กรวีร์ แจงไทยลีกค่าใช้จ่ายมหาศาล ทรูวิชั่นส์ถอนตัวทำยวบ เห็นใจสโมสรหนักแน่
หลังจากที่ “บิ๊กแชมป์” นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล รองประธาน บริษัท ไทยลีก จำกัด ระบุว่า สโมสรในไทยลีก 3 จะไม่ได้เงินสนับสนุน หลังจาก บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด ยืนยันถ่ายทอดสด และจ่ายค่าลิขสิทธิ์ฟุตบอลอาชีพไทยแค่ถึงแมตช์วันที่ 25 ตุลาคม 2563 ขณะที่โปรแกรมแข่งขันวางไว้ตั้งแต่กันยายน 2563-พฤษภาคม 2564 นั้น
ล่าสุด นายกรวีร์ เพิ่มเติม เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ถึงเวลานี้ต้องเอาเรื่องตัวเลขที่แท้จริงและข้อเท็จจริงมาพูดกัน โดยในส่วนเงินลิขสิทธิ์นั้น ทรูวิชั่นส์ จ่ายงวดแรกมา 400 ล้านบาท จากจำนวนเต็มทั้งฤดูกาล 1,200 ล้านบาท หายไป 800 ล้านบาท
ส่วนเงินที่จะให้สโมสรไทยลีก 3 อยู่ที่สโมสรละ 2 ล้านบาท เป็นเงินสนับสนุน 1 ล้านบาท กับโครงการ “เอฟเอ ดีเวลอปเมนต์ โปรแกรม” อีก 1 ล้านบาท รวมทั้งลีก 80 ทีม เป็นเงิน 160 ล้านบาท เมื่อ ทรูวิชั่นส์ ถอนไป ก็ยากที่จะหามาสนับสนุนดังเดิม อย่างไรก็ตาม เงินงวดแรกที่จ่ายไปแล้วของทุกสโมสร ในทุกลีกก็จะไม่เรียกคืนอยู่แล้ว
ส่วนกรณีที่หากสโมสรไปต่อไม่ไหวจะขอพักทีม แต่กับบทลงโทษเช่น เมื่อกลับมาต้องไปเล่นในไทยแลนด์อเมเจอร์ลีก บทลงโทษนี้จะคงไว้หรือไม่ นายกรวีร์ ตอบว่า ต้องคุยกับสโมสรกันก่อน เอาข้อข้องใจมาคุยกัน ซึ่งเข้าใจดีว่าเงิน 2 ล้านบาท สำหรับทีมไทยลีก 3 ถือว่าเยอะมาก จะไปต่อไหวหรือไม่ ตรงนี้รู้สึกเห็นใจจริงๆ ต้องมาคุยกัน เอาข้อเท็จจริงมาว่ากัน นอกจากนี้ ส่วนกรณีที่จะปรับระบบแข่งขันหรือไม่ นายกรวีร์ ตอบว่า ต้องมาหารือกับสโมสร และดูว่าเหลือทีมที่จะเล่นกี่ทีม
นายกรวีร์ กล่าวอีกว่า สำหรับเงินสนับสนุนของสโมสรไทยลีก 1-2 จะจ่ายเพิ่มจากงวดแรกเท่าไหร่นั้น ต้องดูค่าลิขสิทธิ์ของเจ้าที่จะมารับช่วงต่อจากทรูวิชั่นส์ แต่คิดว่าคงได้จากเจ้าใหม่ไม่เยอะด้วยเวลาที่กระชั้นชิดแล้ว ทั้งนี้การที่ ทรูวิชั่นส์ ไม่ถ่ายทอดสดต่อ กับเงิน 800 ล้านบาทที่หายไปส่งผลกระทบมาก
โดยหากคิดเงินสนับสนุน กับเงินเอฟเอดีเวลลอป โปรแกรม ไทยลีก 1 อยู่ที่ 400 ล้านบาท, ไทยลีก 2 อยู่ที่ 72 ล้านบาท และไทยลีก 3 อย่างที่บอก 160 ล้านบาท รวมแล้วมากกว่า 600 ล้านบาท ที่ต้องให้สโมสร
“แล้วไม่ใช่แค่นั้น อย่างเช่นแต่ละแมตช์ก็มีค่าจัดการแข่งขัน อย่างไทยลีก 3 ค่าผู้ตัดสิน ผู้ควบคุมการแข่งขัน นัดละ 2-3 หมื่นบาท อันนี้คือเรตต่ำสุด ซึ่งไทยลีก 3 ก็มีเป็นพันนัด หากคิดไทยลีก 1 นัดเดียว ก็ตก 4-5 หมื่นบาท นอกจากนี้ ยังมีค่าบริหารจัดการของสมาคมฯ ทั้งทีมชาติ, อบรมโค้ช, พัฒนาบอลเยาวชน ที่ปกตินำมาจากเงินลิขสิทธิ์ นี่คือข้อเท็จจริงที่ต้องนำมาคุยกันถึงผลกระทบ ซึ่งตอนนี้เราได้จากทรูมาแค่ 400 ล้านบาท”
สำหรับเงินจากผู้สนับสนุนรายอื่น นายกรวีร์ ตอบว่า งบประมาณที่มาขับเคลื่อนวงการฟุตบอล หลักๆ มาจากเงินลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ส่วนเจ้าอื่นๆ นั้นไม่มีรายใดที่ให้หลัก 100 ล้านบาทเลย บางเจ้าก็ให้เป็นสินค้ากับเงินสด นอกจากนี้ การจ่ายก็มาเป็นงวดๆ เช่นกัน
ด้านการจัดแข่งขันไทยแลนด์อเมเจอร์ลีกนั้น นายกรวีร์ กล่าวว่า ก็ต้องดูสถานการณ์ก่อน ว่าจะหาเงินมาจัดได้หรือไม่ เพราะอย่างปีที่แล้วก็มีสมัครกว่า 300 ทีม แม้ทีมระดับนี้ ไม่มีเงินสนับสนุน แต่การจัดก็มีค่าใช้จ่าย ยังไง สมาคมก็ต้องเน้นไปที่การจัดฟุตบอลไทยลีก 1-2-3 ให้ได้เสียก่อน
