โอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่กำลังจะระเบิดศึกระหว่างวันที่ 5-21 สิงหาคม ที่นครรีโอเดจาเนโร ประเทศบราซิล มีความพิเศษกับนักกีฬาไทยตรงที่เป็นการฉลองครบ 20 ปีที่ “บาส” สมรักษ์ คำสิงห์ นักมวยสากลสมัครเล่นคว้าเหรียญทองแรกในประวัติศาสตร์ให้ประเทศไทยในมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติได้ในโอลิมปิกเกมส์ 1996 ที่เมืองแอตแลนต้า สหรัฐอเมริกา
โอลิมปิกเกมส์ 2016 “รีโอเกมส์” มีนักกีฬาไทย 54 คนที่ได้โควต้าไปแข่งขันจาก 16 ชนิดกีฬา ได้แก่ ยิงเป้าบิน 1 คน สุธิยา จิวเฉลิมมิตร / ยิงปืน 4 คน ธันยพร พฤกษากร, พิมพ์อร คล้ายสุบรรณ, อัฐพล เอื้ออารี, นภิศ ต่อตั้งพานิช / มวยสากล 5 คน วุฒิชัย มาสุข , ฉัตร์ชัย บุตรดี, สายลม อาดี, อำนาจ รื่นเริง, เปี่ยมวิไล เล่าเปี่ยม / เทควันโด 3 คน พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ,เทวินทร์ หาญปราบ, พรรณนภา หาญสุจินต์ / ยูโด 1 คน คุณาธิป เยี่ยอ้น
ยกน้ำหนัก 9 คน โสภิตา ธนสาร, สุกัญญา ศรีสุราช, พิมศิริ ศิริแก้ว, ศิริภุช กุลน้อย, วิทูรย์ มิ่งมูล, สินธุ์เพชร์ กรวยทอง, ไตรรัตน์ บุญสุข, จตุภูมิ ชินวงค์, ศรัท สุ่มประดิษฐ / กรีฑา 4 คน เจน วงษ์วรโชติ, ณัฐธยาน์ ธนรณวัฒน์, บุญถึง ศรีสังข์, สุเบญรัตน์ อินแสง / ว่ายน้ำ 2 คน ณัชฐานันตร์ จันทร์กระจ่าง, รดมยศ มาตเจือ / วินด์เซิร์ฟ 2 คน ศิริพร แก้วดวงงาม, ณัฐพงษ์ โพธิ์นพรัตน์ / เรือใบ 2 คน กมลวรรณ จันทร์ยิ้ม, กีระติ บัวลง เรเซอร์
เรือพาย 2 คน จารุวัฒน์ แสนสุข, พุทธรักษา นีกรี / เทเบิลเทนนิส 3 คน สุธาสินี เสวตรบุตร, นันทนา คำวงศ์, ภาดาศักดิ์ ตันวิริยะเวชกุล / แบดมินตัน 7 คน รัชนก อินทนนท์, พรทิพย์ บูรณะประเสริฐสุข, บุญศักดิ์ พลสนะ, ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย, พุธิตา สุภจิรกุล, บดินทร์ อิสสระ, สาวิตรี อมิตรพ่าย / จักรยาน 2 คน จุฑาธิป มณีพันธุ์, อะแมนด้า คาร์ / ยิงธนู 1 คน วิทยา ทำว่อง / กอล์ฟ 4 คน พรอนงค์ เพชรล้ำ, เอรียา จุฑานุกาล, ธงชัย ใจดี, กิรเดช อภิบาลรัตน์ / เทนนิส 2 คน สนฉัตร และสรรค์ชัย รติวัฒน์
จำนวนนักกีฬา 54 คนในครั้งนีนับเป็นจำนวนเทียบเท่ากับในโอลิมปิกเกมส์ 1964 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ทัพไทยเคยไปแข่งขันมากที่สุด 54 คน แต่ในครั้งนั้นเป็นการเชิญไปร่วมแข่งในหลายชนิดกีฬา ซึ่งถ้าว่ากันจริงๆ แล้ว โอลิมปิกเกมส์ในระบบชิงโควต้า ครั้งนี้นักกีฬาไทยทำได้มากที่สุดตลอดการส่งทีมแข่งขันตั้งแต่ปี 1952 ที่ประเทศสวีเดน
ก่อนพิธีเปิดในวันที่ 5 สิงหาคม “เจ้าภาพ” บราซิลเจอปัญหารุมเร้ามากมาย ทั้งการต่อต้านจากประชาชนในประเทศที่มองว่ารัฐบาลควรนำเงินมาพัฒนาสาธารณูปโภคให้กับพวกเขามากกว่าจะโปรยเงินทิ้งไปกับการจัดโอลิมปิก ทำให้เกิดการต่อต้านอย่างหนัก
รวมทั้งมีความไม่ปลอดภัยทั้งในเรื่องน้ำในทะเลที่ใช้แข่งขัน หมู่บ้านนักกีฬาที่ไม่ได้มาตรฐาน การคมนาคมอย่างรถไฟฟ้าใต้ดินที่สร้างเสร็จไม่ทันการแข่งขัน ความไม่ปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งไวรัสซิกาที่ระบาดอย่างหนักในช่วงนี้ ทำให้หลายคนมองว่า รีโอเกมส์จะเป็นโอลิมปิกที่ย่ำแย่ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
อย่างไรก็ตามทุกอย่างก็คงต้องดูกันหน้างาน เพราะรัฐบาลบราซิลและผู้หลักผู้ใหญ่ของรีโอเดจาเนโรประกาศยืนยันหนักแน่นว่า ปัญหาต่างๆ ได้ถูกแก้ไขและรับมือไว้หมดแล้ว
ภารกิจใหญ่หลวงของนักกีฬาไทย คือ การทวงเหรียญทองกลับมาให้ได้อีกครั้ง หลังจากที่ในโอลิมปิกเกมส์ 2012 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทำได้ดีที่สุดแค่ 2 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง และเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปีที่ไทยคว้าเหรียญทองไม่ได้
ความหวังสูงสุดในการลุ้นเหรียญรางวัลก็ยังคงเป็นชนิดกีฬาหน้าเก่าอย่างยกน้ำหนัก มวยสากลสมัครเล่น เทควันโด แต่ครั้งนี้ยิงเป้าบินที่มี “ณี” สุธิยา จิวเฉลิมมิตร มือ 1 ของโลกประเภทสกีตหญิง “เมย์” รัชนก อินทนนท์ มือ 4 ของโลกในแบดมินตัน หญิงเดี่ยว “เม” เอรียา จุฑานุกาล โปรกอล์ฟมือ 6 ของโลก ก็เป็นความหวังที่จะมาสร้างชื่อให้กับประเทศไทยเช่นกัน
นักกีฬาไทยในอดีตเคยคว้ามาได้รวมทั้งสิ้น 7 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน 11 เหรียญทองแดง 42 ปีที่แล้ว พเยาว์ พูนธรัตน์ นักชกหยิบเหรียญทองแดง ในโอลิมปิกเกมส์ 1964 ซึ่งเป็นเหรียญรางวัลแรกของไทยในมหกรรมนี้ ถัดมาอีก 20 ปี สมรักษ์คว้าเหรียญทองแกในประวัติศาสตร์
ครบรอบ 20 ปีอีกครั้ง จะมีประวัติศาสตร์หน้าใหม่อะไรกับวงการกีฬาไทยในมหกรรมโอลิมปิกอีกหรือไม่ ต้องติดตาม
