แตกหัก! 3โปรโมเตอร์เปิดใจแยกทาง ราชดำเนิน เสี่ยโบ๊ท เผยชนวนเหตุ-ผันทำมวยรูปแบบใหม่

แตกหัก! 3โปรโมเตอร์เปิดใจแยกทาง ราชดำเนิน เสี่ยโบ๊ท เผยชนวนเหตุ-ผันทำมวยรูปแบบใหม่

 

3 โปรโมเตอร์ใหญ่แห่งวงการมวยไทยนำโดย “เสี่ยโบ๊ท” นายณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์หนุ่มไฟแรงแห่งศึกเพชรยินดี พร้อมด้วย “นายหัวมิตร นคร” นายสุเมธ ซื่อสัตตบงกช โปรโมเตอร์ศึกวันมิตรชัย และ “กิ่งทอง” นายวินัย นาคสินธุ์ โปรโมเตอร์ศึกวันกิ่งทอง ร่วมกันตั้งโต๊ะแถลงข่าวเปิดใจถึงสาเหตุที่ตัดสินใจลาออกพร้อมกันจากการเป็นโปรโมเตอร์ของสนามมวยราชดำเนิน ที่ค่ายมวยเพชรยินดี อะคาเดมี ซอยจรัญสนิทวงศ์ 34 กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน

“เสี่ยโบ๊ท” นายณัฐเดช กล่าวเปิดใจว่า ตั้งแต่เริ่มเป็นโปรโมเตอร์มวยมาตั้งแต่ปี 2556 ผ่านมา 7 ปี ก้าวสู่ปีที่ 8 ต้องขอบคุณสนามมวยราชดำเนินที่เชื่อมั่นในตัวเองที่เป็นโปรโมเตอร์ที่อายุน้อยที่สุดในขณะนั้น โดยตนทุ่มเทเต็มที่เพื่อหวังพัฒนาวงการมวย และไม่เคยมองถึงการจัดมวยเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ ส่วนการลาออกจากสนามมวยราชดำเนินนั้น ตนเองเป็นเพียงคนเดียวที่มีปัญหากับสนาม ด้านอีก 2 คนไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งทะเลา แต่ออกมาร่วมกันตนเองที่เป็นเสมือนครอบครัวเดียวกัน

เสี่ยโบ๊ทกล่าวอีกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นเริ่มจากการที่ตนเองเป็นตัวแทน 13 โปรโมเตอร์ พูดในที่ประชุมเมื่อวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา เรียกร้องให้สนามงด หรือลดค่าเช่า ในช่วงก่อนจะเกิดวิกฤตโรคโควิด-19 หลังจากนั้นก็ได้โพสต์เฟสบุ๊กเรียกร้อง ทำให้วันต่อมาสนามก็ส่งไลน์มาต่อว่าทันที จากนั้นก็ไม่ได้คุยกันต่อ และสนามก็บล็อกตนเองทุกช่องทาง

Advertisement

“ผมไม่สามารถทำตามนโยบายของสนามได้ วันนี้ผมไม่อยากโกหกตัวเองให้จบสวยๆ แต่ปัญหาทั้งหมดเริ่มต้นจากตัวผมที่เป็นตัวแทนให้กับโปรโมเตอร์ทั้งหมดเรียกร้องกับสนามมวย เพราะโปรโมเตอร์ไม่ใช่ลูกน้องสนามมวย แต่เป็นผู้ร่วมทำธุรกิจ หรือพาร์ทเนอร์ ซึ่งที่ผ่านมาสนามมวยมองว่า โปรโมเตอร์ไร้เกียรติ ไร้คุณค่า ทำให้ผมคุยกับพ่อ อามิตร และอากิ่ง ตัดสินใจว่าจะลาออกจากการเป็นโปรโมเตอร์ของสนามมวยราชดำเนิน”

เสี่ยโบ๊ทกล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนั้นสนามได้นัดโปรโมเตอร์เพียง 4-5 คน ประชุมกันครั้งแรก และครั้งที่ 2 ประชุมกันแค่ 1-2 คน โดยไม่มีตนเอง ซึ่งเป็นการแสดงออกชัดเจนว่า เขาไม่เอาเราแล้ว แต่เราไม่ได้น้อยใจ เพียงแค่รู้สึกไม่ดีที่เขามองเราไร้คุณค่า ทั้งที่ตนเองเป็นต้นเรื่อง แต่ไม่เคยคุย ไม่เคยเคลียร์เลย ทำให้คิดว่าถ้าไม่ลาออกวันนี้ก็คงลาออกวันหน้า ก็เลยตัดสินใจดังกล่าว

“ผมไม่ได้ต้องการจะทำลายชื่อเสียงของสนามมวยราชดำเนิน และขออวยพรให้มีความแข็งแรงสมกับเป็นสนามมวยแห่งแรกของไทย ส่วนตัวผมยินดีที่จะกลับมาช่วยเหลือได้ในอนาคตต่อไปถ้ามีโอกาส”

โปรโมเตอร์หนุ่มเพชรยินดีกล่าวอีกว่า จะยังคงอยู่ในวงการมวยต่อเนื่อง แต่อนาคตอาจจะไม่ได้เป็นโปรโมเตอร์ก็ได้ ส่วนกรณีที่จะย้ายจากสนามราชดำเนินไปลุมพินีนั้น ตอนนี้ยังไม่มีการยืนยันว่า ซีพีจะเทกโอเวอร์สนามลุมพินีจริงหรือไม่ แต่ต้องบอกว่า ถ้าผู้บริหารของสนามลุมพินีมีวิสัยทัศน์ และอุดมการณ์เดียวกันก็พร้อมที่จะร่วมทำงานด้วยเช่นเดียวกับทุกที่ที่มุ่งหวังพัฒนาวงการมวย ส่วนนักมวยในสังกัดกว่า 40-50 คน ไม่ต้องกังวล ยืนยันว่าจะยังมีรายการชกในมวยมันส์วันศุกร์ ทางช่องทรูโฟร์ยู

ขณะที่ “นายหัวมิตร นคร” นายสุเมธ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้มีปัญหากับสนามมวย แต่อยากออกมาทำสิ่งใหม่ๆ โดยเตรียมจะทำรูปแบบใหม่ด้วยการถ่ายทอดมวยออนไลน์แบบเต็มตัว ร่วมมือเครือข่ายเพื่อนฝูง เพื่อดูแลนักมวยให้ทั่วถึง และช่วยค่ายมวยให้ได้มากกว่านี้ จึงได้มาปรึกษาอีก 2 คนมาร่วมกันทำรูปแบบใหม่

นายหัวมิตร กล่าวอีกว่า ได้มีการติดต่อกับทางโปรโมเตอร์ทางภายใต้เอาไว้ว่าเตรียมจะจัดการแข่งขันถ่ายทอดมวยรูปแบบใหม่ในภาคใต้ วางไว้เดือนละ 4 ครั้ง ส่วนนักชกในสังกัดยังมีรายการชกในมวยมันส์ วันศุกร์ ที่เวิลด์ สยาม สเตเดียม สนามมวยชั่วคราวตะวันนา บางกะปิ ในวันที่ 9-10 กรกฎาคมนี้ ซึ่งก็ยังถือเป็นรายการให้นักมวยได้ยังมี

ด้าน “กิ่งทอง” นายวินัย กล่าวว่า ต้องขอบคุณสนามมวยราชดำเนินที่ทำให้ตนเองมีชื่อเสียงตั้งแต่สมัยเป็นนักมวยแชมป์เวทีราชดำเนิน จนกระทั่งก้าวขึ้นมาเป็นโปรโมเตอร์ในปัจจุบัน ซึ่งยาวนานกว่า 45 ปีแล้ว รวมทั้งต้องขอบคุณครอบครัวเพชรยินดีที่อยู่ร่วมมากว่า 20 ปีแล้ว และยืนยันว่าจะยังอยู่กับเพชรยินตลอดไป

ทั้งนี้นอกจาก 3 โปรโมเตอร์ที่ตั้งโต๊ะแถลงขอลาเวทีมวยราชดำเนินแล้ว ยังมี “เชฟบุญธรรม กระทะเหล็ก” นายบุญธรรม ภาคโพธิ์ เชฟกระทะเหล็กประเทศไทย ผู้ผันตัวมาเป็นโปรโมเตอร์ ศึกเชฟบุญธรรม ของเวทีมวยราชดำเนิน ประมาณ 2 ปี ประกาศเลิกเป็นโปรโมเตอร์จัดศึกมวยที่เวทีมวยราชดำเนินไปก่อนหน้านี้แล้วด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image