นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้เพิกถอนการเป็นตัวแทนจำหน่ายตั๋วฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้ายของบริษัทว่า ทางบริษัทยอมรับและเคารพในการตัดสินใจของสมาคม และขอบคุณที่ให้โอกาสเว็บไซต์ House of Ticket มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในวงการฟุตบอลไทยที่จะเป็นทางเลือกอีกช่องทางหนึ่งในการจำหน่ายตั๋วในครั้งนี้
สำหรับปัญหาในการจองซื้อตั๋วเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเปิดขายในวันแรกนั้น เกิดจากการออกแบบระบบการจองตั๋วที่ตั้งค่าความปลอดภัยไว้ในระดับสูงเพื่อป้องกันปัญหาต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นในการจองตั๋วในอดีต ส่งผลทำให้เมื่อมีจำนวนผู้สนใจจองซื้อจำนวนมากจึงไม่สามารถทำรายการได้สำเร็จ โดยตลอดเวลาที่เกิดปัญหาบริษัทพยายามแก้ไขอย่างเต็มที่และต่อเนื่องเพื่อการดำเนินงานได้ไม่สะดุด แต่ด้วยปัญหาทางเทคนิคบางประการทำให้ไม่สามารถแก้ไขได้ตามกำหนดเวลาตามที่ชี้แจงไว้
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จองตั๋วและชำระเงินเรียบร้อยแล้วทางบริษัทจะติดต่อเพื่อดำเนินการในการคืนเงินให้เต็มจำนวนโดยจะขอหารือกับทางสมาคม ส่วนผู้ที่กังวลในเรื่องข้อมูลรายละเอียดที่กรอกไว้ในเว็บไซต์ ทางบริษัทยืนยันว่าทุกข้อมูลของลูกค้าที่ให้ไว้จะไม่มีการเผยแพร่ออกไปอย่างแน่นอน
“ต้องขออภัยแฟนบอลทุกท่านที่ทำให้ผิดหวังในการจองตั๋วฟุตบอลในครั้งนี้ ซึ่งเราเข้าใจถึงความคาดหวังของแฟนบอลไทยที่ต้องการเข้าชมการแข่งขันสำคัญระดับชาติ และขอบคุณทุกคำติชมที่จะเป็นข้อมูลสำคัญในการปรับปรุงการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งบริษัทยืนยันว่าการเข้ามารับหน้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายตั๋วในครั้งนี้มาด้วยความตั้งใจจริงที่จะช่วยพัฒนาวงการฟุตบอล รวมถึงแก้ไขปัญหาเรื่องการจำหน่ายตั๋วที่ผ่านมา สำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นจะเป็นแรงผลักดันให้บริษัทไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาเว็บไซต์ House of Ticket เพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น ป้องกันปัญหาเช่นที่ผ่านมา เพื่อโอกาสในการเป็นช่องทางการจำหน่ายตั๋วอื่นๆ หรือการจำหน่ายตั๋วในการแข่งขันฟุตบอลในการแข่งขันสำคัญหากได้รับโอกาสอีกครั้งในอนาคต” นายสมชัยกล่าว
นายณรงค์ศักดิ์ เลิศทรัพย์ทวี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทยังคงมีรายได้หลักจากการให้บริการเติมเงินโทรศัพท์ระบบเติมเงินล่วงหน้าและรับชำระเงินออนไลน์อื่นๆ อีกทั้งยังมีรายได้จากค่าโฆษณา และบริการโอนเงิน ซึ่งยังมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องตามจำนวนตู้เติมเงินที่เพิ่มขึ้น
ขณะที่ช่วงที่เหลือของปี 2559 บริษัทยังคงเดินตามแผนที่วางไว้โดยจะขยายจำนวนตู้บุญเติมให้ได้ 90,000 ตู้ทั่วประเทศ และมียอดเติมเงินรวม 21,000 ล้านบาท
