ศึกเทนนิสแกรนด์สแลม “วิมเบิลดัน” ที่ออลอิงแลนด์คลับ ประเทศอังกฤษ ได้คู่ชิงชนะเลิศประเภทชายเดี่ยวแล้ว โดยในการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ วันที่ 8 กรกฎาคม แอนดี้ เมอร์เรย์ มืออันดับ 2 ของโลกชาวสก๊อต อดีตแชมป์ปี 2013 เอาชนะโทมัส เบอร์ดิช มือวางอันดับ 10 จากสาธารณรัฐเช็ก 6-3, 6-3, 6-3 เข้าไปชิงชนะเลิศหนที่ 3 รายการนี้กับมิลอส ราโอนิช มือวางอันดับ 6 จากแคนาดา ซึ่งคว้าชัยเหนือโรเจอร์ เฟเดอเรอร์ มือ 3 ของโลก และอดีตแชมป์ 7 สมัยชาวสวิส 6-3, 6-7(3), 4-6, 7-5, 6-3 เข้ารอบชิงระดับแกรนด์สแลมเป็นครั้งแรก
เมอร์เรย์กล่าวว่า ดีใจที่ได้เข้าชิงวิมเบิลดันอีกครั้ง เพราะยิ่งอายุมากขึ้นก็ไม่รู้ว่าจะได้โอกาสเข้าชิงแกรนด์สแลมอีกเท่าไร อย่างไรก็ตาม ยังไม่ด่วนสรุปว่าจะการันตีตำแหน่งแชมป์แน่นอนแล้ว เพราะฤดูกาลนี้ราโอนิชเล่นคอร์ตหญ้าได้ดีมากๆ จะต้องเล่นให้ดีและไม่ประมาทเด็ดขาด
ด้านเฟเดอเรอร์วัย 34 ปี ยืนยันว่าจะกลับมาแข่งขันวิมเบิลดันอีกครั้งในปีหน้า แสดงให้เห็นว่ายังไม่มีความคิดที่จะแขวนแร็กเกตในเร็วๆ นี้แต่อย่างใด โดยเหตุที่แฟนๆ และสื่อกลัวว่า “เฟดเอ็กซ์” จะอำลาวงการสิ้นปีนี้ เพราะเขาโบกมือให้แฟนๆ เนิ่นนานอย่างยิ่งหลังจบเกมดังกล่าว
แต่เจ้าตัวยืนยันว่าแค่ต้องการกล่าวขอบคุณผู้ชมในเซ็นเตอร์คอร์ตเท่านั้น ไม่ได้คิดว่าจะลงเล่นที่นี่เป็นครั้งสุดท้ายเลย แน่นอนว่าตนฝันอยากจะคว้าแชมป์สมัยที่ 8 ให้ได้ แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้ตัดสินใจเล่นเทนนิส ต่อจากนี้ยังมีเป้าหมายอยู่ที่โอลิมปิกเกมส์ 2016 และยูเอส โอเพ่น โดยหวังว่าจะไม่มีปัญหาบาดเจ็บอะไรอีก อย่างน้อยเกมรอบก่อนรองชนะเลิศกับรอบรองชนะเลิศที่เล่นรวมกันถึง 10 เซต ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้มาก
