ทีม “สิงห์บลู” เชลซี ที่ยังไม่แพ้ใคร 9 นัดติดตั้งแต่ปลดโจเซ่ มูรินโญ่ ออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม ผ่านเข้ารอบ 5 หรือรอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึก “เอฟเอคัพ อังกฤษ” ด้วยการบุกถล่มมิลตัน คีย์นส์ ดอนส์ อดีตทีมวิมเบิลดันเก่า 5-1 ในเกมรอบ 4 เมื่อวันที่ 31 มกราคม
เช่นเดียวกับ “ท็อฟฟีสีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ก็ออกไปเอาชนะคาร์ไลส์ ยูไนเต็ด ทีมในศึกลีกทู หรือลีกระดับดิวิชั่น 4 เมืองผู้ดี 3-0
จากนั้นได้มีการจับสลากประกบคู่รอบ 5 ปรากฏว่า เชลซีจะเปิดสแตมฟอร์ดบริดจ์ รับมือทีมใหญ่ด้วยกันอย่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ส่วน “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล แชมป์เก่าสูงสุด 12 สมัย ได้เล่นในบ้านพบฮัลล์ ซิตี้
“ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แชมป์อันดับ 2 ตลอดกาล 11 สมัย แต่ร้างความสำเร็จรายการนี้เกือบ 12 ปีเต็ม ต้องเยือนชรูว์สบิวรี่ ทาวน์ ทีมลีกวัน หรือดิวิชั่น 3
ไม่ต่างจากผู้ชนะระหว่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล และ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เดินทางไปเจอแบล็กเบิร์น โรเวอร์ส จากเดอะ แชมเปี้ยนชิพ หรือดิวิชั่น 2
ขณะที่เรดดิ้ง ซึ่งเป็นหนึ่งในสโมสรที่มีเจ้าของทีมเป็นกลุ่มนักลงทุนจากประเทศไทย เตรียมเปิดบ้านรับการมาเยือนของผู้ชนะระหว่างเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน และปีเตอร์โบโร่ห์ ยูไนเต็ด
โปรแกรมอีก 3 คู่ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ พบ คริสตัล พาเลซ, บอร์นมัธ พบ เอฟเวอร์ตัน และวัตฟอร์ด พบ ลีดส์ ยูไนเต็ด
โดยทั้งหมดจะแข่งกันในช่วงสุดสัปดาห์ที่ 20-21 กุมภาพันธ์