กกท.รับเสียดายยกเลิกจัดไอวาส เวิลด์เกมส์ ที่โคราช แย้มอาจรับเจ้าภาพปี 2023

กกท.รับเสียดายยกเลิกจัดไอวาส เวิลด์เกมส์ ที่โคราช แย้มอาจรับเจ้าภาพปี 2023

จากกรณีที่สหพันธ์กีฬาผู้พิการทางการเคลื่อนไหวโลก(ไอวาส) ได้ส่งหนังสือเเจ้งยืนยันอย่างเป็นทางการมาถึงประเทศไทยว่าขอยกเลิกการจัดการเเข่งขัน กีฬาผู้พิการทางการเคลื่อนไหวชิงเเชมป์โลก หรือ “ไอวาส เวิล์ดเกมส์ 2020” ซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพระห่วาง 10-17 ธันวาคมนี้ ที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์การเเพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก ไม่เอื้อให้มีการเเข่งขันรายการนี้ โดยเฉพาะข้อกังวลเรื่องของจำนวนนักกีฬาซึ่งน่าจะลดลงเเละไม่พอที่จะทำให้การเเข่งขันดำเนินต่อไปได้อย่างราบรื่น

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาเเห่งประเทศไทย(กกท.) ออกมาเปิดเผยว่า ตนได้รับทราบเเละเห็นหนังสือดังกล่าวเเล้ว อย่างเเรกคือ ต้องบอกว่าน่าเสียดายมากๆ ที่การเเข่งขันทัวร์นาเมนต์นี้ ซึ่งเป็นเเมตช์สำคัญที่ใช้ควอลิฟายนักกีฬาคนพิการไปลุยพาราลิมปิกเกมส์ โตเกียว ในปี 2021 ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ตามเเผนงานเเละกำหนดการที่วางเอาไว้ ก็คงต้องลุ้นกันต่อถึงขั้นตอนการคัดเลือกนักกีฬา ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะคัดนักกีฬาไปพาราลิมปิก โดยดูจากอันดับโลก

ผู้ว่าการ กกท.กล่าวอีกว่า ในส่วนของงบประมาณที่ลงทุนไปกับการปรับปรุงเเละเตรียมสนามเเข่งขันที่จ.นครราชสีมา ไม่ได้สูญเปล่า เพราะไม่ได้ปรับปรุงสนามเพื่อรองรับการจัดมหกรรมกีฬาไอวาสเวิล์ดเกมส์เพียงเกมเดียวเท่านั้น ซึ่งการปรับปรุงที่ผ่านมา ก็เพื่อใช้งานเเละใช้ประโยชน์ในด้านอื่นๆ ต่อด้วย อย่างสนามกีฬา ทีมฟุตบอลนครราชสีมา ก็ได้ใช้เป็นรังเหย้าสำหรับเกมฟุตบอลลีก ส่วนอาคารที่พักนักกีฬาที่มีการปรับปรุง ก็ถือว่าปรับปรุงเพื่อให้ได้ใช้รองรับทัพนักกีฬาคนพิการไทย ให้เข้าไปอยู่เเละเก็บตัวเป็นศูนย์ฝึกซ้อมไปด้วยเลย ซึ่งกกท.ก็ใช้ที่โคราช เป็นศูนย์ฝึกนักกีฬาคนพิการอยู่ด้วยในเวลานี้

“ข้อเสนอที่คณะกรรมการสหพันธ์กีฬาผู้พิการทางการเคลื่อนไหวโลก ได้เชิญไทยให้กลับมาเป็นเจ้าภาพอีกครั้งในปี 2023 ซึ่งในการเป็นเจ้าภาพปีดังกล่าว มีความสำคัญ เพราะมหกรรมนี้ในปีนั้นจะใช้ในการควอลิฟายนักกีฬาคนพิการไปกีฬาพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ฝรั่งเศสด้วยนั้น ก็ถือเป็นเรื่องที่น่าดีใจ ที่สหพันธ์ให้ความไว้ใจเเละมั่นใจว่าไทยจะเป็นเจ้าภาพได้ เเละก็น่าจะเป็นเรื่องดีสำหรับนักกีฬาไทย ที่จะได้ลงควอลิฟายในบ้านเรา เพียงเเต่อาจจะต้องมีการหารือกันของทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นทางการเพื่อดูความเหมาะสมกันต่อไป” ดร.ก้องศักดกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image