ภิญโญฮีโร่ ซัดประตูให้ไทยไล่เจ๊าซาอุฯสุดมันส์ 1-1

อุดมศักดิ์ ภัคธนาพงศ์ ผู้สื่อข่าวกีฬาประจำกองบรรณาธิการ น.ส.พ.มติชน เกาะติดรายงานความเคลื่อนไหวทีมฟุตบอลไทยในการฟุตบอลยู- 23 ปีชิงแชมป์เอเชีย 2016 รอบสุดท้าย จากกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เพื่อชิง 3 โควต้าไปฟาดแข้งในศึกฟุตบอลโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่นครรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล โดยช้างศึก มีคิวดวลกับ “เหยี่ยวมรกต” ซาอุดีอาระเบีย ในเกมรอบแรก กลุ่มบี ที่แกรนด์ ฮาหมัด สเตเดียม เมื่อวันที่ 13 มกราคม

ก่อนเริ่มเกมการแข่งขัน 1 ชั่วโมง ทีมชาติไทยเริ่มลงมาวอร์มที่สนามแข่งขัน โดยมีกองเชียร์หลายร้อยคน เข้ามาให้กำลังใจถึงขอบสนาม

“โค้ชซิโก้”​ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชทีมชาติไทย จัดทัพ 11 ตัวแรก นำโดย สมพร ยศ เป็นผู้รักษาประตู กองหลัง ทริสตอง โด ยืนแบ๊กขวา พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ยืนแบ๊กซ้าย โดยมี “เก่ง”​ อดิศร พรหมรักษ์ และ “ตั้ม” ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ยืนคู่เซนเตอร์ร่วมกัน ขณะที่กองกลางใช้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ชญาวัต ศรีนาวงษ์ และ “เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ กัปตันทีม คอยทำเกม ส่วนกองหน้ามี ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ยืนด้านขวา ภิญโญ อินพินิจ ยืนด้านซ้าย พร้อมกับให้ เจนรบ สำเภาดี เป็นหน้าตัวเป้า

ขณะที่ซาอุดีอาระเบีย รองแชมป์เก่า นำทีมมาโดย มุสตาฟา อัลบาสซาส กัปตันทีม และอาลี อัลซูไบดิ้ ลงเป็นตัวจริงทันที

Advertisement

เริ่มเกมนาทีที่ 10 ซาอุดิอาระเบียมีลุ้นจังหวะแรก จากจังหวะที่ทริสตอง โด เสียบอลให้โมฮัมเหม็ด กาเซ็ม อัลนาคลี่ หลุดไปเปิดติดมือสมพร และเป็นภิญโญ ช่วยเคลียร์ออกไปได้

นาทีที่ 12 ไทยมาเสียจุดโทษ จากจังหวะที่อดิศร พรหมรักษ์ ไปตัดฟาล์ว โมฮัมเหม็ด ไอดาห์ อัลไซอารี่ บนเส้นเขตโทษ ผู้ตัดสินให้เป็นจุดโทษ แต่ทางด้านมุสตาฟา อัลบาสซาส ยิงไปติดเซฟของสมพร ทำให้ไทยรอดเสียประตู

จากนั้นนาทีที่ 15 ไทยมีลุ้นบ้างจากจังหวะที่เจนรบ กระดกบอลหนีแนวรับซาอุดีอาระเบียมาได้ ก่อนเปิดให้ภิญโญชาร์จ แต่บอลหลุดข้ามคานออกไป

Advertisement

นาทีที่ 19 ไทยมีโฮกาสอีกครั้ง จากจังหวะที่ฐิติพันธ์ ลองส่องจากด้านขวาของกรอบเขตโทษ บอลหลุดกรอบไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

นาทีที่ 20 ภิญโญ ลากบอลหลุดไปทางซ้าย ก่อนลากเข้าไปกดในกรอบเขตโทษ ติดเซฟของ อาหมัด อัลฮาร์บี

นาทีที่ 27 โมฮัมเหม็ด คานโน่ จ่ายให้ ฟาฮัด อัลมูวาลลาด ชาร์จ แต่ติดเซฟของสมพรอีกครั้ง และสมพรกระแทกกับเสาประตู จนต้องเรียกแพทย์ลงมาดูอาการ แต่ไม่เป็นอะไรมาก สามารถลงเล่นต่อได้

นาทีที่ 30 ชนาธิปตัดบอลหน้าเขตโทษซาอุฯได้ก่อนจ่ายให้ เจนรบ แตะต่อให้ปกรณ์ ได้ซัดเหน่งๆ หลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

ช่วงเวลาที่เหลือ ต่างฝ่ายยังไม่สามารถทำอะไรเพิ่มได้ จบครึ่งแรก ไทยเสมอกับซาอุดีอาระเบียอยู่ 0-0

ครึ่งหลังไทยเขี่ยลูกเริ่มเล่นก่อน ได้โอกาสในนาทีที่ 56 จากจังหวะที่ปกรณ์ เปิดบอลเข้าไป ถูกอาลี อัลซูไบดิ้ สกัดออกไปได้

นาทีที่ 65 ซาอุฯเปลี่ยนตัวคนแรก ส่งมาเยด อัลนาจราน ลงมาแทน อาลี อับดุลลาห์ ฮาซาซี่ และเป็นไทยที่ได้โฮกาสอีกครั้งจากจังหวะที่เจนรบ พลิกบอลในเขตโทษ ก่อนได้ยิง ติดเซฟอาหมัด อัลฮาร์บี อีกครั้ง และเป็นจังหวะสุดท้ายของเจนรบ ก่อนซิโก้จะเปลี่ยนให้ ธนาสิทธิ์ ศิริผลา ลงมาเล่นแทน

อีก 4 นาทีต่อมา ซาอุฯ เปลี่ยนตัวที่สอง ส่ง ริยาดห์ อาลีบราฮิม ลงมาแทน อับดุคมาจีด อัลซุลายฮิม

และนาทีที่ 71 ซาอุดีอาระเบีย ได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ ฟาฮัด อัลมูวาลลาด เปิดให้ โมฮัมเหม็ด ไอดาห์ อัลไซอารี่ ได้โหม่งผ่านมือสมพรเข้าประตูไปให้ทีมขึ้นนำ 1-0

พอเกมตามหลัง ซิโก้ ส่ง วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ลงมาเล่นแทน ฐิติพันธ์ ทันที และเจ้าตัวได้โอกาสซัลโวครั้งแรกในนาทีที่ 76 แต่บอลพุ่งข้ามคานออกไป

เข้าช่วง 10 นาที่ไทยเปลี่ยนตัวสุดท้าย ส่งสหรัฐ กันยะโรจน์ ลงมาเล่นแทนปกรณ์ เปรมภักดิ์

นาทีที่ 83 เสียงเชียร์ไทยในสนามได้ดังกระหึ่ม เมื่อผู้เล่นซาอุฯ สื่อสารกันพลาด ทำให้บอลหลุดไปถึงภิญโญ ซัดไม่พลาดให้ไทยตีเสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จ

ท้ายเกมไทยพยายามบุกหนักหวังทำประตูชัย แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ จบเกมเสมอกันไป 1-1

 

14527021851452704868l

เจนรบ สำเภาดี เลี้ยงผ่านผู้เล่นซาอุดีอาระเบีย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image