“จากัวร์ส”เปิดรังเหย้าให้จับ”โปเกมอน”
“ฮอต” ที่สุดตอนนี้คงต้องยกให้ โปเกมอน โก เกมมือถือที่กลายเป็นกระแส “ฟีเวอร์” ทั้งในหมู่แฟนพันธุ์แท้และแฟนขาจรตามกระแส จนหมิ่นเหม่จะกลายเป็นความ “คลั่ง” เพราะบ่อยครั้งที่มีข่าวการรวมตัวเพื่อแข่งกันล่าโปเกมอนพันธุ์หายาก ไม่ก็ปีนรั้วบ้านคนอื่นเพื่อหวังจับตัวที่ยังไม่มี
บางทีก็เลยเถิดถึงขั้นเป็นเครื่องมือก่ออาชญากรรม ดักปล้นบ้าง ทำร้ายร่างกายบ้าง ถึงขั้นเอาชีวิตก็เริ่มมีแล้วด้วยซ้ำ!
กระแสการตามล่าโปเกมอนทำให้สถานที่สำคัญๆ หลายแห่งต้องขอร้องแกมบังคับว่าอย่าบุกรุกพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต บ้างก็เตือนว่าไล่จับน่ะได้ แต่ต้องระวังไม่ให้เกิดอันตรายต่อตัวเองและผู้อื่นด้วย เช่นตามสถานีรถไฟ หรือสี่แยกต่างๆ ซึ่งอาจมีคนซี้ซั้วตามเก็บโปเกมอนจนโดนรถชนเอาได้
ล่าสุด เพื่อตัดปัญหาเรื่องการควบคุมฝูงชน ทีม แจ๊คสันวิลล์ จากัวร์ส จึงหาทางออกด้วยการประกาศเปิดสนาม เอฟเวอร์แบงก์ ฟีลด์ ให้เป็นสถานที่จัด โปเกมอน ซาฟารี เชิญชวนเหล่า “เทรนเนอร์” และคนรักโปเกมอน มาไล่จับมอนสเตอร์หลายสายพันธุ์ที่สนามแบบเอ็กซ์คลูซีฟ 1 คืน ในคืนวันที่ 25 กรกฎาคม
งานนี้จากัวร์สจัดเต็มกิจกรรมพิเศษและด่านอุปสรรคมากมายให้บรรดาเทรนเนอร์ได้ร่วมผจญภัยจับโปเกมอนในสนามของพวกเขา โดย 1,000 คนแรกที่ผ่านด่านเหล่านี้ได้ จะได้รับตราสัญลักษณ์พิเศษไว้อวดชาวบ้านเขาอีกด้วย
นับเป็นแผนงานที่ได้รับเสียงชื่นชมไม่น้อย เพราะแทนที่จะมานั่งไล่จับไล่เตือนผู้บุกรุกให้วุ่นวาย สู้จัดงานใหญ่รอบเดียวให้จบๆ ไปดีกว่า
นอกจากจะจัดการง่ายแล้วยัง “ได้ใจ” แฟนๆ ไปอีกต่างหาก
******************
“เหยา หมิง”ย้อนเล่าประสบการณ์ไปมะกันใหม่ๆ
แม้จะห่างจากลีกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ มานานแล้ว แต่ เหยา หมิง ตำนานนักยัดห่วงร่างยักษ์ของประเทศจีน ก็ยังมีเรื่องเล่าจากความทรงจำสนุกๆ มาบอกกล่าวอยู่เสมอ
ล่าสุด อาเหยาเขียนเล่าเรื่องสมัยร่วมทีม ฮุสตัน ร็อคเกตส์ ใหม่ๆ เมื่อปี 2002 ว่า เนื่องด้วยชาวตะวันตกไม่คุ้นเคยกับวิธีเขียนชื่อของชาวจีนที่เอาแซ่นำหน้าชื่อจริง เพื่อนร่วมทีมส่วนใหญ่จึงนึกว่า “เหยา” เป็นชื่อตัวของเขา ไม่ใช่แซ่หรือนามสกุลอย่างที่ชาวตะวันออกเข้าใจกัน
หลังจากนั้นไม่นาน ผู้เล่นและสต๊าฟโค้ชร็อคเกตส์ทุกคนก็พร้อมใจกันเรียกเขาว่า “เหยา” และเนื่องจากเขายังเป็นเด็กใหม่ จึงไม่กล้าแก้ความผิดพลาดนั้น
และความที่ยังไม่คุ้นกับวัฒนธรรมตะวันตก รวมทั้งไลฟ์สไตล์ต่างๆ ตอนที่ สตีฟ ฟรานซิส หนึ่งในเพื่อนร่วมทีมชวนไปตีกอล์ฟการกุศลโดยชวนขึ้นรถ “ฮัมเมอร์” ของเขา อาเหยาถึงกับใบ้กิน และถามกลับแบบพาซื่อว่า “แฮมเมอร์ (ค้อน) เหรอ?” แต่ฟรานซิสก็ยังอารมณ์ดีแล้วบอกว่า “ไม่ใช่ พวกรถฮัมเมอร์น่ะ นั่นไง” ทำเอานักบาสชาวจีนถึงกับอึ้งและคิดในใจว่านั่นมันรถจี๊ปทหารไม่ใช่เรอะ!?!
พอขึ้นไปนั่งแล้วยิ่งงงเข้าไปใหญ่ โดยบรรยายว่า “ผมไม่เคยเห็นรถแบบนี้มาก่อนเลย ยกสูงจากพื้นถนน แต่ดันหลังคาต่ำ แถมที่นั่งก็คับแคบ ผมแทบจะยัดตัวเองเข้าไปไม่ได้ งงจริงๆ ว่ารถแบบนี้มันฮิตเข้าไปได้ยังไง?”
เป็นอีกหนึ่งความต่างทางวัฒนธรรมที่ยากจะทำความเข้าใจอย่างแท้จริง
******************
โทมิช-ทรอยสกี้”เผชิญหน้าตำรวจ
ปกติ เบอร์นาร์ด โทมิช นักเทนนิสหนุ่มชาวออสเตรเลีย กับ วิกเตอร์ ทรอยสกี้ จากเซอร์เบีย ต่างได้ชื่อว่าเป็น “แบ๊ดบอย” ของวงการสักหลาดโลกอยู่แล้ว แต่เหตุการณ์ล่าสุดทำเอาหลายคนสะดุ้งกันเป็นแถว เพราะมีข่าวว่าทั้งคู่ต้องไปเผชิญหน้ากับ “ตำรวจ” ซะอย่างนั้น!
เรื่องราวสุดพิลักพิลั่นนี้เกิดขึ้นที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ขณะโทมิชกับทรอยสกี้กำลังซ้อมเพื่อเตรียมตัวแข่งขันรายการเอทีพีทัวร์ ซิตี้ โอเพ่น จู่ๆ ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งเดินผ่าไปกลางคอร์ตตอนทั้งคู่กำลังหวดลูกโต้กัน แล้วชี้มือบอกให้พวกเขาออกจากสนามซ้อมเสีย เพราะพยากรณ์อากาศบอกว่ากำลังจะมีฝนตกหนัก
แต่ทรอยสกี้เงยหน้ามองฟ้าทำหน้างงๆ ว่าไม่เห็นมีทีท่าว่าฝนจะตกหนักตรงไหน โทมิชก็รีบเสริมว่า “โทษนะครับ ผมว่าฝนไม่ตกนะ” แต่เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวก็ยังยืนกรานด้วยท่าทีขึงขังในระดับ “ประจันหน้า” ทำเอาโทมิชที่รูปร่างสูงกว่าต้องถามว่า “ทำไมคุณต้องเข้ามาใกล้ขนาดนี้?”
แต่เรื่องยังไม่จบแค่นั้นเมื่อเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวเริ่มตะคอกเสียงดังว่า “ออกไปเดี๋ยวนี้” ยืนเถียงกันอยู่นาทีเศษ ฝ่ายนักเทนนิสจึงยอมถอยทัพ โดยเหตุการณ์ทั้งหมดโดนแฟนคนหนึ่งที่ไปยืนชมการฝึกซ้อมถ่ายคลิปเอาไว้พอดี
แม้ว่าปฏิกิริยาของเจ้าหน้าที่จะดูโหดไปนิด (ถึงจะเจตนาดี) แต่เนื่องด้วยทั้งโทมิชและทรอยสกี้ต่างมีประวัติแสบๆ ยาวเป็นหางว่าว โดยเฉพาะรายแรก
พอเจอเหตุการณ์นี้เข้าไป หลายคนจึงอดคิดไม่ได้ว่า “ซ่าไม่ออก” เลยสิท่า!
******************
******************