นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดเผยว่า หลังจากที่ทีมได้ออกไปอุ่นเครื่องในประเทศลาวและกัมพูชาในรายการ “ช้าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอเชี่ยนทัวร์ 2016” ทำให้เห็นว่านักเตะในภูมิภาคอาเซียนด้วยกันมีฝีเท้าที่ดีและยังต้องการโอกาสในการมาเล่นในไทยพรีเมียร์ลีกในอนาคต เพื่อจะได้มีการพัฒนาร่วมกันไปทั้งภูมิภาค ดังนั้นจึงมีแนวคิดว่าไม่ควรนับนักเตะในชาติอาเซียนเป็นโควต้านักเตะเอเชีย ตามกฎ 3+1 (ต่างชาติ 3 คน เอเชีย 1 คน) เพราะตอนนี้มีการเปิดประชาคมอาเซียน (เออีซี) แล้ว จึงน่าจะให้นักเตะอาเซียนไม่นับเป็นแข้งนอก ถ้ามีโอกาสจะเสนอให้บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด ไม่รวมแข้งอาเซียนในโควต้าเอเชียใน 5 ปีข้างหน้า เพราะจะได้มีนักเตะอาเซียนหมุนเวียนไปเล่นในลีกอื่นๆ ทั่วภูมิภาค และลีกจะได้มีความแข็งแกร่งไปด้วยกัน มีโอกาสจะพัฒนาไปสู่ระดับที่ดีขึ้น เอาชนะทีมมหาอำนาจเอเชียอย่างจีน, เกาหลีใต้, ญี่ปุ่น และตะวันออกกลางจะมีมากขึ้นไปด้วย
นายเนวินกล่าวต่อว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พร้อมเปิดรับแข้งเยาวชนทั่วอาเซียนมาอยู่ในอคาเดมี ซึ่งมองไปที่เด็กอายุระหว่าง 8-15 ปี แต่ต้องมีทั้งพรสวรรค์ พรแสวง และระเบียบวินัย เพราะทีมปราสาทสายฟ้าเน้นเรื่องระเบียบวินัยอย่างมากตั้งแต่ระบบอคาเดมีไปจนถึงชุดใหญ่ ในทุกปีจะมีการคัดนักเตะเข้าไปฝึกในอคาเดมี 50 คน ไม่ใช่เฉพาะเด็กไทยที่ฝีเท้าดี แต่นักเตะเยาวชนทั่วอาเซียนก็ดีเช่นกัน อยู่ที่ว่าจะผ่านมาตรฐานของบุรีรัมย์กี่คน
ประธานสโมสรปราสาทสายฟ้ากล่าวต่อว่า ทีมได้ยกเลิกสัญญากับดานิโล่ คิริโน่ กองหน้าบราซิเลียนที่เพิ่งดึงตัวมาเสริมทีมเมื่อไม่กี่วันที่แล้ว เพราะจากการลงอุ่นเครื่อง 2 นัดที่ผ่านมา เห็นได้ว่าสไตล์การเล่นไม่เข้ากับทีมทำให้ไม่อยากให้เสียเวลากันทั้งคู่ แต่ศักยภาพของดานิโล่สามารถเล่นในไทยพรีเมียร์ลีกและทำผลงานได้ดีแน่นอน ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะย้ายไปร่วมทีมไหน แต่ยืนยันว่าได้ยกเลิกสัญญาไปแล้ว
“เป้าหมายปีนี้ยังคงต้องรักษาแชมป์ในประเทศทั้งหมดให้ได้ และขยับมาตรฐานให้เข้าใกล้ทีมท็อป 5 ของเอเชียให้ได้ โดยดูจากสถิติในการลงเล่นต้องผ่านบอลกันในระดับเกมละ 600 ครั้ง นักเตะทุกคน ยกเว้นผู้รักษาประตูต้องเคลื่อนที่ 10 กม.ให้ได้ ถ้าทำแบบนี้ได้ ทีมในไทยลีกก็ยากที่จะต่อกร และจะน่าจะทำให้มาตรฐานสูสีกับทีมใหญ่ในเอเชียได้มากขึ้น” นายเนวินกล่าว