เลสเตอร์อ้าแขนรับ ‘สุภโชค-ศุภชัย ใจเด็ด-ศุภณัฏฐ์’ ทดสอบฝีเท้า ถ้าดีจริงได้ลุยยุโรปแน่
นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้, คุณเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พร้อมด้วย 3 นักเตะอย่าง สุภโชค สารชาติ, ศุภชัย ใจเด็ด และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา เข้าร่วมแถลงข่าว “สานพลังบอลไทย ไปเลสเตอร์ ซิตี้” เตรียมส่ง สุภโชค สารชาติ, ศุภชัย ใจเด็ด และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา 3 ดาวรุ่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บินเก็บประสบการณ์ลูกหนังถึงอังกฤษ พร้อมทดสอบฝีเท้าลุ้นค้าแข้งในยุโรป เมื่อวันที่ 9 กันยายน ที่โรงแรมพูลแมน ซ.รางน้ำ
นายอัยยวัฒน์กล่าวว่า ความตั้งใจแรกที่เข้ามาบริหารสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ คือ จะสนับสนุนความสามารถของนักเตะไทย เพราะมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของคนไทย เลสเตอร์ ซิตี้ ให้ความสำคัญกับบุคลากร และการพัฒนาศักยภาพของนักเตะ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะมาพัฒนาทักษะ ซึ่งมองว่า สิ่งเหล่านี้เป็นการลงทุนด้านฟุตบอลระยะยาว ที่สำคัญเลสเตอร์ ซิตี้ มีศูนย์ฝึกซ้อมแห่งใหม่ที่ทันสมัยที่สุดในยุโรป และมีศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาที่ดีที่สุด นับว่าเป็นโอกาสที่ทั้ง 3 คนจะได้โชว์ศักยภาพที่มีในระดับยุโรป หากผทำผลงานได้ดีจะสนับสนุนให้ไปค้าแข้งกับโอเอช ลูเวิน ในเบลเยียม หรือกับเลสเตอร์ ซิตี้ได้ในอนาคต
“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความสามารถของทั้ง 3 คน ถึงแม้ไม่ประสบความสำเร็จก็ยังมื่อให้แมวมองในยุโรปได้เห็น แต่ก็อยากจะให้มีคนไทยไปเล่นฟุตบอลในสโมสรยุโรเช่นกัน” ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้กล่าว
นายเนวินกล่าวว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พยายามสร้างโอกาสให้นักเตะไทยได้มีโอกาสในการไปเล่นกับทีมที่ดีกว่าอยู่เสมอ ซึ่งถ้าเป็นลีกยุโรปก็พร้อมจะสนับสนุนเต็มที่ เพราะอยากให้ทั่วโลกเห็นความมุ่งมั่นและทุ่มเทของคนไทย การส่งทั้ง 3 คนไปทดสอบฝีเท้ากับเลสเตอร์ จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับทั้ง 3 คนในการค้าแข้งในสโมสรของลีกยุโรปแล้ว ยังจะเป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยในภาพรวมให้ได้มีนักเตะที่ค้าแข้งในลีกยุโรปบ้าง และเป็นการเดินตามรอยของทีมชาติญี่ปุ่น ที่มีนักเตะเล่นในลีกยุโรปเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ทีมมีความแข็งแกร่งพอกับการผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายได้ในอดีตที่ผ่านมา
สุภโชคกล่าวว่า ถือว่ายังพอมีเวลาให้เตรียมตัว เพราะกว่าจะไปอังกฤษก็จบไทยลีกฤดูกาลใหม่แล้ว นับเป็นโอกาสที่ดีมากที่ได้ไปทดสอบฝีเท้าครั้งนี้ จะพยายามทำให้ดีที่สุด
ศุภณัฏฐ์กล่าวว่า ทุกคนที่ได้ไปจะต้องทุ่มเทเต็มที่แน่นอน เพราะเป็นโอกาสที่ไม่ได้มาง่ายๆ อย่างไรก็ตามตอนนี้ต้องโฟกัสที่ไทยลีกก่อนเป็นอันดับแรก
ส่วนศุภชัยกล่าวว่า การไปครั้งนี้รู้สึกว่าคาดหวังพอสมควร จึงต้องพยายามทำลงานออกมาให้ดีที่สุดและเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด
นอกจากนี้ภายใต้การร่วมมือของทั้ง 2 สโมสรยังถือเป็นการต่อยอดแคมเปญ “Thailand Smiles With You” เพื่อส่งต่อพลังรอยยิ้มของคนไทยในประเทศ ด้วยการจัดทำเสื้อแข่งคอลเลคชั่นพิเศษ มีจำหน่ายเพียง 30,000 ตัว โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะนำมาซื้อลูกฟุตบอล 20,000 ลูก เพื่อกระจายให้กับกลุ่มหรือทีมเยาวชนต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการที่ช่วยส่งเสริมวงการฟุตบอลไทยตั้งแต่ระดับรากหญ้าทั่วประเทศอีกด้วย
