ปรีวิวฟุตบอลยูโร 2016 รอบรองชนะเลิศ เยอรมนี พบ ฝรั่งเศส คืนนี้

ดิมิทรี ปาเยต (ซ้าย) และเมซุต โอซิล เตรียมดวลกันในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า (ภาพ AFP)

ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2016” ที่ประเทศฝรั่งเศส วันที่ 7 กรกฎาคม รอบรองชนะเลิศคู่ที่ 2 “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี แชมป์สูงสุดร่วม 3 สมัย พบ “ตราไก่” ฝรั่งเศส เจ้าภาพ และแชมป์ 2 สมัย ที่สต๊าด เวโลโดรม เมืองมาร์เซย ตรงกับเวลาไทย 02.00 น. หรือกลางดึกคืนนี้

สภาพทีม เยอรมันอาจเป็นแชมป์มากสุดร่วมกับสเปนแชมป์เก่า และเคยเข้ารอบตัดเชือกรายการนี้สูงสุด 8 สมัย (มีเพียง 2 ครั้งที่รอบสุดท้ายมีแค่ 4 ทีม) แต่เกมนี้ โยอาคิม เลิฟ กุนซือของทีมมีปัญหานักเตะตัวหลักได้รับบาดเจ็บ และติดโทษแบนรวมกันถึง 3 คน

ไม่ว่าจะเป็นซามี เคดิร่า หนึ่งในห้องเครื่องตัวสำคัญที่คุมจังหวะเกมร่วมกับโทนี่ โครส ได้เป็นอย่างลงตัวกลับเจ็บโคนขาหนีบในเกมเฉือนชนะจุดโทษอิตาลีรอบก่อนหน้านี้ ลงเล่นเกมนี้ไม่ได้ เช่นเดียวกับมาริโอ โกเมซ ศูนย์หน้าที่เจ็บกล้ามเนื้อหลังต้นขาในเกมเดียวกัน หมดสิทธิช่วยทีมในช่วงที่เหลือของทัวร์นาเมนต์

อีกทั้งมัตส์ ฮุมเมลส์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟคนสำคัญยังติดโทษแบน 1 นัด แต่ยังดีที่ “ชไวนี่” บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กัปตันทีมซึ่งถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนเคดิร่าตั้งแต่ 16 นาทีแรกของแมตช์ที่แล้ว และมีอาการเจ็บเข่า น่าจะได้ผ่านความฟิตได้ทัน

Advertisement

ผิดกับเจ้าถิ่นที่นอกจากไม่มีนักเตะรับบาดเจ็บ และติดโทษแบนแล้ว ยังได้เอ็นโกโล่ ก็องเต้ กองกลางตัวตัดเกม และอาดิล รามี่ กองหลัง พ้นโทษแบน 1 นัดกลับมาอีกด้วย อย่างไรก็ตาม “เลกิ๊ป” สื่อดังประเทศตัวเองเชื่อว่าทั้งคู่มีโอกาสนั่งดูเพื่อนเล่นเหมือนเดิม เนื่องจากมุสซ่า ซิสโซโก้ และซามูเอล เอิงติตี้ ทำหน้าที่แทนในวันถล่มไอซ์แลนด์ 5-2 รอบ 8 ทีมได้อย่างสุดยอด

จึงมีสิทธิที่ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องป์ โค้ชตราไก่ที่เคยชูถ้วยแชมป์ยูโรสมัยเป็นกัปตันทีมชาติฝรั่งเศส 16 ปีก่อน จะยึดทั้ง 11 ตัวจริง และระบบการเล่น 4-2-3-1 จากเกมดังกล่าว

11 นักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
ฝรั่งเศส 4-2-3-1 : อูโก้ โยริส- บาการี่ ซาญ่า, โลร็องต์ กอสเซียลนี่, ซามูเอล เอิงติตี้, ปาทริซ เอวร่า- ปอล ป๊อกบา, เบลส มาตุยดี้- มุสซ่า ซิสโซโก้, อ็องตวน กรีซมันน์, ดิมิทรี ปาเยต- โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
เยอรมนี 4-2-3-1 : มานูเอล นอยเออร์- โจชัว คิมมิค, เจอโรม บัวเต็ง, เบเนดิกต์ โฮเวเดส, โยนาส เฮคเตอร์- บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, โทนี่ โครส- โธมัส มุลเลอร์, เมซุต โอซิล, จูเลียน ดรากซ์เลอร์- มาริโอ เกิตเซ่

Advertisement

สถิติพบกันทุกรายการ 27 ครั้ง แต่เป็นเกมอุ่นเครื่องถึง 23 ครั้ง สถิติรวมทีม “เมืองน้ำหอม” เหนือกว่าหลังชนะ 12 ส่วนเยอรมันชนะ 9 แต่หากนับเฉพาะรายการที่มีผลได้ผลเสียอย่างศึกฟุตบอลโลก และยูโร ทั้งคู่เคยเจอกันเฉพาะฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย และทีม “เมืองเบียร์” เสียท่าฝรั่งเศสครั้งเดียว 3-6 ในเกมที่แทบไม่มีความหมายกับการชิงอันดับ 3 ปี 1958 ที่เหลือเยอรมนีชนะจุดโทษ 5-4 ในรอบรองชนะเลิศปี 1982, ชนะ 2-0 รอบรองชนะเลิศปี 1986 และชนะ 1-0 รอบ 8 ทีมสุดท้ายปี 2014

แต่ฝรั่งเศสไม่เคยพลาดแชมป์ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ในถิ่นตัวเองนานกว่า 3 ทศวรรษ (32 ปี) หรือตั้งแต่เป็นเจ้าภาพยูโร 1984 และฟุตบอลโลก 1998 แม้ 2 ครั้งแรกที่ทีมตราไก่ได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 1938 และยูโรหนแรก 1960 จะไปได้แค่รอบ 8 ทีม และอันดับ 4 (รอบสุดท้ายมีเพียง 4 ทีม) ก็ตาม

โปรแกรมถ่ายทอดสดยูโร รอบรองชนะเลิศ วันที่ 7 กรกฎาคม เยอรมนี พบ ฝรั่งเศส เวลา 02.00 น. ช่อง 33 HD

สำหรับผู้ชนะคู่นี้จะเข้าไปพบโปรตุเกสในรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 10 กรกฎาคม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image