ซานโช่ ฉลองยิงประตูเพื่อ ‘จอร์จ ฟลอยด์’ – คนกีฬาผิวสีแห่เรียกร้องความยุติธรรม
เจดอน ซานโช่ ปีกอนาคตไกลของ “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ระบุว่าเขาไม่สามารถดีใจได้อย่างเต็มที่ แม้จะเพิ่งยิงแฮตทริกแรกในการเล่นฟุตบอลอาชีพก็ตาม หลังจากที่ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงยิงคนเดียว 3 ประตู ช่วยให้ดอร์ทมุนด์บุกไปถล่มพาเดอร์บอร์นขาดลอย 6-1 ในศึกบุนเดสลีก้า เยอรนี เมื่อคืนวนที่ 31 พฤษภาคม
ซานโช่ ส่งบอลซุกก้นตาข่ายได้ในนาทีที่ 57, 74 และ 90+2 ซึ่งทันทีที่ซานโช่ยิงประตูแรกของตัวเองได้นั้น เขาฉลองด้วยการถอดเสื้อแข่งออกและเผยให้เห็นเสื้อตัวในที่มีข้อความว่า “จัสติซ ฟอร์ จอร์จ ฟลอยด์” (Justice For George Floyd) และซานโช่ก็โดนใบเหลืองจากการถอดเสื้อฉลองประตูดังกล่าว
Jadon Sancho ✊🏻✊🏼✊🏽✊🏾✊🏿 #JusticeForGeorgeFloyd pic.twitter.com/lFqAVPcSDi
— Mika Buechner (@Meekaleeka) June 1, 2020
Advertisement
หลังจบเกมดังกล่าว ซานโช่โพสต์ข้อความในอินสตาแกรมส่วนตัวว่า “ถือเป็นฟอร์มอันแข็งแกร่งของทีม! ดีใจมากที่ยิงแฮตทริกแรกในการเล่นฟุตบอลอาชีพของตัวเอง แต่ส่วนตัวรู้สึกหวานอมขมกลืน เพราะมีตอนนี้มีเรื่องสำคัญกว่ากำลังเกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่เราควรจะพูดและช่วยกันเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงให้ได้ เราไม่ควรกลัวที่จะพูดในสิ่งที่ถูกต้อง เราต้องร่วมมือกันเป็นหนึ่งเดียว ต่อสู้เพื่อความยุติธรรม พวกเราจะแข็งแกร่งขึ้นแน่ถ้ารวมพลังกัน”
สำหรับข้อความ จัสติซ ฟอร์ จอร์จ ฟลอยด์ นั้นเป็นการเรียกรองความยุติธรรมให้กับจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีชาวสหรัฐ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาวชาวอเมริกันใช้เข่ากดที่คอนานกว่า 8 นาทีขณะเข้าคุมตัว หลังฟลอยด์โดนกล่าวหาว่าพยายามใช้แบงก์ปลอมในการซื้อสินค้า แม้ฟลอยด์จะบอกว่าหายใจไม่ออกแต่ตำรวจก็ไม่สนใจ จนฟลอยด์หมดสติและเสียชีวิต ซึ่งเหตุการณ์นี้ ส่งผลให้เกิดกระแสความไม่พอใจและวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง
นอกจากนี้ มาร์คัส ตูราม กองหน้าชาวฝรั่งเศสของโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ลูกชายของลิลิยอง ตูราม ตำนานแข้งเมืองน้ำหอม ฉลองการยิงประตูของตัวเองด้วยการ คุกเข่าชันขาพร้อมวางศอกเป็นเวลา 5 วินาที ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเป็นสัญลักษณ์เรีกยร้องความยุติธรรมให้ฟลอยด์เช่นกัน ซึ่งเขาก็ได้โพสต์ภาพดังกล่าวในทวิตเตอร์พร้อมข้อความว่า “การเป็นหนึ่งเดียวกันคือสิ่งที่จะทำให้เราก้าวไปข้างหน้า และการเป็นหนึ่งเดียวกันจะนำมาสู่ความเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน #BLACK_LIVES_MATTERS”
ขณะเดียวกัน เซเรน่า วิลเลียมส์ ยอดนักเทนนิสหญิงชาวอเมริกัน ดีกรีแชมป์แกรนด์สแลม 23 สมัย และอดีตเบอร์ 1 ของโลก ร่วมเรียกร้องความยุติธรรมให้กับคนผิวสีเช่นกัน โดยโพสต์อินสตาแกรมเป็นเด็กหญิงผิวสีที่ตั้งข้อสงสัยว่า ทำไมเธอถึงได้รับการปฏิบัติแตกต่างจากคนอื่นเพียงเพราะสีผิวด้วย ซึ่งเซเรน่ากล่าวว่ารู้สึกหน่วงใจสุดสุด มีคำพูดมากมายอัดอั้นอยู่ในใจจนยากจะกล่าวออกมาได้หมด
ด้าน นาโอมิ โอซากะ นักเทนนิสหญิงชาวญี่ปุ่นเชื้อสายเฮติ ดีกรีแชมป์แกรนด์สแลม 2 สมัย และอดีตมือ 1 ของโลก โพสต์ทวิตเตอร์ว่า ถ้าแค่เพราะมันไม่เคยเกิดขึ้นกับคุณ นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งนั้นไม่เคยเกิดขึ้น
โคโค่ กอฟฟ์ นักเทนนิสหญิงดาวรุ่งชาวอเมริกัน ยังกระตุ้นให้ผู้คนร่วมกันเรียกร้องความยุติธรรมให้ฟลอยด์ ซึ่งโคโค่ยังได้โพสต์ภาพคนอเมริกันผิวสีที่เสียชีวิตในรอบปีที่ผ่านมา พร้อมตั้งคำถามว่า เมื่อไหร่การคุกคามเช่นนี้จะหมดไปเสียที เมื่อไหร่พวกเราจะถูกมองอย่างเท่าเทียมในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง หลายชีวิตต้องจบลงเพราะการเหยียดเชื้อชาติ ทุกชีวิตเหล่านี้เหมือนดูไม่สำคัญ จนกว่าสังคมจะพิสูจน์ได้ว่าพวกเขาใส่ใจชีวิตคนผิวดำจริงๆ
ลูอิส แฮมิลตัน นักขับแชมป์โลกฟอร์มูล่าวัน 6 สมัย วิจารณ์คนผิวขาวในวงการรถสูตรหนึ่งที่นิ่งเฉยต่อเหตุการณ์ที่ไม่ยุติธรรมเช่นนี้ โดยบอกว่า ตัวเองเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เป็นคนผิวสีของวงการนี้ และยังโดดเดี่ยวเหมือนเคย ที่จริงพวกคุณน่าจะเห็นแล้วว่าทำไมเหตุการณ์รุนแรงเหล่านั้นเกิดขึ้น และน่าจะออกมาพูดอะไรสักหน่อย แต่พวกคุณก็ไม่ยอมก้าวมายืนเคียงข้างพวกเรา
วาเนสซ่า ไบรอันต์ ภรรยาของโคบี้ ไบรอันต์ อดีตยอดนักบาสเอ็นบีเอ พร้อมข้อความว่า ชีวิตนั้นเปราะบางและคาดเดาไม่ได้ เราควรยอมรับในความแตกต่างของทุกคน เลิกเกลียดชัง และมอบความเคารพและความรักให้กัน ขอให้สู้ร่วมกันเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ไม่ควรมีขออ้างใดๆ ในการปล้นชีวิตอันบริสุทธิ์นี้อีก
ไมเคิล จอร์แดน ตำนานนักบาสเกตบอลเอ็นบีเอสหรัฐ เปิดใจผ่านอินสตาแกรม ว่า ขอยืนหยัดร่วมกับทุกคนที่เรียกร้องการแก้ปัญหาเหยียดสีผิวและความรุนแรงที่ใช้กับคนผิวสี เราต้องพายามร่วมมือกันเพื่อให้เกิดความยุติธรรมสำหรับทุกคน โดยตนขอส่งใจไปยังครอบครัวของจอร์จ ฟลอยด์ และผู้คนอีกมากมายที่ต้องพบเจอกับความรุนแรง และถูกพรากชีวิตไปจากการเหยียดผิวและความอยุติธรรมเหล่านั้น
