ทัพกรีฑาไทยลุ้นตั๋วเพิ่มลุยโอลิมปิก ท่อน้ำไทยหนุนทุนการศึกษานักกีฬา2ล้าน
สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ ลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) กับ พ.อ.ดร.ยรรยง ภัทรเลาหะ กรรมการบริหาร บริษัทอุตสาหกรรมท่อน้ำไทย จำกัด ใน “โครงการกองทุนท่อน้ำไทยส่งเสริมกรีฑาไทย เพื่อความเป็นเลิศและเพื่อการศึกษาของนักกรีฑาไทย” ที่ทำการสมาคมกีฬากรีฑาฯ ภายในเมนสเตเดียม ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม
โครงการกองทุนท่อน้ำไทยส่งเสริมกรีฑาไทย เพื่อความเป็นเลิศและเพื่อการศึกษาของนักกรีฑาไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อให้กรีฑาไทยมุ่งสู่ความเป็นเลิศในการแข่งขันซีเกมส์, เอเชี่ยนเกมส์, เอเชี่ยน จูเนียร์แชมเปี้ยนชิพส์, เวิล์ด จูเนียร์ แชมเปี้ยนชิพส์ และ โอลิมปิกเกมส์ โดยท่อน้ำไทยจะมอบเงินทุนการศึกษา และค่าใช้จ่ายในการฝึกซ้อมกรีฑาของนักกรีฑาทีมชาติไทย และเยาวชนทีมชาติไทย เริ่มตั้งแต่ปีการศึกษา 2563-2567 ปีละไม่เกิน 500,000 บาท เป็นเวลาไม่เกิน 4 ปี รวมทั้งสิ้น 2 ล้านบาท
“แฝดใหญ่” พล.ต.ต.สุรพงษ์ อาริยะมงคล อุปนายกและเลขาธิการสมาคมกีฬากรีฑาฯ กล่าวว่า โปรแกรมการแข่งขันนักกรีฑาทีมชาติไทยในต่างประเทศตอนนี้คงยังดำเนินการไม่ได้ แต่รายการในประเทศนั้น สมาคมได้เริ่มแล้วตั้งแต่ ริเวอร์แคว ฮาล์ฟมาราธาน ที่จะเริ่มวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ อีกรายการที่สำคัญคือ การแข่งขันกรีฑาชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี วันที่ 10-13 ธันวาคม ที่สนามของสมาคมกีฬากรีฑาฯ ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างเสร็จสิ้นในเดือนตุลาคม ถือเป็นการเปิดสนามไปในตัวด้วย
ส่วนการเตรียมนักกีฬากรีฑาทีมชาติไทยเข้าร่วมมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงโตเกียว ในปีหน้านั้น พล.ต.ต.สุรพงษ์ กล่าวว่า กำลังติดตามว่ารายการใดของสหพันธ์กรีฑาโลกเป็นการควอลิฟายโอลิมปิก ซึ่งตอนนี้มีนักกรีฑาที่ผ่านการควอลิฟายแล้วคือ ขว้างจักรหญิง สุเบญรัตน์ อินแสง และกรีฑาชาย สิทธิศักดิ์ สิงห์ขร นอกจากนี้ ยังมีโอกาสลุ้นจากเขย่งก้าวกระโดดหญิง และทีมวิ่งผลัด 4×100 เมตรชาย ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย แต่จะพยายามเต็มที่
“ในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้เราไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เหรียญรางวัล แต่คาดหวังว่าจะทำผลงานผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้ แต่อีก 4 ปีหลังจากนี้ในโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เราจะสู้ถึงเหรียญรางวัลให้ได้ ซึ่งเป็นเป้าหมายของสมาคมกีฬากรีฑาฯ” แฝดใหญ่กล่าว
