คนมวยร่วมใจวางมาตรการต้านโควิด-19 ‘รองตูน’ คาดกลับมาแข่ง ก.ค.นี้
“รองตูน” นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นประธานในการประชุมหารือมาตรการแนวทางการจัดแข่งขันกีฬามวย ในสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา กกท. เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน โดยมีตัวแทนจากสนามมวย, โปรโมเตอร์, หัวหน้าค่าย, ผู้จัดการนักมวย, ผู้ฝึกสอน, นักมวย และผู้ตัดสิน เข้าร่วม
ที่ประชุมได้มีการหารือถึงมาตรการต่างๆ ในส่วนของสถานที่ (ค่ายมวย-สนามแข่งขัน) นอกเหนือจากมาตรการทั่วไปแล้วได้มีมาตรการเพิ่มเติม ได้แก่ การควบคุมจำนวนผู้อยู่ในพื้นที่แข่งขันมวยไม่เกิน 50 คน, มีฉากกั้นทั้ง 4 ด้าน สำหรับกรรมการให้คะแนน, จัดห้องพักนักมวยสำหรับเตรียมตัวก่อนแข่งขันไม่ต่ำกว่า 4 ห้อง, จัดเตรียมอุปกรณชกมวย และอุปกรณ์การแข่งขันแบบเฉพาะบุคคล (1 คน/นวม 1 คู่), จัดพื้นที่รอบสนามแข่งให้มีระยะห่างอย่างน้อย 2 เมตร, ทำความสะอาดทุกครั้งหลังจากจบการแข่งขันแต่ละคู่ และจำหน่ายเครื่องดื่ม-อาหาร นอกสนามเท่านั้น
ขณะที่ในส่วนของนักกีฬานั้น ได้มีการถกเถียงกันในมาตรการต่างๆ และมีการปรับเปลี่ยนหลายข้อจากที่คณะอนุกรรมการแพทย์ สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ได้วางกรอบเอาไว้ในตอนแรก ได้แก่ เรื่องของการกักตัวนักมวยก่อนแข่ง ได้มีการกำหนดไว้ที่ 21 วัน แต่ในที่ประชุมเสนอว่าเป็นระยะเวลาที่นานเกินไปสำหรับการเตรียมตัว จึงได้มีการเสนอให้กักตัวก่อนแข่งขัน 14 วัน, ส่วนประเด็นการลงนวมซ้อมนั้นสามารถทำได้ตามปกติ แต่ขอให้มีการหลีกเลี่ยงชกแบบปล้ำวงใน ทั้งในการแข่งขันและการฝึกซ้อม
นอกจากนี้ ในมาตรการยังมีเรื่องของการให้ผู้ฝึกสอน-พี่เลี้ยง งดการนวดกระตุ้นนักกีฬาระหว่างพักยก แต่คุยกันว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ดังนั้น จะให้เน้นว่า ช่วงระหว่างที่ทำการแข่งขัน คนที่ไม่ใช่นักกีฬาจะต้องสวมถุงมือ, หน้ากากอนามัยและเฟซชิลด์ตลอดเวลาอย่างเคร่งครัด
ขณะเดียวกันในเรื่องของผู้ชมการแข่งขัน ซึ่งในช่วงแรกจะเป็นการถ่ายทอดสด แต่ก็มีความกังวลว่าจะมีการรวมตัวกันดูนั้น ได้มีข้อกำหนดว่าสถานที่ใดถ้าจะมีการรวมตัวกันเกินกว่า 10 คน จะต้องทำระบบลงทะเบียนของไทยชนะ เอาไว้ด้วย
ขณะเดียวกัน “เสี่ยโบ๊ท” นายณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์ใหญ่ เพชรยินดี ได้ทวงถามถึงเรื่องของเงินเยียวยาคนวงการมวย ที่ปัจจุบันยังไม่ถึงมือนักมวย โดยทางรองผู้ว่าการ กกท. ได้ตอบด้วยตัวเองว่า เนื่องจากการจะนำเงินในส่วนดังกล่าวนั้นต้องผ่านขั้นตอนหลายตอน จึงยังไม่สามารถฟันธงวันที่ชัดเจนได้ว่าจะได้รับเมื่อไหร่ โดยจะมีการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ในวันที่ 11 มิถุนายน ก่อนที่จะเสนอเรื่องของบอร์ดบริหารของกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติต่อไป อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าจะทำให้เร็วที่สุด เพราะรู้ว่าทุกคนนั้นต้องการเงินจำนวนนี้
ภายหลังการประชุม นายณัฐวุฒิกล่าวว่า การประชุมในวันนี้คือการหารือในเรื่องของการแข่งขันแบบปิดจะต้องมีมาตรการใดบ้าง ที่จะต้องนำไปเสนอศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ซึ่งจะเป็นผู้อนุมัติผ่อนปรนมาตรการต่างๆ และจากการได้คุยกับคนวงการมวยวันนี้ก็ทำให้ได้ข้อสรุปที่คิดว่าน่าจะเป็นที่ยอมรับได้ทุกฝ่าย นอกจากนี้ ทาง ศบค.ก็มีสัญญาณที่ดีที่จะปลดล็อกกีฬาทุกประเภทในเดือนกรกฎาคมนี้ ดังนั้น สิ่งที่ทำคือการเตรียมมาตรการต่างๆ เอาไว้ เพื่อนำมาใช้งานจริงหลังจากได้รับผ่อนปรนแล้ว
ขณะที่ เสี่ยโบ๊ทกล่าวว่า จากการประชุมวันนี้ก็คิดว่าน่าจะได้รับข่าวดีในเฟสที่ 4 ของรัฐบาล สุดท้ายต้องขึ้นอยู่กับ ศบค.จะปลดล็อกกีฬามวยหรือไม่ แต่คิดว่าแผนที่ได้ทำกันเชื่อว่าทุกคนนั้นอยากจะกลับมาแข่งขันและพร้อมที่จะทำตามอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องของผู้ชมทางบ้านนั้นคงต้องให้เป็นเรื่องของกระทรวงมหาดไทย ที่จะควบคุมดูแล เพราะถึงอย่างไรก็ยังมี พ.ร.ก.ฉุกเฉินอยู่ ดังนั้น คนดูก็ต้องทำตามกฎเช่นกัน