เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ที่ห้องประชุมรอดโพธิ์ทอง สนามกีฬาแห่งชาติ สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย จัดงาน “มีตเดอะเพรส” ประเมินความหวังของทัพนักกีฬาไทย ชุดเตรียมเข้าร่วมมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2016 ระหว่างวันที่ 5-21 สิงหาคม ที่นครรีโอ เดจาเนโร ประเทศบราซิล จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 4 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย โดยมี “บิ๊กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย และอีก 3 สมาคมกีฬา ได้แก่ เรือพาย, กอล์ฟ และเทควันโด
น.อ.วิวัฒน์ ขวัญสูงเนิน รองเลขาธิการสมาคมกีฬาเรือพายฯ กล่าวว่า เรือพายได้โควต้าไปโอลิมปิกเกมส์ 2 คน แน่นอนว่าการที่ไม่ได้มีการจำกัดรุ่น ทำให้ไทยเสียเปรียบนักกีฬาจากแถบยุโรป จึงตั้งความหวังไว้ที่ “แพท” พุทธรักษา นีกรี ที่แข่งโอลิมปิกเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ไว้ที่การเข้าไฟนอลบี ชิงอันดับ 7-12 ส่วน จารุวัฒน์ แสนสุข ขอเข้าไฟนอลซี ชิงอันดับ 13-18
ส่วนกอล์ฟ ที่จัดเป็นครั้งแรกในโอลิมปิกเกมส์ในรอบ 112 ปี มีชิง 2 เหรียญทอง นายกิตติศักดิ์ ชัยมงคลตระกูล เลขาธิการสมาคมกีฬากอล์ฟแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ไทยได้โควต้าในครั้งนี้ 4 คน ชาย 2 คน “โปรช้าง” ธงชัย ใจดี, โปรอาร์ม” กิรเดช อภิบาลรัตน์ และหญิง 2 คน “แหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ, “เม” เอรียา จุฑานุกาล โดยฝ่ายชายจะแข่งขัน ระหว่างวันที่ 11-14 สิงหาคม ฝ่ายหญิงแข่งระหว่างวันที่ 17-20 สิงหาคม ถือว่านักกีฬาทั้ง 4 คนมีโอกาสหยิบเหรียญ เนื่องจากที่ผ่านมาโชว์ฟอร์มในการเล่นอาชีพได้ดีทั้งหมด
ดร.สมคิด ปิ่นทอง เลขาธิการสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นักกีฬาทั้ง 3 คน ที่ได้สิทธิไปโอลิมปิกเกมส์ ได้แก่ พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ, เทวินทร์ หาญปราบ และพรรณนภา หาญสุจินต์ เป็นดาวรุ่งรุ่นใหม่ โดยเฉพาะพาณิภัค อันดับโลกปัจจุบันในรุ่น 49 กก.หญิง อยู่อันดับ 2 เป็นรองแค่ หวู จิน หยู แชมป์โอลิมปิกเกมส์ 2 สมัยจากจีนเท่านั้นจึงมีโอกาสคว้าเหรียญมาได้
ทั้งนี้หลังจากทุกสมาคมได้มายืนยันถึงความหวัง สรุปได้ว่าจากนักกีฬา 52 คน 16 สมาคมกีฬาที่ผ่านการคัดเลือกไปโอลิมปิกเกมส์ สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย มั่นใจว่าในโอลิมปิกเกมส์ 2016 ไทยจะคว้าเหรียญทองมาครองได้ โดยมี มวยสากล, ยกน้ำหนัก, แบดมินตัน, กอล์ฟ และเทควันโด อยู่ในข่ายที่จะประสบความสำเร็จ
“บิ๊กต้อม” นายธนา กล่าวว่า หลังจากโอลิมปิกเกมส์ครั้งที่แล้ว ไทยพลาดเหรียญทองไป ในครั้งนี้มีนักกีฬาผ่านการคัดเลือกมากขึ้น หลายกีฬามากขึ้น จึงทำให้มีโอกาสไม่น้อย ประกอบกับศักยภาพของทุกคนที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ทำให้เชื่อมั่นว่าไทยจะคว้าเหรียญทองกลับมาได้เช่นกัน ซึ่งนอกจากกีฬาเดิม อย่าง มวยสากล, ยกน้ำหนัก, เทควันโด แล้ว ยังมี แบดมินตัน, ยิงเป้าบิน และกอล์ฟ ที่เพิ่มเติมโอกาสลุ้นเหรียญเข้ามาด้วย ส่วนผู้ที่จะทำหน้าที่ถือธงไตรรงค์ ในพิธีเปิดวันที่ 5 สิงหาคมนี้ ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดสินใจ จะไปขอเลือกหลังเดินทางไปบราซิล ในวันที่ 21 กรกฎาคมไปแล้ว ซึ่งจะดูจากความเหมาะสมในโปรแกรมฝึกซ้อม และแข่งขัน รวมถึงจะปรึกษากับสมาคม ผู้ฝึกสอน ของแต่ละกีฬาอีกครั้ง
