รมว.พิพัฒน์ ฝากนักกีฬาไทยเข้มวินัย แย้ม มวยไทย อดใจรอปลดล็อกจัด ก.ค.

รมว.พิพัฒน์ ฝากนักกีฬาไทยเข้มวินัย แย้ม มวยไทย อดใจรอปลดล็อกจัด ก.ค.

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยผู้บริหาร เดินทางตรวจเยี่ยมการเก็บตัวฝึกซ้อมของนักกีฬาทีมชาติไทย 7 ชนิดกีฬา ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมี ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และผู้บริหาร กกท.ให้การต้อนรับ ที่ศูนย์กีฬาหัวหมาก ภายใน กกท. เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน

นายพิพัฒน์ ได้ตรวจเยี่ยมชมการฝึกซ้อมของนักกีฬายิงธนู ที่สนามยิงธนู ต่อด้วยนักกีฬาปีนหน้าผา ที่ผาจำลอง ราชมังคลากีฬาสถาน และนักกีฬายิงเป้าบิน ที่สนามฝึกซ้อมยิงเป้าบิน ซึ่งมีนักกีฬา 3 คนที่คว้าสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น คือ “ณี” สุธิยา จิวเฉลิมมิตร, “วอร์ม” อิศราภา อิ่มประเสริฐสุข และ “แซม” เศวต เศรษฐาภรณ์

 

จากนั้น รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ได้ตรวจเยี่ยมการฝึกซ้อมนักกีฬาเปตอง ที่ศูนย์กีฬาเปตอง, นักกีฬาเทเบิลเทนนิส ที่ศูนย์กีฬาในร่ม ตามด้วยนักกีฬายิงปืน ซึ่งมีนักกีฬา 3 คนที่คว้าสิทธิ์เข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ 2020 ประกอบด้วย “ธันย่า” ธันยพร พฤกษากร, “เอิร์น” ณภัสวรรณ หย่างไพบูลย์ และ “กัปตัน” อิสรานุดม ภูริหิรัญพัชร์ ปิดท้ายด้วยการตรวจเยี่ยมการฝึกซ้อมของนักกีฬาเอ็กซ์ตรีม ที่สนามกีฬาเอ็กซ์ตรีม

Advertisement

นายพิพัฒน์ เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณทางท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้คลายล็อก เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้นักกีฬาไทยทุกประเภทสามารถกลับมาฝึกซ้อมได้ ซึ่งนักกีฬาจำเป็นต้องมีการฝึกซ้อม เพื่อเตรียมพร้อมในการเข้าร่วมการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นซีเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์ ที่เลื่อนไปเป็นปีหน้า

รมว.พิพัฒน์ กล่าวอีกว่า ได้พูดคุยกับนักกีฬายิงเป้าบินทีมชาติไทยที่ผ่านประสบการณ์คว้าเหรียญรางวัลมาแล้วมากมายรายการนานาชาติต่างๆ ซึ่งส่วนตัวก็จะอยากจะฝากกำลังใจไปถึงนักกีฬาชนิดอื่นๆ ที่ยังไม่ได้ลงไปตรวจเยี่ยมการฝึกซ้อม แต่จะพยายามลงไปให้ทุกสมาคมกีฬา ทั้งนักกีฬาปกติ และนักกีฬาคนพิการ เพราะนักกีฬาทุกคนถือเป็นผู้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย

“ผมอยากจะฝากว่า เราเป็นนักกีฬา สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมีวินัย ซึ่งจะทำอะไรก็จะต้องอยู่ในสิ่งที่ผู้ฝึกสอน โค้ช แนะนำ เราอย่าเพิ่งเก่งกว่าโค้ชเลยครับ เราเป็นนักกีฬาก็ควรจะต้องทำตามโค้ช ถ้าใครทำตามสิ่งที่โค้ชแนะนำในการฝึกซ้อมได้มากที่สุด ความสำเร็จก็จะอยู่ใกล้ที่สุด ถ้าไม่ทำตามความสำเร็จก็จะอยู่ห่างไกลถึงแม้ว่านักกีฬาจะมีความสามารถ พรสวรรค์ก็ตาม”

Advertisement

นายพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีการกลับมาจัดการแข่งขันมวยไทยนั้น ตอนนี้นักมวยกลับมาฝึกซ้อมได้แล้ว แต่คาดว่าจะกลับมาจัดการแข่งขันได้ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม โดยเท่าที่ได้คุยกับทางผู้ว่าการ กกท. นั้น มีโปรโมเตอร์หลายคนส่งจดหมายมาขอจัดการแข่งขันตั้งแต่เดือนวันที่ 20 มิถุนายนนี้

“แต่คงต้องบอกว่า คงไม่ทัน เพราะคงต้องรอให้รัฐบาลมีการคลายล็อกก่อน อยากให้คนวงการมวยอดใจรออีกนิดเพียงไม่กี่วันเท่านั้น ทั้งนี้โดยความพร้อมของ กกท. สนามมวย และนักมวย คิดว่า การกลับมาจัดในช่วงต้นเดือนหน้าจะเป็นสิ่งที่เหมาะสม และจะเป็นการแข่งขันระบบปิด”

“เราสามารถกลับมาจัดแข่งขันได้ แต่ทุกอย่างต้องอยู่ใต้การควบคุมของกระทรวงสาธารณสุขที่ได้ตั้งเกณฑ์ไว้ และทุกอย่างจะต้องอยู่ภายใต้ นิว นอร์มอล คือเป็นแบบปกติใหม่ เพราะตอนนี้เรายังไม่มีวัคซีนรักษาไวรัสโควิด-19 อีกสิ่งสำคัญคือ ขอความร่วมมือจากนักมวยก่อนขึ้นชกอยากให้ไปอยู่ในค่ายล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วัน เพื่อสร้างความมั่นใจให้คู่ต่อสู้ พี่เลี้ยง กรรมการ และคนอื่นๆ ว่า ได้ผ่านการคัดกรองมาแล้ว ส่วนพี่เลี่ยงก็สามารถนวดนักมวยได้ ทั้งนี้อยากขอความร่วมมือให้จำกัดจำนวนคนทั้งหมดไม่เกิน 50 คนในแต่ละสนามมวยที่มีการแข่งขัน”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image