การแข่งขันกีฬานักเรียนอาเซียน ครั้งที่ 8 “อาเซียนสกูลเกมส์ 2016” ที่ จ.เชียงใหม่ ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม โดยพิธีปิดจัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมนานาชาติเชียงใหม่ มี รศ.ดร.ชวนี ทองโรจน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานพร้อมด้วยนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงผู้บริหารกรมพลศึกษา เข้าร่วมงาน
โดยไทยส่งมอบธงประจำการแข่งขันคืนให้กับสภากีฬานักเรียนอาเซียนก่อนจะส่งมอบต่อให้กับประเทศสิงคโปร์เจ้าภาพในปีหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงาน ช่วงเช้าวันเดียวกันคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯ จัดกิจกรรมทัศนศึกษาพานักกีฬานักเรียนทุกชาติไปท่องเที่ยวเรียนรู้วัฒนธรรมท้องถิ่น โดยแยกเป็น 3 เส้นทาง ประกอบด้วย ปางช้างแม่สา-สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ-บ้านบ่อสร้าง
สำหรับผลงานนักกีฬานักเรียนไทยในอาเซียนสกูลเกมส์ 2016 สามารถทวงเจ้าเหรียญทองคืนมาคว้ามาได้ 56 ทอง 36 เงิน 33 ทองแดง อันดับ 2 อินโดนีเซีย 30 ทอง 34 เงิน 35 ทองแดง อันดับ 3 เวียดนาม 19 ทอง 20 เงิน 15 ทองแดง อันดับ 4 สิงคโปร์ 13 ทอง 14 เงิน 30 ทองแดง อันดับ 5 มาเลเซีย 6 ทอง 15 เงิน 22 ทองแดง อันดับ 6 ลาว 1 เงิน 7 ทองแดง อันดับ 7 กัมพูชา 1 ทองแดง ส่วนประเทศบรูไนไม่สามารถคว้าเหรียญรางวัลได้ในครั้งนี้
“อธิบดีต้อย” ดร.กิตติพงษ์ โพธิมู อธิบดีกรมพลศึกษาในฐานะหัวหน้าคณะนักกีฬานักเรียนไทยกล่าวว่า ผลงานทัพนักกีฬานักเรียนไทยถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ก่อนแข่งคือต้องทวงคืนตำแหน่งเจ้าเหรียญทองคืนมาให้ได้ ซึ่งตนพอใจอย่างมาก ประการสำคัญคือการเป็นเจ้าภาพของไทยได้รับคำชื่นชมจากทุกชาติเรื่องการบริหารจัดการต่างๆ ทั้งที่พัก สนามแข่งขัน ระบบขนส่ง และการรักษาความปลอดภัย ขณะเดียวกันทุกชาติพอใจมาตรฐานการแข่งขันเพราะไทยไม่ได้อาศัยความได้เปรียบการเป็นเจ้าภาพเพื่อหวังผลเจ้าเหรียญทองเลย
ดร.กิตติพงษ์กล่าวต่อว่า ภาพรวมการเป็นเจ้าภาพของไทยถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากเป็นการสนองนโยบายสปอร์ตทัวร์ริซึ่มของรัฐบาลได้เป็นอย่างดี หลังจากนี้กรมพลศึกษาจะทำรายงานสรุปความสำเร็จการเป็นเจ้าภาพอาเซียนสกูลเกมส์ 2016 ของไทยเสนอต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเพื่อรับทราบผลการดำเนินงานอย่างเป็นทางการต่อไป
“ก่อนผมจะเกษียณอายุราชการเดือนกันยายนนี้ผมอยากเสนอว่า อนาคตกรมพลศึกษาต้องทำแผนงานระยะยาวในการดำเนินงานโครงการต่างๆ และต้องผลักดันให้ไทยเป็นหัวหอกในการช่วยยกระดับกีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งประเทศไทย รวมถึงกีฬาอาเซียนสกูลเกมส์ ให้มีมาตรฐานสากล”อธิบดีกรมพลศึกษากล่าว
ด้านนายปวิณกล่าวว่า เชียงใหม่ได้พิสูจน์ให้เห็นว่ามีความพร้อมเป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬานานาชาติแม้ว่าจะว่างเว้นจากการเป็นเจ้าภาพมานาน เชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับ 2 ของโลกในปัจจุบันดังนั้นหากนำกีฬามาผนึกในการส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวเชื่อมั่นว่าทั้งกีฬา และท่องเที่ยวของเมืองไทยจะแข็งแกร่งไปพร้อมๆ กัน เช่นเดียวกับประเทศในกลุ่มอาเซียนที่จะเข้มแข็งไปพร้อมๆ กันตามนโยบายประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)
