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไทยเราได้จัดขึ้นท่ามกลางวิกฤตเรื่องไวรัสโคโรนา (ไวรัสโควิด-19) ซึ่งกีฬาทุกอย่างต่างยกเลิกการแข่งขันหมด แต่ยกเว้นเทนนิสไทยแลนด์ โอเพ่น 2020 รายการนี้ ซึ่งตรงนี้ถือเป็นการแสดงให้เห็นมาตรฐานการจัดกีฬาใหญ่ระดับโลกของประเทศไทย และเป็นเครื่องมือด้านกีฬาอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยปลอดภัย มีความน่ารัก และสามารถเดินทางมาท่องเที่ยวได้ ทั้งนี้ต้องขอบคุณทุกส่วนที่ทำให้การแข่งขันในปีนี้ประสบความสำเร็จ
“แต่ส่วนตัวผมก็ยังเสียดายนะครับที่นักเทนนิสไทยยังเข้ารอบไม่ลึกในรายการไทยแลนด์ โอเพ่น ในปีนี้ได้ ซึ่งมีนักกีฬาไทยผ่านเข้าถึงเพียงแค่รอบสองเท่านั้น แต่หวังว่าในปีหน้าเราจะมีนักเทนนิสใหม่ๆ ก้าวขึ้นมาเป็นขวัญใจให้กับพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่าน โดยคงต้องติดตามชมการแข่งขันเทนนิสไทยแลนด์ โอเพ่น ในปีหน้า ซึ่งเป็นปีที่ 3 แล้ว โดนทางฝ่ายจัดการแข่งขันเราก็มุ่งมั่นตั้งใจที่จะจัดการแข่งขันให้ดีที่สุด เพื่อมอบความสุขในวงการกีฬาให้กับพี่น้องประชาชนชาวไทยครับ” นายสุวัจน์ กล่าวปิดท้าย